ลิเวอร์พูล พบ แมนซิตี้ เกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่ 28 ของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ กลายเป็นเกมที่ถูกจับตามองไปทั่วทุกมุมโลก การแข่งขันนัดนี้อาจจะชี้ชะตาว่าทีมไหนจะได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งการแข่งขันก็จบลงด้วยการเสมอกัน แต่อุณหภูมิของเกมนี้นั้นร้อนแรงทะลุจุดเดือด รายละเอียดของการแข่งขันเริ่มการแข่งขันในครึ่งแรกเป็นทีมเยือนแมนซิตี้ที่เปิดเกมบุกใส่ทีมลิเวอร์พูลตั้งแต่ต้นเกม แต่จบสกอร์ไม่ได้ จนในนาทีที่ 20 ดาร์วิน นูเญซจ่ายบอลให้หลุยส์ ดิอาซ ยิงเข้าประตูไปแต่กรรมการเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า หลังจากพลาดโอกาสการขึ้นนำกลายเป็นทีมเรือใบสีฟ้าที่ขึ้นนำได้ก่อนจากลูกเตะมุม และเป็นจอห์น สโตนส์ยิงประตูเข้าไป ทำให้ครึ่งแรกแมนซิตี้นำ 0-1ครึ่งหลังลิเวอร์พูลแก้เกมมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่นาทีแรกในช่วงครึ่งหลังดาร์วิน นูเญซสามารถเรียกจุดโทษได้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นคนสังหารจุดโทษพาลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอแมนซิตี้ 1-1 กลับเข้าสู่เกมได้สำเร็จ ต่อมานาทีที่ 62 ลิเวอร์พูลมีโอกาสขึ้นนำโมฮาเหม็ด ซาลาห์จ่ายบอลทะลุช่องให้กับหลุยส์ ดิอาซหลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่เจ้าตัวดันยิงหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นนาที 72 แมนซิตี้ก็มีโอกาสที่จะแซงขึ้นนำเช่นเดียวกัน นาธาน เอเก้วางบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษเคลเลเฮอร์ออกมาชกบอลไปโดนตัวฟิล โฟเดน และเด้งไปชนคาน ลิเวอร์พูลรอดจากการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด แมนซิตี้มีโอกาสอีกครั้งนาทีที่ 88 เจเรมี่ โดกู ยิงไปชนเสา เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โดนเจเรมี่ โดกูยันไปที่ชายโครง ซึ่งเป็นจังหวะที่ควรจะได้จุดโทษแต่กรรมการกลับปล่อยผ่าน ทำให้สุดท้ายแล้วทั้งสองทีมเสมอกันด้วยสกอร์ 1-1สำหรับผู้เล่นที่เล่นได้ดีในนัดนี้ทางฝั่งซิตี้ก็คงต้องยกให้ เควิน เดอ บรอยน์ เขายังคงเป็นผู้เล่นจอมทัพของทีมเรือใบสีฟ้าและในเกมนี้ก็ทำไปได้หนึ่งแอสซิสต์ ส่วนผู้เล่นของทีมนิวลิเวอร์พูลวาตารุ เอ็นโด เป็นผู้เล่นที่เล่นได้อย่างโดดเด่นสามารถป้องกันเกมรุกจากเควิน เดอ บรอยน์ ได้หลายครั้งทำให้เกมของแมนซิตี้ ขึ้นมาในแดนลิเวอร์พูลได้ยาก อีกสองคนก็คือหลุยส์ ดิอาซและฮาร์วีย์ เอลเลียตที่วิ่งไล่บอลตลอดทั้งเกม บทสัมภาษณ์ของผู้จัดการทีมทั้งสองทีมเจอร์เก้น คล็อปป์ผู้จัดการทีมหงส์แดงได้พูดเกี่ยวกับเกมนี้ไว้ว่า “ ในช่วงครึ่งหลัง ทีมของเราเล่นได้ดี ดีมากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอกับแมนซิตี้มา พวกเขามีโอกาสจะทำประตู แต่เช่นเดียวกันพวกเราก็ควรที่จะทำประตูได้สองถึงสามประตู มันเป็นเกมที่สุดยอดมาก อย่างที่ได้บอกไว้ก่อนเกม ไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรพวกเราทำเต็มที่ และดูผลลัพธ์ของมัน ผมได้ดูการแข่งของแมนซิตี้มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่แมนซิตี้เจอกับปัญหามากที่สุด ในจังหวะสุดท้ายของเกม มันควรเป็นจุดโทษ 100% ถ้ามันเกิดที่ขอบสนาม หรือกลางสนามมันก็ควรเป็นการฟาวล์ 100% และควรเป็นใบเหลือง แต่นี่มันเกิดในกรอบเขตโทษ พวกเขากลับไม่ทำอะไรเลย พวกเราที่ดูบน iPad และ Laptop มันเคลียร์มากที่จะเป็นจุดโทษ ซึ่งถ้าพูดถึงเกมโดยภาพ ผมโอเคที่สกอร์มันเป็น 1-1 สิ่งสำคัญคือเราได้เล่นฟุตบอลแบบนั้นได้ มันเป็นการเล่นที่ยอดเยี่ยมมาก ” เป๊ป กวาร์ดิโอล่าผู้จัดการทีมของเรือใบสีฟ้าได้ให้ความเห็นไว้ว่า “ พวกเราเล่นกันได้ดี และรู้ว่าการเล่นในสนามแห่งนี้มันเป็นเกมที่ยาก พวกเขาเล่นกันได้ดี ลิเวอร์พูลคือคู่แข่งที่ยอดเยี่ยม สิ่งที่พวกเขาทำให้เราเห็นในวันนี้มันน่าเหลือเชื่อ การมาแข่งที่นี่มันยากมากถึงแม้ว่าเราเคยทำได้ในอดีต หลังจากที่เราเสียจุดโทษไป มันเหมือนกับสึนามิที่ถาโถมเข้ามา ” กล่าวถึงเจอร์เก้น คล็อปป์ “ เขาจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน ผมไม่รู้หรอกว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือว่าจะเจอกันอีกในเอฟเอคัพ มันน่าเหลือเชื่อ เขาทำให้พวกเรากลายเป็นทีมที่ดีขึ้น ทำให้ผมเป็นผู้จัดการทีมที่ดีขึ้น ลึก ๆในใจผมมองว่าเขาจะกลับมา โลกของฟุตบอลต้องการคนที่มีบุคลิกแบบเขา ” ภาพปก Premier Leagueภาพประกอบ 1 เพจ Man Cityภาพประกอบ 2 Instagram LiverpoolFCภาพประกอบ 3 Instagram LiverpoolFCภาพประกอบ 4 เพจ Man City เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบนApp TrueIDโหลดเลย ฟรี !