ในสังคมปัจจุบันทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน แม้กระทั้งวัยผู้สูงอายุ หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น บ้างเลือกทานอาหารคลีน บ้างออกกำลัง ซึ่งการออกกำลังกายของกลุ่มคนก็ย่อมแตกต่างกันออกไป บางคนเข้าฟิตเนส บางคนเลือกที่จะวิ่งในสถานที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ โรงเรียน ซึ่งผู้เขียนเองก็วิ่งแบบนั้นค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เมื่อก่อนผู้เขียนเป็นคนเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย จึงเริ่มหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ครั้งแรกเริ่มวิ่งที่ริมหาดกับเพื่อน ๆ ต้องยอมรับค่ะว่าคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน วิ่งได้สักระยะก็เริ่มเหนื่อย หมดแรงวิ่ง (แอบมีท้อบ้าง) กลับมาบ้านคือปวดขา ทรมานมาก แต่นั้นไม่สามารถทำให้ผู้เขียนละการวิ่งได้ ผู้เขียนยังคงวิ่งต่อไป โดยวิ่งตอนเย็นหลังเลิกงาน แรก ๆ วิ่งประมาณ 15 นาที และค่อย ๆ พัฒนาขึ้น จึงสร้างแรงผลักดันให้ตัวเองด้วยวิธีการลงสมัครวิ่งค่ะ 1. ButterflyDamRun จัดขึ้นที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นรายการวิ่งครั้งแรกของผู้เขียน ด้วยระยะทาง 7.8 กิโลเมตร บรรยากาศเหมือนการวิ่งชมเขื่อนแก่งกระจาน ตอนเช้าวิวจะสวยมาก แสงแดดอ่อนๆ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อปล่อยตัวคนจะเยอะมาก ๆ เลยค่ะ ต้องวิ่งตาม ๆ กันไป หลังจากนั้นสักระยะหนึ่งจะเริ่มมีระยะห่างมากขึ้น ด้วยความที่ผู้เขียนยังใหม่กับการวิ่งและยังไม่เคยวิ่งเกิน 5 กิโลเมตรมาก่อน ก็วิ่งเต็มกำลัง พอวิ่งได้สักระยะเริ่มรู้สึกเหนื่อย เลยปรับวิธีวิ่งให้ช้าลง มองวิวข้างทางขณะวิ่ง ทำให้หายเหนื่อยและมีความสุขกับการวิ่ง จนกลับมาถึงเส้นชัยอย่างสวยงามค่ะ 2. Phetchaburi Run @kaeng krachan 2019 จัดขึ้นที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี รายการที่สองของการวิ่งของผู้เขียน ยังคงวิ่งที่แก่งกระจานเหมือนเดิม แตกต่างที่เส้นทางที่ไกลขึ้น ด้วยระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ปล่อยตัวเวลา 5:30 น. ตอนแรกแอบกังวลว่าจะวิ่งไหวไหม เนื่องจากตอนซ้อมไม่เคยวิ่งระยะทางเท่านี้มาก่อน ได้แต่บอกตัวเองว่าเราต้องทำได้ สุดท้ายผู้เขียนวิ่งจบ ด้วยเวลา 1:29:26 อาจจะไม่ใช่สถิติที่ดีที่สุด แต่คืออีกช่วงเวลาที่ผู้เขียนมีความสุขมากที่สุด 3. โรงพยาบาลพระจอมเกล้า-พระราชวังรามราชนิเวศน์ มินิฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่19 จัดขึ้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี รายการที่สามของการวิ่ง ด้วยระยะทาง 10 กิโลเมตร เป็นการวิ่งชมบรรยากาศของตัวเมืองเพชรบุรี การวิ่งครั้งนี้ผู้เขียนวิ่งสบายขึ้น อาจเป็นเพราะได้ผ่านงานวิ่งมาบ้างแล้ว ทำให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้น แอบตั้งเป้าหมายไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะวิ่งในระยะทางที่มากขึ้นเพื่อท้าทายความสามารถของผู้เขียนเอง 4. BangkokMarathon 2019 จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร รายการที่สี่ของการวิ่งของผู้เขียน แต่เป็นงานวิ่งที่ผู้เขียนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากเป็นงานวิ่งในกรุงเทพฯ ครั้งแรก ปล่อยตัวผู้วิ่ง 02.00 น. และเป็นการวิ่งระยะทาง 21 กิโลเมตร ครั้งแรกอีกด้วย ดังนั้นผู้เขียนต้องเตรียมพร้อมเป็นมากอย่าง เพื่อไม่ให้ร่างกายบาดเจ็บ จึงซื้อเจลลี่ทาน เพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดรต เป็นเหมือนอาหารเสริมสำหรับวิ่งมาราธอนซึ่งดีกว่าการทานเครื่องดื่มชูกำลังทั่วไป สำหรับสิ่งที่ประทับใจในการวิ่งครั้งนี้คือการได้เห็นวัดพระแก้วอันงดงามในยามฟ้าสาง ได้วิ่งขึ้นสะพานที่มีความชัน ฝึกความอดทนของร่างกายเป็นอย่างดีเลยค่ะ จากการวิ่งทั้ง 4 สนามของผู้เขียน ทำให้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย จึงขอยกตัวอย่าง 4 ข้อ ดังนี้ค่ะ 1. สุขภาพ การที่เราออกกำลังสม่ำเสมอนั้นสิ่งสำคัญที่ได้เป็นอย่างแรก คือ สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทาน และลดการเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี เช่น ลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ทำให้หัวใจแข็งแรง เมื่อเรามีสุขภาพที่ดีจะทำให้เราประหยัดเงินในการรักษาโรคได้ด้วยนะคะ 2. ผิวพรรณ ขณะที่เราออกกำลังกาย ร่างกายของเราจะขับเหงื่อออกมา ซึ่งข้อดีของเหงื่อจะช่วยขับของเสียในร่างกายทั้งเกลือ คลอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ออกมา นอกจากนี้เหงื่อยังขับสารที่ชื่อว่า BPA ที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยใสเปล่งปลั่ง โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมเลยหละค่ะ 3. อารมณ์ดี หากใครอยากให้อารมณ์ดี ลองไปออกกำลังกายดูนะคะ สัก 30 นาที เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นสารเคมีในสมอง ซึ่งช่วยให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้นและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เพื่อน ๆ จะรู้สึกดีกับรูปลักษณ์ เพราะเมื่อเราออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนขึ้นด้วย 4. นอนหลับได้ดีขึ้น การออกกำลังกายช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการออกกำลังกายมีผลโดยตรงกับระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่อย่าออกกำลังกายใกล้เวลานอนมากเกินไปนะคะ เพราะร่างกายจะได้ไม่ตื่นตัวมากเกินไปเมื่อถึงเวลาเข้านอนค่ะ เห็นไหมคะว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์หลายอย่าง เพื่อน ๆ รู้อย่างนี้แล้วมาออกกำลังกายกันนะคะ แล้วคุณจะหลงรักการวิ่งอย่างไม่รู้ตัวแบบผู้เขียนค่ะ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน และ THAIRUN