รีเซต
เทียบกันให้เห็น! วัดขุมกำลัง 'หงส์-ผี' แต่ละตำแหน่ง ใครเหนือกว่าในศึกแดงเดือด

เทียบกันให้เห็น! วัดขุมกำลัง 'หงส์-ผี' แต่ละตำแหน่ง ใครเหนือกว่าในศึกแดงเดือด

เทียบกันให้เห็น! วัดขุมกำลัง 'หงส์-ผี' แต่ละตำแหน่ง ใครเหนือกว่าในศึกแดงเดือด
EkkEReport
17 มกราคม 2564 ( 17:00 )
5.4K

ศึกแห่งศักดิ์ศรี ระหว่างคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่า กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง กลายเป็นเกมที่มีความสำคัญมากกว่าที่เคย เมื่อมันจะเป็น ศึกชิงจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก ด้วย แต่ทีมใดที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า ในเกมแดงเดือดครั้งนี้ เราขอเทียบให้เห็นกัน แบบตำแหน่งต่อตำแหน่งเลย

"ศึกแดงเดือด" ในครั้งนี้ นับว่ามาได้ถูกที่ ถูกเวลาจริงๆ เมื่อ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่า กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง จะต้องลงสนามฟาดแข้งกัน ใน คืนวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เวลา 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม แอนฟิลด์ โดยมี ตำแหน่งจ่าฝูงของศึกพรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน

ทว่าในเกมสุดสำคัญในครั้งนี้ ทีมใดที่มีขุมกำลัง และสภาพความพร้อมที่เหนือกว่ากัน เราขอพาทุกท่านไปพบกับบทวิเคราะห์ แบบปอนด์ต่อปอนด์ เทียบให้เห็นกันแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลย

ผู้รักษาประตู

อลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) VS ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ถือเป็นตำแหน่งที่ทั้ง 2 ทีม มีความแข็งแกร่งด้วยกันทั้งคู่ ทั้ง อลีสซง และ เด เคอา ล้วนเป็นนายด่านระดับแนวหน้าของโลก และพวกเขายังคงรักษาผลงานได้ดีในซีซั่นนี้ แม้ว่าในช่วงหลังมานี้ ผลงานของหงส์แดง จะไม่น่าประทับใจเท่าใด หลังทีมพลาดคว้าชัยมาหลายนัด แต่นั่นก็คงจะไม่ใช่ความผิดพลาดส่วนบุคคลของ อลีสซง เพราะทั้ง 2 ลูกจาก 3 เกมหลังที่เสียไป ก็ต้องยอมรับว่า มันก็เกินความสามารถของนายทวาร ที่จะป้องกันได้จริงๆ

ขณะที่ฝั่งของ เด เคอา มือกาวปีศาจแดง เสียไปเพียงลูกเดียวจาก 3 เกมหลังสุด ที่ แมนยู คว้าชัยได้ทั้งหมด ซึ่งหากดูจากรูปเกมใน 3 นัดดังกล่าวแล้ว ต้องบอกว่า เป็น ยูไนเต็ด ที่เป็นฝ่ายครองบอล และบุกเข้าใส่คู่แข่งได้มากกว่า ทำให้ นายทวารชาวสเปน ไม่ค่อยได้ออกแรงเซฟมากนัก แต่แม้ว่างานจะมีมาไม่มาก ทว่าแต่ละครั้งที่เขาต้องรับมือ หลายครั้งก็เป็นลูกยากๆ เช่นกัน แต่เขาก็ยังช่วยทีมเอาไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง จึงถือได้ว่า ฟอร์มของเขายังคงไว้ใจได้ในเวลานี้ 

อย่างไรก็ดี หากเทียบฝีไม้ลายมือกันแล้ว คงต้องบอกว่า ทั้ง 2 คน ก็มีศักยภาพที่ดีสูสีใกล้เคียงกัน แบบกินกันไม่ลงเลยก็ว่าได้

ฟันธง : เสมอกัน

 

กองหลัง

แนวรับของลิเวอร์พูล เคยมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งในซีซั่นก่อน ที่พวกเขาคว้าแชมป์มาได้ แต่พอมาในฤดูกาลนี้ กลายเป็นว่า พวกเขาต้องประสบปัญหาอย่างหนัก ในเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หัวใจในเกมรับ รวมถึง โจ โกเมซ ที่บาดเจ็บยาว จนทำให้หลังบ้านของหงส์แดง ได้ผลกระทบไปเต็มๆ อีกทั้ง เซนเตอร์ฮาล์ฟอาชีพ อีกรายอย่าง โจเอล มาติป ก็มามีปัญหาตามไปอีกคน

ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องตัดสินใจใช้เด็กดาวรุ่งอย่าง รีห์ส วิลเลียมส์ และ แนท ฟิลลิปส์ ทว่าในหลายๆ เกม พวกเขาก็ดูยังไม่นิ่งพอ จนส่งผลให้ช่วงหลัง คล็อปป์ จำเป็นต้องถอย 2 มิดฟิลด์คนสำคัญ อย่าง ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงไปยืนเป็นคู่เซนเตอร์แทน ซึ่งแม้จะได้ความเก๋าเกมมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า การไม่ได้เป็นกองหลังอาชีพ ก็ทำให้พวกเขามีปัญหาในการยืนตำแหน่งในบางครั้ง และที่สำคัญ คือ การที่ หงส์แดง จะไม่ได้ใช้ทั้ง ฟาบินโญ่ และ เฮนเดอร์สัน ในแผงมิดฟิลด์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พวกเขาถนัด และทำได้ดีที่สุด นับเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับทีมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ส่วนทางฝั่งของทีมเยือนอย่าง แมนยู เกมรับเล่นกันได้อย่างเหนียวแน่น และไว้ใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกับช่วงออกสตาร์ทซีซั่น ที่พวกเขาเล่นกันแบบหละหลวมสุดๆ แม้ช่วงหลัง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ เอริก ไบยี่ จะสลับกันลงสนาม และมีอาการบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ยังคงยืนเป็นแกนหลักได้อย่างต่อเนื่อง จนช่วยให้ทีมคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้แบบติดต่อกัน

หากเปรียบเทียบขุมกำลังชุดที่ดีที่สุด ที่ทั้ง 2 ทีมมี คงต้องยกให้ หงส์แดง ที่เหนือกว่า จากสิ่งที่พวกเขาเคยทำได้ในซีซั่นก่อน ทว่าเมื่อวัดกันในชั่วโมงนี้ ที่แผงหลังของ ลิเวอร์พูล กำลังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ขณะที่แนวรับแมนยู มีความพร้อมอย่างเต็มที่ อีกทั้งกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดี และค่อนข้างมั่นใจ จึงขอยกให้ฝั่งของ ปีศาจแดง เป็นฝ่ายที่เหนือกว่านิดๆ

ฟันธง : แมนยู เหนือกว่า

 

กองกลาง

นับเป็นอีกปัญหาของหงส์แดง ที่กระทบมาจากปัญหาในแดนหลัง เพราะเมื่อพวกเขาดึง 2 มิดฟิลด์คนสำคัญลงไปเล่น ทำให้ทีมเหลือเพียง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ที่เป็นแกนหลักในแดนกลาง ขณะที่ ติอาโก้ อัลคันทาร่า แม้จะมีฝีเท้าและชั้นเชิงที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวกับทีม และยังคงต้องการมิดฟิลด์สายพลัง มาช่วยเล่นเป็นตัวตัดเกม เพื่อทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ทำให้เกมนี้มีความเป็นไปได้สูง ที่ คล็อปป์ จำเป็นจะต้องเอากัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมายืนในแผงมิดฟิลด์อีกครั้ง เพื่อคอยปัดกวาดหน้าแผงกองหลัง

ตรงกันข้ามกับ ยูไนเต็ด ทีมเยือน ที่ขุมกำลังในแดนกลาง ต่างฟิตสมบูรณ์ พร้อมเป็นตัวเลือกกันอย่างครบครัน และยังสามารถสลับกันลงไปทำผลงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคู่ของ เนมานย่า มาติช กับ ปอล ป็อกบา ที่เน้นความเก๋าในการดักทางบอล หรือสายพละกำลังอย่างคู่ของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ขณะที่ ตัวรุกอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็ยังคงเป็นตัวบัญชาการเกมรุกของทีม ที่ยังฝากความหวังไว้ได้เสมอ

