การที่คุณเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ได้รับการจับตามองตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเป็นดาวเตะที่ประสบความสำเร็จเสมอไป บ่อยครั้งที่ดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วงเพราะความกดดันที่มากเกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะรับไหว การตัดสินใจย้ายผิดทีมจนดับหรือปัจจัยอื่นอีกมายมาย และสืบเนื่องจากวันที่ 6 ตุลาคมเป็นวันเกิดของอดีตดาวรุ่งคนหนึ่ง ในบทความนี้ผมจะพาไปเจาะเส้นทางชีวิตของ " แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก (Kasper Dolberg) " ยอดดาวรุ่งที่เคยถูกมองเป็นอนาคตไกลของฟุตบอลเดนมาร์ก ดอลเบิร์กเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1997 ( 24 ปี) ที่เมืองซิลเคบอร์กในประเทศเดนมาร์ก เขาได้รับการฝึกฝนในระบบเยาวชนของสโมสรซิลเคบอร์ก ไอเอฟ และได้ย้ายไป " อาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัม " ซึ่งเป็นสโมสรที่สร้างให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และด้วยความแววดีนี้เองจึงไม่แปลกที่ดอลเบิร์กจะมีชื่อติดทีมชาติเดนมาร์กทุกรุ่นไล่ตั้งแต่ U-16, U-17, U-19 และ U-21 จนในที่สุดเขาก็ได้ติดทีมชาติเดนมาร์กชุดใหญ่สมใจ ในปี 2016 ดอลเบิร์กได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของเดนมาร์กด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกวางให้เป็นอนาคตของชาติเลยทีเดียว จนฟอร์มไปเข้าตาแมวมองของอาแจ็กซ์ที่ดึงขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ลงทำศึกเอเรอดีวีซีลีก และยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก โดยสถิติการลงเล่นทั้งหมด 78 นัด กดไปทะลุ 33 ประตู และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้อาแจ็กซ์ทะลุไปได้ไกลถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรปาลีกเมื่อปี 2017 แต่น่าเสียดายที่พาทีมไปไม่ถึงดวงดาว หลังจากฟอร์มที่พุ่งแรงพร้อมชื่อเสียงที่ดังเป็นพลุแตกตั้งแต่อายุน้อยๆ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเขากลับไม่พัฒนาแบบก้าวกระโดดเหมือนดาวเตะรุ่นเดียวกัน สุดท้ายหลังออกจากอาแจ็กซ์ในปี 2019 เขาก็เก็บกระเป๋าเดินทางข้ามประเทศไปยังฝรั่งเศสเพื่อร่วมทีม " นีซ " ซึ่งเป็นสโมสรปัจจุบันที่เขาเล่นอยู่ ซึ่งเป็นทีมระดับกลางๆ ที่ไม่ได้มีบทบาทลุ้นแชมป์อะไรเลยกับผลงาน 23 นัด ยิงไปเพียง 11 ประตู ซึ่งปริมาณการลงเล่นน้อยมากเนื่องจากอาการบาดเจ็บ และการรักษาฟอร์มเก่งสม่ำเสมอไม่ได้ ก่อนที่ชื่อของดอลเบิร์กจะถูกพูดถึงอีกครั้งในศึกยูโร 2020 กับทีมชาติเดนมาร์กที่ยิงไปทั้งหมด 3 ประตู จากการลงเล่นเพียง 4 นัดในฟุตบอลรูปแบบทัวร์นาเมนต์ระยะสั้น จากตอนแรกที่ถูกมองว่าคงเป็นได้แค่ตัวสำรองกลายเป็นกำลังหลักที่พาเดนมาร์กทะลุไปถึงรอบตัดเชือกได้ ถ้าหากพูดกันตามตรงคือผมเสียดายแววของเจ้าหนูคนนี้มากจริงๆ เพราะในช่วงหลังชื่อของดอลเบิร์กเริ่มหายไปจากหน้าสื่อความสนใจของพวกเรา เนื่องจากการย้ายไปอยู่ทีมกลางๆ ในลีกเอิงฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลีกที่ดูชื่อชั้นเป็นรองอีก 4 ลีกใหญ่ของยุโรปอย่างเห็นได้ชัด การนำคุณภาพของเพื่อนร่วมลีกมาใช้เป็นตัวชี้วัดการเป็นสุดยอดดาวยิงก็ดูไม่สมเหตุสมผล เพราะฉะนั้นหนทางที่จะพลิกชีวิตดอลเบิร์กให้กลับมาอีกครั้งคือการออกไปพิสูจน์ตัวเองในลีกชั้นนำอื่นๆ เช่นอังกฤษ อิตาลี สเปน และเยอรมัน อาจจะไม่ต้องขั้นย้ายไปทีม TOP 3 ของแต่ละลีก แต่เป็นทีมระดับกลางก็เพียงพอที่จะต่อยอดฟอร์มต่อไปได้แล้ว หลังจากนั้นการจะไต่เต้าไปทีมระดับลุ้นแชมป์ก็ดูจะมีความเป็นไปได้มากกว่าตอนนี้ ** Ref Picture ภาพหน้าปก : จาก Nice ภาพประกอบ 1 จาก Uefa.com / 2 จาก FB AFC Ajax / 3 , 4 จาก FB OGC Nice ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !