"4 ประตูต่อ 0" คือผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นกับ 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ แต่ถึงจะเป็นผลการแข่งขันที่ตัวเลขเหมือน คล้ายกันแต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดันต่างกันเหมือน "ฟ้ากับเหว" เพราะทีมนึงเป็นเปิดบ้านถล่มชนะคู่แข่งชนิดที่คู่แข่งสู้ไม่ได้เลย ส่วนอีกทีมนึงเป็นฝ่ายบุกไปโดนเจ้าบ้านถล่มแบบที่ช็อคกันทั้งโลก ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงทั้ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เปิดบ้านถล่มน้องใหม่หน้าเก่าอย่างบอร์นมัธไปแบบสบายๆ ชิลๆ 4-0 และกำลังพูดถึง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่บุกไปโดนเบรนท์ฟอร์ดกระซวกถึง 0-4 นับเป็นผลการแข่งขันของสองทีมจากเมืองเดียวกันที่ต่างกันสุดขั้วจริงๆถ้าหากเรียงตามไทม์ไลน์การแข่ง เรามาเริ่มกันที่ทีมเรือใบกันก่อนดีกว่าครับ เพราะน่าบรรยากาศดูชื่นมื่นกว่าอีกทีมเยอะมาก โดย 4 ประตูของแมนซิตี้ ได้มาจากอิลคาย กุนโดกันเป็นคนยิงนำร่อง ตามด้วยความสุดยอดของเควิน เดอ บรอยน์ที่ยิงลูกที่สองแบบไซด์ก้อย ก่อนที่ฟิล โฟลเดนจะยิงลูกที่สาม และปิดท้ายด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของเจฟเฟอร์สัน เลอร์มา นักเตะของบอร์นมัธ ซึ่งสถิติหลังเกมคู่นี้มีอยู่ 2 สถิติที่น่าสนใจด้วยกัน นั่นก็คือ20 - คือ จำนวนครั้งที่เควิน เดอ บรอยน์ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน มีเพียงโมฮัมเหม็ด ซาลาล์ (24 ครั้ง) และซอน เฮือง มิน (21 ครั้ง) ที่สามารถทำได้มากกว่าเดอ บรอยน์ นับตั้งแต่ที่เขาลงเล่นนัดแรกให้กับแมนซิตี้ในเดือนสิงหาคม 20158 & 2 - ตัวเลข 2 ตัวนี้เป็นสถิติของเออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าคนใหม่ของแมนซิตี้ โดย 8 คือ จำนวนครั้งในการสัมผัสบอลของเจ้าตัวในเกมนี้ และเลข 2 คือ จำนวนการผ่านบอลตลอด 74 นาทีที่อยู่ในสนาม ซึ่ง1ใน2ครั้งนั้นคือการแอสซิสต์ให้กุนโดกันหลุดเข้าไปยิงประตูขึ้นนำและสถิติอื่นๆ ในเกมนี้ถือว่าเรือใบสีฟ้ากินขนาดทั้งหมดการครองบอล 67 % ต่อ 33 %โอกาสการยิง 18 ครั้ง ต่อ 2 ครั้งเตะมุม 11 ครั้ง ต่อ 1 ครั้งลูกครอส 30 ครั้ง ต่อ 5 ครั้งการผ่านบอล 728 ครั้ง ต่อ 363 ครั้งและนี่ก็คือสถิติที่น่าสนใจของเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดเบิดถล่มบอร์นมัธไปแบบขาดลอย 4-0แมนซิตี้ VS บอร์นมัธ : คลิปไฮไลท์พรีเมียร์ลีก 2022/23ตัดสลับมาที่เมืองเบรนท์ฟอร์ดในเกมที่เบรนท์ฟอร์ดเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยการจัดตัวในฝั่งของแมนยูนั้นถือว่าน่าสนใจพอสมควร เพราะเอริค เทน ฮากส่งลิซานโดร มาร์ติเนซที่มีส่วนสูงเพียง 175 เซนติเมตรลงมารับมือทีมที่เล่นลูกโด่งได้ดีอย่างเบรนท์ฟอร์ด และการเปลี่ยน 1 