เกมนี้แดนกลางน่าจะเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ทั้ง 2 ทีมต่างต้องชิงความได้เปรียบกัน และจะได้วัดกันแบบเต็มๆ ว่ามิดฟิลด์ของทีมใด จะทำได้ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงมองไม่ออกจริงๆ ว่าจะเป็นฝั่งไหน

ฟันธง : เสมอกัน

 

กองหน้า

แม้ว่า 3 ประสานแนวรุกของ ลิเวอร์พูล อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ จะดูฟอร์มดร็อปลงไปในช่วงหลัง จนกลายเป็นกระแสว่า พวกเขาโดนคู่แข่งจับทางได้หมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ความอันตรายของพวกเขายังคงไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่น่าจะเป็นเรื่องของความมั่นใจมากกว่า ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดความผิดพลาดในจังหวะที่ ถ้าเป็นช่วงที่พวกเขาท็อปฟอร์ม คงจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้น่าจะขึ้นอยู่ที่ว่า 3 แข้งตัวความหวังในแดนหน้าของหงส์แดง จะเรียกฟอร์มเก่งคืนมาได้ในเกมนี้หรือไม่

ขณะที่แนวรุกของ แมนยู อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ เอดินสัน คาวานี่ แม้จะยังไม่ได้ทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็มีส่วนร่วมในการทำเกมรุกของทีมอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่เรื่องของความเร็ว ซึ่งพร้อมจะเล่นงานแนวรับคู่แข่งอยู่ตลอด เพียงแต่ว่าเรื่องของความเฉียบคม และความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ อาจจะยังขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง โดยเฉพาะ มาร์กซิยาล ที่ยังคงต้องการประตู เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา

ซึ่งหากวัดกันตามศักยภาพแล้ว คงต้องบอกว่า แนวรุกของพวกเขาสูสีใกล้เคียงกันมาก แต่หากพิจารณาในเรื่องของความเข้าขารู้ใจ น่าจะเป็นฝั่งเจ้าถิ่น ที่ได้เล่นด้วยกันมานานและสม่ำเสมอกว่า ดูดีกว่าอยู่นิดๆ ส่งผลให้ หงส์แดง น่าจะยังคงฝากความหวังไว้กับพวกเขาได้

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เหนือกว่านิดๆ

 

ผู้จัดการทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล) VS โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

โซลชา พาทีมทำผลงานได้ดีเหลือเกินในช่วงหลัง จนทำให้พวกเขาขยับรั้งจ่าฝูง ในช่วงนัดที่ 17 ของฤดูกาล ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้ความมั่นใจของเขา น่าจะมีเต็มเปี่ยมก่อนเกมนี้ ส่วนฝั่งของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แม้จะพลาดคว้าชัยในลีกมาถึง 3 เกมติด แต่หากวัดกันที่ประสบการณ์แล้ว ต้องยอมรับว่า ฝั่งนายใหญ่หงส์แดง ยังคงเหนือว่า กุนซือปีศาจแดง อยู่พอสมควร อีกทั้ง คล็อปป์ ก็ยังไม่เคยพลาดท่าแพ้ให้กับ โซลชา เลยจากการพบกันในศึกแดงเดือด 3 นัดก่อนหน้านี้ (ชนะ 1 เสมอ 2)

ทำให้หากเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้ว ยังคงเป็น คล็อปป์ ที่มีภาษีดีกว่านิดๆ ทว่า โซลชา เองก็หวังจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้ได้ในเกมนี้เช่นกัน

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เหนือกว่า

 

"เอกกี้รีพอร์ต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> เดือดยิ่งกว่า!! เชียร์ศึกแดงเดือดสุดมันส์ แถมรับทรูพอยท์ 100 คะแนน

>> พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "ศึกแดงเดือด" ลิเวอร์พูล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด

>> เดิมพันจ่าฝูง!! 4 ประเด็นเด็ดแดงเดือด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านดวล แมนยู

>> อุ่นเครื่องกันก่อน! ส่องสถิติน่าสนใจศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล บู๊ แมนฯ ยูไนเต็ด คืนนี้

 

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ ใช้ฟรี 7 วัน!!!!

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี