ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเกมแรกของปีใหม่นี้ เป็นการเจอกันระหว่าง ลิเวอร์พูล vs นิวคาสเซิล ซึ่งถือว่าเป็นคู่บิ๊กแมตซ์ แต่กลายเป็นว่าเกมนี้เจ้าบ้านลิเวอร์พูล เหนือกว่าทุกกระบวนท่า เปิดฉากบุกเข้าใส่ตั้งแต่นาทีแรกของเกม มีโอกาสลุ้นยิงประตูหลายต่อหลายครั้ง บีบให้ทีมเยือนต้องถอยลงไปเล่นเกมรับกันซะส่วนใหญ่ แต่ก็พยายามหาจังหวะเล่นเกมสวนกลับเป็นระยะเหมือนกัน ซึ่งคนที่ทำให้เกมนี้สู้กันสนุกมากขึ้นก็คือ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายทวารของนิวคาสเซิล ที่งัดฟอร์มโชว์ซุปเปอร์เซฟทำให้เกมไม่ขาดตั้งแต่ครึ่งเวลาแรกสุดท้ายลิเวอร์พูลก็ไม่ทิ้งโอกาสทองเอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 รักษาสถิติยังไม่แพ้ใครในบ้านฤดูกาลนี้ พร้อมทั้งครองตำแหน่งจ่าฝูงรับปีใหม่ ทิ้งห่างทีมอันดับสอง 3 คะแนน วันนี้เราจึงมาชวนคุยหลังเกมถึง 5 เรื่องดีของนักเตะลิเวอร์พูล ฟอร์มแบบนี้ไม่ต้องกลัวใครเกมรุกดุดันหลายเกมที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเกมรุกของลิเวอร์พูลตื้อๆตันๆ แต่สำหรับเกมนี้กลับมาเล่นกันด้วยความดุดัน เปิดฉากบุกเข้าใส่นิวคาสเซิลตั้งแต่นาทีแรก กลยุทธ์การเข้าทำก็หลากหลายทั้งบอลเจาะตามช่อง โจมตีด้วยริมเส้นทั้งสองข้าง สลับกับการวางบอลยาวที่แม่นยำ เล่นเอาแนวรับของทีมเยือนหัวหมุนกันไปหมด มีเพียง มาร์ติน ดูบราฟก้า เท่านั้นที่ช่วยไม่ให้เสียประตู การได้จุดโทษถึง 2 ครั้งก็แสงให้เห็นว่า นักเตะลิเวอร์พูลสามารถคุกคามในกรอบเขตโทษได้บ่อยๆ โดยเกมนี้ตลอด 90 นาทีมีโอกาสยิงทั้งหมด 34 ครั้ง เข้ากรอบ 15 ครั้ง และได้มาทั้งสิ้น 4 ประตูสำรองอาวุธเด็ดเกมครึ่งแรกจะเห็นได้ว่าถึงแม้ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายบุกอยู่ข้างเดียวแต่ก็ยังยิงประตูขึ้นนำไม่ได้ การจบสกอร์ยังมีติดๆขัดๆอยู่บ้างทั้งจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่พลาดไป เทรนต์-อาร์โนลด์ ซ้ำจ่อๆบอลก็ปริ้นออกไปอีก ส่วนคนที่มีโอกาสมากที่สุดก็คือ ดาร์วิน นูเญซ ที่เกมนี้เอาชนะผู้รักษาประตูคู่แข่งไม่ได้ ยิงเท่าไรก็ติดเซฟไปหมด ทำให้ครึ่งหลังนาที 65 เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งตัวสำรองทั้ง ดิโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป เพื่อเพิ่มความเด็ดขาดในเกมรุก และก็ไม่ทำให้ผิดหวังทั้งคู่มีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตูของทีม แสดงให้เห็นถึงขุมกำลังเชิงลึกที่ยอดเยี่ยม เมื่อนักเตะชุดแรกทำไม่ได้ ก็มีชุดสองพร้อมลงมาเก็บงานทันที โจ โกเมซ รับจบการบาดเจ็บของแบ็คซ้ายทั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ คอสตาส ซิมิคาส เป็นปัญหาใหญ่ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องแก้ไขโดยเกมเมื่อคืนเป็นโอกาสของ โจ โกเมซ นักเตะสารพัดประโยชน์ในแนวรับ ได้ลงทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และก็ดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นจะดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน ปรับตัวเข้ากับตำแหน่งได้ดี มีความเร็วไล่ตามพวกตัวรุกทีมคู่แข่งได้ ช่วงหลังสมาธิดีไม่เหม่อลอย นอกจากนี้ยังมีจังหวะช่วยขึ้นไปเติมเกมรุกได้อีกด้วย ถ้าหากรักษาฟอร์มการเล่นแบบเกมนี้ไว้ได้ ปัญหาแบ็คซ้ายก็น่าจะหมดห่วงแดนกลางสุดแกร่งเกมนี้แดนกลางของลิเวอร์พูลเอาชนะคู่แข่งได้แบบหมดจด ทั้งการครองบอลสร้างเกมรุก แล้วยังเก็บบอลจังหวะสองไว้ได้เกือบหมดเลย แม้ว่า โดมินิก โซบอสซ์ไล จะฟอร์มดร็อปลงไปบ้างแต่ภาพรวมก็ยังขยันช่วยทีมได้เยอะ ส่วนตำแหน่งกลางรับ วาตารุ เอ็นโด ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม สปีดบอลเร็วขึ้นอ่านเกมดีเข้าสกัดแม่นยำ ทำลายเกมสวนกลับของนิวคาสเซิลได้หลายครั้ง เคอร์ติส โจนส์ เป็นอีกคนที่โชว์ฟอร์มได้ดีเกินคาด ทักษะการครอบครองบอลดี เอาตัวรอดเก่งพลิกบอลเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ การดึงจังหวะกำลังดีไม่ช้าจนเกินไป ช่วยให้ทีมมีสมดุลมากขึ้น ปัญหาเดียวคือต้องรักษาผลงานแบบนี้ให้ได้ตลอดไปการกลับมาของ แม็ค อัลลิสเตอร์ นับตั้งแต่บาดเจ็บในเกมกับฟูแล่ม เป็นเวลาถึง 7 เกมแล้วที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ หายไปจากทีม การกลับมาลงสนามเป็นตัวสำรองในนาที 75 จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และเจ้าตัวก็แสดงให้เห็นถึงคลาสฟุตบอลด้วยการจ่ายให้ ดิโอโก้ โชต้า หลุดเดี่ยวนำไปสู่การได้จุดโทษช่วงท้ายเกม ซึ่งจะเป็นการเติมเต็มแดนกลางเนื่องจาก วาตารุ เอ็นโด ต้องหายจากทีมไปรับใช้ชาติ พอดิบพอดีที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ จะกลับมาช่วยคุมแดนกลางแทน แน่นอนว่าด้วยสไตล์การเล่นที่ต่างกัน เราอาจจะไม่ได้เห็นการตัดเกมหรือเข้าบอลดุดันจากแมคก้า แต่ก็จะทดแทนด้วยวิสัยทัศน์การออกบอลที่ดีงาม รวมทั้งอาจได้เห็นลูกยิงไกลสวยๆเพิ่มอีกก็เป็นได้โปรแกรมนัดต่อไปของลิเวอร์พูลจะลงเล่นบอลถ้วย เอฟเอคัพ พบกับอาร์เซนอล ส่วนบอลพรีเมียร์ลีกจะบุกไปเยือนบอร์นมัธ ในวันที่ 21 มกราคม ทำให้จะรั้งตำแหน่งจ่าฝูงไปอย่างน้อยอีกสองสัปดาห์แน่นอน หลังจากนั้นก็ต้องมาลุ้นกันใหม่ว่าลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะสามารถยืนระยะไปจนจบฤดูกาลได้หรือปล่าวถ้าหากเพื่อนๆชอบในการวิเคราะห์ของเรา หรืออยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติม รบกวนฝากกดติดตามบทความอื่นๆของเราได้ทั้ง 2 ช่องทางด้านล่างนี้เลย ขอบคุณครับTrueID : NPK Footballstyleเพจ Facebook : มาดู หงส์แดงเครดิตภาพภาพปก Liverpool/Liverpoolภาพ1 Liverpoolภาพ2 Liverpoolภาพ3 Liverpoolภาพ4 Liverpoolภาพ5 Liverpool โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2023/24 ผลบอล ตารางบอลพรีเมียร์ลีก ลิ้งก์ดูบอลสด