พรีเมียร์ลีกนัดที่ 11 ระหว่าง เชลซี พบกับ อาร์เซน่อล เป็นการแย่งกันขึ้นอันดับ 3 ของตารางคะแนน เนื่องจากทั้ง 2 ทีมมีคะแนนเท่ากันที่ 18 คะแนน ในเกมนี้ทั้ง 2 ทีมมีข่าวดี เมื่อทั้งสองทีมได้ Playmaker ตัวหลักลงช่วยทีม ทั้ง โคล พาล์มเมอร์ ของเชลซีที่มีอาการเจ็บจากเกมล่าสุดที่พบกับแมนยูเมื่อสัปดาห์ก่อน ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! ทางฝั่งทีมเยือนก็ได้ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่บาดเจ็บหนักลงสนามไม่ได้ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงได้ในเกมนี้ ในเกมนี้เป็นเกมที่ทั้ง 2 ทีมเรียกได้ว่าทันกันสุด ๆ รูปเกมสูสีกันมากชนิดแรกกันหมัดต่อหมัด เจ้าบ้านทักทายก่อนในนาทีที่ 3 เมื่อ พาล์มเมอร์ ได้จังหวะซัดไกลนอกกรอบแต่ ราย่า ปัดทิ้งไปได้ และเจ้าบ้านทำได้ดีกว่าแต่พลาดการทำประตูขึ้นนำในนาทีที่ 19 เมื่อ เนโต้ เปิดจากกาบขวาเข้าเขตโทษ แต่ มาดูเอเก้ โหม่งบอลหลุดกรอบแบบไม่มีลุ้น และอีก 3 นาทีต่อมา เนโต้คนเดิมเปิดไปเสาไกล เป็น กุสโต ที่พุ่งเข้าโหม่งแต่บอลข้ามคายไปฉิวเฉียด ทีมเยือนเกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 27 เมื่อ มาร์ติเนลลี่ ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงเหน่ง ๆ แต่ติดเซฟ ซานเชส จนนาทีที่ 32 อาร์เซนอลได้ฟรีคิก ไรช์ ฉวยโอกาสขณะกองหลังเชลซี เผลอ แทงบอลให้ ฮาแวร์ตซ์ หลุดเข้าไปยิงบอลเข้าประตูได้ แต่ VAR จับเป็นลูกล้ำหน้า จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 ครึ่งหลังมาถึงนาทีที่ 60 โอเดการ์ด ตักบอลข้ามแนวรับเชลซี จากกรอบเขตโทษด้านซ้ายมาให้ มาร์ติเนลลี่ ที่อยู่โล่ง ๆ บริเวณกรอบ 6 หลาทางขวา มาร์ติเนลลี่ ยิงยัดเสาแรกเป็นประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 71 เมื่อ เอ็นโซ่ ที่เปลี่ยนลงมาแทน มาดูเอเก้ ในนาทีที่ 68 ไหลบอลให้ เนโต้ ที่หนีการประกบของ มาร์ติเนลลี่ รับบอลบริเวณหัวกะโหลก ยิงหักข้อเข้าประตู ตีเสมอเป็น 1-1 และเป็นประตูแรกของ เนโต้ ในพรีเมียร์ลีกด้วย ช่วงท้ายเกมอาร์เซนอลเกือบได้ประตูชัยในนาทีที่ 87 เมื่อ เฆซุส กระชากไปเส้นหลังหักเข้ากลางมา เมริโน่ แบไปติดเซฟ ทรอสซาร์ เข้าซ้ำบอลข้ามคาน และในนาทีที่ 90+5 โอเดการ์ด แทงบอลให้ ซาลิบา ที่หนุนขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะปาดเข้ากลางที่มีผู้เล่นอาร์เซนอลรออยู่ 3 คน แต่เป็น ทรอสซาร์ ที่แปบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย เป็น Play สุดท้ายของเกม จบเกมเสมอกัน 1-1 แบ่งไปทีมละแต้ม ทำให้ทั้ง 2 ทีมมี 19 คะแนนเท่ากัน ตามหลังลิเวอร์พูลจ่าฝูงอยู่ 9 แต้ม มาดูสถิติที่น่าสนใจในเกมนี้กัน โดยเกมนี้สูสีกันมาก เจ้าบ้านมีโอกาสทำประตูมากกว่าทีมเยือน โดยมีโอกาส 17 ครั้ง ทีมเยือนมีโอกาส 13 ครั้ง แต่ทั้ง 2 ทีมยิงเข้ากรอบแค่ 3 ครั้งเท่ากัน เปอร์เซ็นต์การครองบอลก็ใกล้เคียงกัน โดยเจ้าบ้านอยู่ที่ 49% ทีมเยือน 51% จะเห็นว่าในเกมนี้สิ่งที่ทั้ง 2 ทีมดูจะด้อยลงไปคือประสิทธิภาพในแนวรุกของทั้ง 2 ทีม ที่ยิงทิ้งยิงขว้างกันหมด โดยทีมเจ้าบ้านยิงเข้ากรอบ 3 ครั้ง จาก พาล์มเมอร์ เนโต้ (เป็นประตู) และ แจ็คสัน ยิงทิ้งยิงข้างไป 14 ลูก ทางทีมเยือนยิงเข้ากรอบ 3 ครั้ง จาก มาร์ติเนลลี่ 2 ครั้ง (เป็นประตู 1 ลูก) และ เมริโน่ ยิงทิ้งยิงข้างไป 10 ลูก แต่สถิติที่น่าสนใจที่สุดของเกมนี้ก็คือ สถิติการเล่นของ โอเดการ์ด ที่ไม่ได้ลงสนามมา 2 เดือน แต่สามารถสร้างผลงานในเกมแรกที่กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม เล่นครบ 95 นาที จ่ายบอล 36 ครั้ง สำเร็จ 33 ครั้ง มีความแม่นยำถึง 92% และทำได้ 1 assist ยอดเยี่ยมมากสำหรับผู้เล่นที่บาดเจ็บร้างสนามไปถึง 2 เดือน 1 คะแนนจากเกมนี้เป็นที่น่าพอใจของเชลซี แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เชลซีจะเล่นดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ฟอร์มของ โคล พาล์มเมอร์ เท่านั้น ในเกมนี้ที่ พาล์มเมอร์ โดน ปาร์เตย์เ ข้าสิงจนทำอะไรไม่ได้ ประสิทธิภาพของเชลซีก็ดร็อปลงไปด้วย ในทางตรงข้าม 1 แต้มนี้เป็นที่น่าผิดหวังของอาร์เซนอลที่ขึ้นนำก่อน สำหรับอาร์เซนอล เห็นได้ชัดว่าเมื่อได้ โอเดการ์ด กลับมาสร้างสรรค์เกมในแดนกลาง ทำให้อาร์เซนอลกลับมาเล่นได้น่ากลัวอีกครั้ง ขาดแต่ความคมของแนวรุกเท่านั้นที่ยังหาฟอร์มเก่งกันไม่เจอ เครดิตภาพ chelseafc : ภาพปก/ ภาพประกอบ 1 arsenal : ภาพประกอบ 2 premierleague : ภาพประกอบ 3/ ภาพประกอบ 4/ ภาพประกอบ 5/ ภาพประกอบ 6 OptaAnalyst : ภาพประกอบ 7/ ภาพประกอบ 8 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !