ยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด สำหรับแฟนบอลที่ติดตามพรีเมียร์ลีกอังกฤษมาหลายสิบปี จะรู้จักกันเป็นอย่างดี ลีดส์ เป็นทีมที่เคยร้อนแรงอย่างมากในช่วงยุค 90s-2000 เป็นทีมแสบสำหรับเหล่าทีมยักษ์ใหญ่สมัยนั้น อีกทั้งเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลสนุก แต่หลังจากเจอวิกฤตทางการเงินและการขายนักเตะเพื่อใช้หนี้ที่ไปกู้ยืมมา จนท้ายที่สุด ลีดส์ต้องตกชั้นไปอยู่ลีกแชมป์เปี้ยนชิพและเคยลงไปถึงลีกวันมาแล้วเกือบ 3 ปี จนกระทั่งสามารถขึ้นมาอยู่ในแชมป์เปี้ยนชิพได้อีกครั้ง และพยายามอย่างมากในการกลับมาอยู่ในลีกสูงสุดอีกครั้ง จนกระทั่งช่วงเปลี่ยนมือเจ้าของทีมใหม่ และในมือของกุนซือมาดมาเฟียอย่าง มาร์เซโล บิเอลซ่า ที่มาปลุกชีพลีดส์ ยูไนเต็ดให้มีความร้อนแรงในเรื่องของเกมบุกและความดิบของการไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แม้จะถูกยิงถล่มแค่ไหน พวกเขาพร้อมเอาคืนด้วยการทำประตูแซงเพื่อกลับมาชนะ ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยเกือบ Play-off แล้วขึ้นมาอยู่ลีกสูงสุดได้ แต่ก็ยังไม่สามารถคว้าโอกาสนั้นมาได้ จนกระทั่งในฤดูกาล 2019/2020 พวกเขาทำเซอร์ไพรซ์ด้วยการคว้าโทรฟี่แชมป์เปี้ยนชิพซึ่งเป็นตั๋วใบสำคัญที่ทำให้พวกเขาเบิกทางสู่พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง หลังจากที่ต้องรอคอยมาถึง 13 ปีกว่าพวกเขาจะกลับขึ้นมาสู่จุดสูงสุดที่พวกเขาเคยอยู่แต่สุดท้ายแล้ว งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา แม้เขาจะทำให้กับลีดส์ขนาดไหน แต่ปีที่แล้ว ผลงานของลีดส์นั้นไม่กระเตื้องขึ้นเลย อีกทั้งต้องไปลุ้นหนีตกชั้น ทำให้ตัวบิเอลซ่าถูกไล่ออกจากทีมและไปดึงเจสซี่ มาร์ชมาเป็นผู้จัดการทีมต่อจากเขา โดยเขานั้นสามารถพาลีดส์รอดจากการตกชั้นไปได้อย่างหวุดหวิดในฤดูกาลที่แล้ว แต่มาในฤดูกาลนี้ กลับทำผลงานไม่น่าประทับใจเลย ทำให้เขาถูกไล่ออก และสโมสรก็แต่งตั้งไมเคิล สคูบาล่า มาเป็นการชั่วคราว แต่ก็เหมือนจะยังไม่ดีขึ้น จนกระทั่งสุดท้าย พวกเขาก็ไปทาบทาม ฆาร์บี้ กราเซีย อดีตผู้จัดการทีม อัลซาร์ด มาคุมทีมอย่างถาวรและเขาก็สามารถพาทีมเอาชนะ เซาท์แธมป์ตันไปได้ 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งปัญหาของลีดส์นั้น ดูจะกระทบมาตั้งแต่การพาเหรดกันฟอร์มตกของแนวรุกในทีม ทั้งโรดริโก้ โมเรโน่ แพทริค แบมฟอร์ด การเสียนักเตะตัวหลักทั้ง ราฟินญ่าและคัลวิน ฟิลลิปส์ ที่ส่งผลกระทบกับทีมอย่างหนักมาก เพราะฤดูกาลที่แล้วทั้งสองคนถือว่าเป็นตัวหลักของทีมที่ช่วยให้ทีมรอดจากการเสียแต้มไปได้ อีกทั้งปัญหาแผนการเล่นที่ไม่ค่อยจะนิ่งเท่าไหร่ เพราะลีดส์ยังคงมีแบบแผนการเล่นแบบบิเอลซ่าอยู่ในตัวนักเตะหลายคน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เหมือนเดิม ทำให้ตอนนี้กราเซียต้องทำการรื้อและปรับจูนกันใหม่ทั้งนักเตะเก่าและใหม่ของทีม รวมไปถึงคิดแผนสองว่าถ้าหากรอดจากการตกชั้น จะสามารถรั้งนักเตะตัวหลักและคีย์แมนของทีมได้หรือไม่สถานการณ์ในตารางคะแนนของลีดส์นั้นตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 17 มี 22 คะแนน คะแนนห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น อีกทั้งยังมีเกมเอฟเอ คัพ รอบ 5 ที่จะเจอกับฟูแล่มด้วย ทำให้พวกเขานั้นอาจจะมีทางเลือกน้อยลงอย่างมากในการจะไปหวังแชมป์เอฟเอ คัพ เพราะทีมใหญ่ๆก็ยังไม่ได้ตกรอบไปทั้งหมด พวกเขาอาจจะต้องยอมทิ้งเอฟเอ คัพ เพื่อมาโฟกัสการหนีตกชั้นอย่างด่วนๆ เพราะการตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก จะทำให้รายได้ที่จะเข้ามานั้นหดหายไป นักเตะหลายๆคนอาจทยอยย้ายไปอยู่ทีมอื่น ซึ่งสโมสรคงไม่ยอมอย่างแน่นอน ซึ่งโอกาสที่พวกเขาจะรอดจากการตกชั้นนั้น จะต้องโฟกัสเป็นนัดต่อนัด โดยคว้าโอกาสจากการเตะกับทีมระดับเดียวกับตัวเองหรือฉวยโอกาสตัดแต้มจากทีมใหญ่(หากทำได้) โดยนัดถัดไปในลีกนั้น พวกเขาจะต้องออกไปเยือน เชลซี ที่กำลังต้องการชัยชนะในลีกเช่นกัน หลังจากพวกเขาเสมอและแพ้มาหลายนัด ทีมกำลังระส่ำ สถานการณ์ไม่สู้ดี พวกเขาก็ต้องการจุดเปลี่ยนเช่นกัน หากลีดส์สามารถคว้าชิ้นปลามันจากนัดนี้ไปได้อีก น่าจะเป็นหมุดหมายที่ดีในการเริ่มต้นไล่ล่าแต้มเพื่อหนีไปอยู่อันดับที่สูงกว่านี้ เพื่อการันตีความปลอดภัยจากการตกชั้นขอให้ลีดส์ผ่านพ้นวิกฤตที่กำลังเจออยู่และอยู่รอดในพรีเมียร์ต่อไปได้ขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Facebook Leeds Unitedภาพที่ 2 จาก Facebook Leeds Unitedภาพที่ 3 จาก Twitter Leeds Unitedภาพที่ 4 จาก Twitter Leeds Unitedภาพที่ 5 จาก Twitter Leeds Unitedภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter Robin KochCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์