
จะได้เคลียร์.! ฟีฟ่า ส่อปรับกฎ VAR + ทุ่มบอล ใหม่หมดคาดใช้ในฟุตบอลโลก
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติมีแผนที่จะมีการปรับเปลี่ยนกฎ VAR ครั้งใหญ่ รวมไปถึงปรับแก้กฎของการทุ่มบอลที่เป็นอยู่ในตอนนี้
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า มีรายงานว่าจะมีการปรับเปลี่ยน VAR ครั้งใหญ่ ในการเรียกดูใบเหลืองที่สอง รวมไปถึงปรับแก้กฎของการทุ่มบอล ซึ่งคาดว่าจะถูกนำมาใช้ใน ฟุตบอลโลก ช่วงซัมเมอร์หน้า หลังจากการประชุมกับฝ่ายกฎระเบียบฟุตบอลหนล่าสุดไปแล้ว
อย่างไรก็ดีการหารือในครั้งนี้ทางคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านฟุตบอลและเทคนิค หรือ IFAB ของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งประกอบด้วยอดีตผู้เล่น โค้ช และผู้ตัดสิน ได้จัดการประชุมครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้ เพื่อเร่งจัดการปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาที่สำคัญในวงการ
อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการตกลงกันว่าควรนำ VAR เข้ามาแทรกแซงกรณีใบเหลืองที่สอง ซึ่งควรจะเกิดขึ้นทันการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโกในปีหน้า โดยทั้งผู้บริหารฟุตบอลเห็นพ้องต้องกันว่าเจ้าหน้าที่ VAR ควรมีสิทธิ์เข้าแทรกแซงเมื่อมีการแจกใบเหลืองที่สองที่ไม่ถูกต้อง และจะมีการเสนออย่างเป็นทางการเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าว
ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดสินมตินี้จะต้องได้รับการอนุมัติอีกครั้งในการประชุมสามัญประจำปีเดือนกุมภาพันธ์ที่ คาร์ดิฟฟ์ ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นที่เข้าใจกันว่า FIFA ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแล ฟุตบอลโลก ที่มีคะแนนเสียง 4 ใน 8 เสียงใน IFAB จะพยายามผลักดันกฎ VAR ใหม่มาใช้ให้ทันการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 11 มิถุนายน
กฎใหม่นี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ VAR ซึ่งปัจจุบันจะเข้าแทรกแซงเฉพาะ "เหตุการณ์สำคัญในแมตช์" เช่น ประตู จุดโทษ และใบแดงโดยตรง ในระหว่างการประชุม ยังได้มีการหารือถึงมาตรการเร่งเกม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการถ่วงเวลาที่มักเกิดขึ้น โดยมีสมาชิกฝ่ายกฎระเบียบฟุตบอลกำลังพิจารณามาตรการต่อต้านการ “ทุ่มไกล” ซึ่งกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในโลกฟุตบอลอย่างรวดเร็ว
อีกทั้งสมาชิก IFAB ได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการ “จำกัดระยะเวลา” ที่ผู้เล่นสามารถใช้เวลาก่อนการทุ่มบอลเข้าสนาม เพื่อเพิ่มระยะเวลาที่ลูกบอลอยู่ในสนามระหว่างการแข่งขัน แม้ว่าจะยังไม่มีการเสนอกฎหมายเฉพาะเพื่ออนุมัติ แต่เป็นที่เข้าใจกันว่ามาตรการควบคุมการทุ่มบอลเข้าสนามจะคล้ายกับกฎที่มีผลต่อผู้รักษาประตู และระยะเวลาที่ผู้รักษาประตูสามารถถือบอลได้