ตำแหน่งในคู่กองกลาง โดยเกมนี้เทน ฮากเลือกที่จะดรอปสก็อตต์ แมคโทมิเนย์เป็นตัวสำรอง และใช้บริการของคริสเตียน อิริคเซนยืนคู่กับเฟร็ดโดยเกมนี้เริ่มมาได้เพียง 10 นาทีก็เป็นเบรนท์ฟอร์ดขึ้นจากลูกยิงของจอช ดาซิลวาแต่ที่พีคคือ ลูกยิงนี้มันเบาซะเหลือเกินแต่ดาบิด เดเกอาไม่สามารถเซฟไว้ได้ ถือว่าเป็นความผิดพลาดของผู้รักษาประตูชาวสเปนรายนี้แบบเต็มประตูเลย ผ่านไปเพียง 8 นาทีเจ้าบ้านขยับหนีห่าง 2 ประตูจากมาเธียส แยนเซน ตามด้วยในนาทีที่ 30 นาทีจากประตูเบน มีที่เล่นงานมาร์ติเนซด้วยลูกโหม่ง โดนลูกสามไป 5 นาที ลูกที่สี่ก็ตามมาจากเกมสวนกลับเพียง 3 จังหวะซึ่งผู้ทำประตูได้แก่ ไบรอัน เอ็มบูโม จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 4-0 ส่วนในครึ่งหลังยิงกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเบรนท์ฟอร์ดเปิดบ้านถล่มแมนยูขาดลอย 4-0 และต่อไปนี้คือ 4 สถิติที่น่าสนใจหลังเกมนี้3 - เบรนท์ฟอร์ด เป็นเพียงทีมที่ 3 เท่านั้นที่สามารถยิงประตูใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ถึง 4 ลูกในครึ่งแรกของเกมพรีเมียร์ลีก โดย 2 ทีมก่อนหน้านั้น คือ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส (2020) และลิเวอร์พูล (2021)1992 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจบวันการแข่งขันในอันดับสุดท้ายของตารางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 19927 - คือ จำนวนการแพ้เกมเยือนในลึกติดต่อกันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสถิติที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1936 โดยในฤดูกาลนั้น (1936-1937) ทีมที่เป็นแชมป์ได้แก่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดร่วงตกชั้น4 - คือ ตัวจำนวนในการทำฟาล์ว, การยิงเข้ากรอบ, และจำนวนประตูของเบรนท์ที่ทำได้ในครึ่งแรกและนี่คือสถิติอื่นๆ ในเกมที่น่าสนใจการครองบอล 33 % ต่อ 67 %โอกาสการยิง 13 ครั้ง ต่อ 15 ครั้งเตะมุม 8 ครั้ง ต่อ 2 ครั้งลูกครอส 17 ครั้ง ต่อ 23 ครั้งการผ่านบอล 275 ครั้ง ต่อ 552 ครั้งและนี่ก็คือสถิติหลังเกมที่เบรนท์ฟอร์ดเปิดบ้านถล่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเบรนท์ฟอร์ด VS แมนยูไนเต็ด : คลิปไฮไลท์พรีเมียร์ลีก 2022/23อย่างชื่อบทความเลยครับ "4-0" ที่แตกต่างเหมือนกันของ 2 ทีมแมนเชสเตอร์" ที่ทีมนึงเปิดบ้านถล่มคู่แข่ง แต่อีกทีมนึงไปเยือนแถมโดนถล่มกลับบ้าน มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างเหมือนกันจริงๆขอบคุณรูปภาพจากOfficial Facebook ของแมนเชสเตอร์ซิตี้Official Facebook ของเบรนท์ฟอร์ดOfficial Facebook ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดOfficial Twitter ของพรีเมียร์ลีก ภาพปก 1 / ภาพปก 2 / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์