ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 12 คู่ระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พบ “ผึ้งพิฆาต” เบรนท์ฟอร์ด จบลงด้วย ฝ่ายเจ้าบ้านลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายชนะไป 3-0 ประตู เกมนี้ดาร์วิน นุญเญซ ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายของเบรนท์ฟอร์ดถึง 2 ครั้ง แต่ถูกปฏิเสธด้วย VAR ทั้ง 2 ครั้ง ตรงข้ามกับโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายของเบรนท์ฟอร์ด 2 ครั้งและเป็นประตูทั้ง 2 ครั้ง และมาได้ประตูปิดท้ายลูกที่ 3 จากดิโอโก้ โชต้าผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ใช้ระบบการเล่น 4-3-3ผู้รักษาประตู : อลิสสัน เบ็คเกอร์ กองหลัง : คอนสแตนตินอส ซิมิกาส (แบ็คซ้าย), เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (หลังคู่กลาง), โจเอล มาติป (หลังคู่กลาง), เทรนต์ อาร์โนลด์ (แบ็คขวา)กองกลาง : โกดี คักโป,วาตารุ เอ็นโด, โดมินิก โซบอสซ์ไลกองหน้า : ดิโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นุญเญซ, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เบรนท์ฟอร์ด : โทมัส แฟรงค์ ผู้จัดการทีม ใช้ระบบการเล่น 3-5-2ผู้รักษาประตู : มาร์ค เฟล็คเค่นกองหลัง : อีธาน พินน็อก(แบ็คซ้าย), เบน มี, นาธาน คอลลินส์(แบ็คขวา)กองกลาง : แมดส์ โรเออร์สเลฟ ราสมัสเซน, มาเทียส เจนเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, วิตาลี ยาเนลต์, คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์กองหน้า : ไบรอัน เอ็มบูโม่, โยอัน วิสซ่าฟอร์มการเล่นและสถิติก่อนการแข่งขันลิเวอร์พูล แข่งไปแล้ว 11 เกม ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 1 มี 24 แต้ม อยู่อันดับ 4 เล่นเกมเหย้า 5 เกม ชนะรวดเบรนท์ฟอร์ด แข่งไปแล้ว 11 เกม ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 3 มี 16 แต้ม อยู่อันดับ 9 เล่นเกมเยือน 5 เกม ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2การแข่งขันครึ่งแรก 45 นาทีนาที 3 : โคดี้ ฆัคโป ของลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ยิงไกลตรงกรอบเขตโทษ แต่บอลตรงตัวมาร์ค เฟล็คเค่น ผู้รักษาประตูของเบรนท์ฟอร์ดนาที 4 : เบนมี ของเบรนท์ฟอร์ด กระดกบอลโด่งในกรอบเขตโทษเข้ามาหน้าประตู โยอัน วิสซ่า อยู่คนเดียวไม่มีใครประกบ แต่โหม่งบอลไม่โดน บอลขลุกขลิกหน้าประตู เด้งมาเข้าทางอีธาน พินน็อก กระโดนยิงด้วยซ้ายโดนแต่โดนไม่เต็มเท้าอีก บอลเบาอย่างปุยนุ่นและไม่ตรงกรอบนาที 5 : ดาร์วิน นุญเญซ ของลิเวอร์พูล วิ่งทำช่องได้บอลแล้วส่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ โดนกองหลังสกัด บอลพุ่งแรงไปเสาแรก แต่มาร์ค เฟล็คเค่น ผู้รักษาประตูของเบรนท์ฟอร์ด ปฏิกิริยายังดีพุ่งปัดไว้ได้ทันนาที 15 : โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล เปิดบอลเลียดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ให้ดาร์วิน นุญเญซ ยิงด้วยขวาแต่มุมมันแคบ ผู้รักษาประตูเบรนท์ฟอร์ดเซฟไว้ได้นาที 17 : กองหลังของลิเวอร์พูลผิดพลาด ทำบอลออกห่างเท้า เปิดโอกาสให้ไบรอัน เอ็มบูไม่ ที่อยู่ใกล้ วิ่งเข้าใส่ด้วยซ้าย แต่บอลโด่งข้ามคานออกไปนาที 21 (VAR) : ดาร์วิน นุญเญซ ส่งบอลเข้าสู่ตาข่ายของเบรนท์ฟอร์ด แต่ล้ำหน้านิดเดียวนาที 26 (VAR) : ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม โยนเข้ามาตรงกลาง ฟาน ไดจ์ค ได้โหม่งเต็ม ๆ บอลตรงเข้ากรอบประตูแต่มาร์ค เฟล็คเค่น กระโดดเซฟไว้ได้ บอลโด่งออกมา โจเอล มาติป โหม่งกลับเข้าไปอีก บอลเบาแต่ไปเข้าทางของดาร์วิน นุญเญซ ตีลังกายิงเข้าประตูไป แต่มาจากตำแหน่งล้ำหน้าเลยยังไม่ได้ประตูนาที 31 : เบรนท์ฟอร์ดโต้กลับเร็ว บอลมาถึงไบรอัน เอ็มบูโม่ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่อลิสสัน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล ออกมาปิดมุมได้ทัน เซฟไว้ได้นาที 38(1-0) : ดาร์วิน นุญเญซ ของลิเวอร์พูล ส่งบอลให้โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เข้าไปยิงในเขตโทษด้วยซ้ายเบียดเสาสองเข้าประตูไปนาที 45+1 : ดาร์วิน นุญเญซ ของลิเวอร์พูล ยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัวผู้รักษาประตูของเบรนท์ฟอร์ดการแข่งขันครึ่งหลัง 45 นาทีนาที 60 : คริสเตียน นอร์การ์ด ของเบรนท์ฟอร์ดทำชิ่งหนึ่งสองกับนาธาน คอลลินส์ หลุดเข้าไปยิงได้ แต่ติดบล็อคของกองหลังลิเวอร์พูลนาที 61 (2-0) : ดิเอโก โชต้า ของลิเวอร์พูล จ่ายบอลทะลุช่องให้คอนสแตนตินอส ซิมิกาส วิ่งไปเปิดบอลจากเส้นหลังประตู บอลเกือบจะออกแต่ไม่ออก เปิดโด่งเข้าไปหน้าประตูได้ทัน มีโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กางมุ้งรออยู่ และได้โหม่งคนเดียวไม่มีใครมาประกบ โหม่งเข้าไปง่าย ๆ เป็นประตูขึ้นนำ 2-0 ประตูนาที 65 : เบรนท์ฟอร์ดได้ลูกเตะมุม เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ คริสเตียน นอร์การ์ด ตวัดยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งไปเสาสอง โยอัน วิสซ่า พุ่งเข้าชาร์ทไม่ทัน ทำให้ลูกเฉียดเสาออกไปนาที 73 (3-0): กองหลังของเบรนท์ฟอร์ด สกัดบอลออกมา แต่บอลไปเข้าทางดิเอโก โชต้า ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเต้มข้อ แต่ก็ยังติดกองหลังเบรนท์ฟอร์ด บอลไปถึงคอนสแตนตินอส ซิมิกาส กระชากเข้าไปตรงกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วตวัดกลับมาให้ดิเอโก้ โชต้า อีกครั้ง โชต้าเลี้ยงบอลเข้าไปตรงกรอบเขตโทษหน้าประตู ครั้งนี้ยิงด้วยขวา บอลแรงเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามนาที 76 : เบรนท์ฟอร์ดได้ลูกเตะมุมจากฝั่งขวา เปิดเข้ามาหน้าประตู คริสเตียน นอร์การ์ด ได้โหม่งบอลพุ่งไปทางเสาสอง มีนีล โมเปย์ รอชาร์ทอยู่ แต่ฟาน ไดจ์ค ใช้ช่วงขาที่ยาว เอาเปรียบเพื่อน เหยียดไปเตะสกัดบอลออกไปได้ ก่อนที่บอลจะถึงนีล โมเปย์นาที 77 : เบรนท์ฟอร์ดได้เตะมุมต่อเนื่อง คราวนี้ได้เปิดจากฝั่งซ้าย เปิดบอลเข้ามาหน้าประตู อีธาน พินน็อกกระโดดโหม่งได้ บอลพุ่งเข้ากรอบประตู แต่อลิสสัน เบ็คเกอร์ พุ่งปัดออกไปนาที 87 : ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตัวสำรองของลิเวอร์พูล ยิงไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงเข้าไปทางเสาสอง แต่ผู้รักษาประตูของเบรนท์ฟอร์ดยังไม่หลับพุ่งปัดออกหลังไปได้นาที 88 : กองหลังของเบรนท์ฟอร์ดสกัดลูกเตะมุมของลิเวอร์พูล บอลโด่งออกมาเข้าทางของโดมินิก โซบอสซ์ไล ไม่ต้องจับต้องแต่งบอลเลย ซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลแรงเข้ากรอบแต่ตรงตัวผู้รักษาประตูคุยกันหลังเกมครึ่งแรกเป็นฝ่ายเจ้าบ้าน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลทำเกมบุกอย่างเดียว ส่วนทีมเยือน “ผึ้งพิฆาต” มาเน้นรับโต้กลับ โดยเน้นให้ไบรอัน เอ็มบูโม่ เป็นตัวหลักในแดนหน้า เกมแบบนี้เบรนท์ฟอร์ดก็แค่รอเสียประตู แล้วก็เสียประตูจริง โดยจบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 1-0 ประตู ครึ่งแรกเบรนท์ฟอร์ดแทบไม่ได้บุกเลย เปิดมาครึ่งหลัง เบรนท์ฟอร์ดเปิดเกมรุกสู้กับเจ้าบ้าน แต่ยังไม่เต็มที่กลัวจะเสียประตูอีก แล้วก็จริง มาโดนอีก 2 ประตู พอโดนนำ 3-0 ประตู ค่อยเดินเกมรุกเต็มที่ เปลี่ยนตัวแนวรุกมาช่วย 3 ตัว โดย 15 นาทีสุดท้ายเบรนท์ฟอร์ดบุกได้ดีจริง ๆ แต่จังหวะสุดท้ายทำประตูไม่ได้เกมต่อไปของทั้งสองทีมลิเวอร์พูล : จะไปเยือนแมนเชสเตอร์ซิตี้ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.30 น. เกมนี้คงไม่มีใครพลาดแน่สำหรับคอบอลพรีเมียร์ลีก แมนซิตี้เล่นในบ้าน 5 เกมชนะทั้ง 5 เกม เฉพาะเกมในบ้านยิงได้ถึง 16 ประตู เสียแค่ 3 ประตู ส่วนทีมเยือนลิเวอร์พูลในเกมเยือน 6 เกม ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1ยิงได้ 10 ประตู เสียถึง 8 ประตู ลิเวอร์พูลยังเล่นเกมเยือนไม่ดีและกองหลังเสียประตูในเกมเยือนเยอะ ซึ่งนัดนี้เจอแมนซิตี้ในบ้านที่มีขุมกำลังในแนวรุกเพียบ พร้อมที่จะยิงคู่ต่อสู้ได้ทุกทีม เชื่อว่าเกมนี้ลิเวอร์พูลไม่น่ามีแต้มกลับออกมาเบรนท์ฟอร์ด : จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 3 ของตาราง ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 00.30 น. เกมนี้ถ้าเบรนท์ฟอร์ดเปิดเกมรุกเต็มที่น่าจะเป็นเกมที่สนุกเลยทีเดียว แต่เชื่อว่าถ้าเบรนท์ฟอร์ดโดนยิงก่อนก็น่าจะใส่เต็มที่แน่นอน แต่ถ้าเบรนท์ฟอร์ดยิงขึ้นนำก่อนก็จะผ่อนเกมมาเน้นรับ ซึ่งเป็นเกมที่เบรนท์ฟอร์ดไม่ถนัด เกมนี้มองแล้วเชื่อว่าเบรนท์ฟอร์ดไม่น่าจะสู้ความคมและเคี้ยวของทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลได้ และมีสิทธิ์แพ้คาบ้านเครติดภาพ ภาพปก : Liverpool FC ภาพปก ภาพประกอบ : Liverpool FC ภาพที่ 1 ภาพที่ 3 Brentford FC ภาพที่ 2 ภาพที่ 4 Manchester City ภาพที่ 5 Arsenal ภาพที่ 6 ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!