หากก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-2023 มีคนเดินมาบอกว่า ลิเวอร์พูล จะไม่ชนะในสามเกมแรกและจะแพ้เกมแดงเดือด เหมือนตอนที่แข่งในประเทศไทยช่วงปรีซีซั่น คน ๆ นั้นคงจะถูกมองว่าไอ้นี่ไม่บ้าก็เพี้ยน เพราะมีหรือทีมเครื่องจักรอหังกาจะมาไม่ชนะถึงสามเกมแรกของฤดูกาล อีกทั้งเมื่อเทียบขุมกำลัง ความพร้อม จะมาแพ้ แมนยู ที่ยังหาความลงตัวไม่ได้ แต่ในโลกฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ และมันก็ได้ประจักต่อสายตาของคอบอลทั่วโลกแล้วว่า ทีมที่ขับเขี้ยวลุ้นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มาถึงตรงนี้ผ่านไปสามเกมยังเก็บชัยชนะไม่ได้แม้แต่เกมเดียว อีกทั้ง สองเกมก่อนหน้านี้ก็ต้องไปไล่ตีเสมอทีมไก่รองบ่อนซะอย่างงั้น ยิ่งในเกมแดงเดือด ที่เหล่าขุนพลหงส์แดงต่างไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่เหนือกว่าเหมือนกับฤดูกาลที่แล้วแม้แต่น้อย จนเกิดคำถามขึ้นต่าง ๆ นา ๆ ว่า ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หายไปไหนกันหมด หรือว่าจะต้องเข้าสู่ยุคเล่นเพื่อสุขภาพอีกครั้งกันแน่ เมื่อมองไปยังเหล่านักเตะที่เสริมเข้าในช่วงตลากนักเตะก็ดูจะแก้ปัญหาหรือเสริมทัพไม่ตรงจุดเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านอายุอานามหลายรายก็เริ่มจะโรยรา แต่ก็ยังหาตัวแทนไม่ได้ซักที ว่าแล้วก็ไปดูการจัดอันดับกับ 5 นักเตะลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มการเล่นออกทะเลไปไกลกันสักหน่อยว่มีใครกันบ้าง- อันดับที่ 5 เจมส์ มิลเนอร์ มิดฟิลด์ตัวเก๋าของหงส์แดงที่เกมนี้ไม่มีอะไรที่จะช่วยพยุงทีมได้เลย เพราะตลอดทั้งเกมความเก๋าไม่ได้ช่วยให้เกมนั้นดูดีขึ้นแม้แต่น้อย ขาดทั้งเล่ห์เหลี่ยมและความเชื่อมั่น ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 36 ปี แถมยังไม่มีเรื่องของการจ่ายบอลที่เข้าเป้า อีกทั้งไม่มีความเร็วที่จะช่วยเพื่อตัดเกม ทำให้เกมตรงกลางขาดหายไปอย่างมากในเกมนี้สถิติส่วนตัวของ เจมส์ มิลเนอร์ ดวลลูกกลางอากาศแพ้ 6 ครั้งปะทะจังหวะลูกกลางอากาศแพ้ 4 ครั้งเสียการครองบอล 15 ครั้ง- อันดับที่ 4 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หนึ่งในฟูลแบ็คที่มีคะแนนสูงที่สุดในโลก แต่นั่นไม่ใช่ตัวเขาในเกมแดงเดือด เพราะเมื่อไหร่ดก็ตามที่พยามเติมเกมรุกนั่นคือการเปิดช่องโหว่ให้คู่แข่งได้สวนกลับ ซึ่งสิ่งนี้เป็นอะไรที่เกิดขึ้นมานานและดูจะเป็นจุดอ่อนของเจ้าตัว แม้ว่าจะมีความสามารถเติมเกมรุกริมเส้นก็จริง แต่สำหรับการป้องกัน ถ้าไม่มีแซ้นเตอร์มาคอยรองบอลให้ ก็เหมือนกับเปิดแผลให้คู่ต่อสู้ใช้ประโยชน์ในการสวนกลับ ซึ่งผู้จัดการทีมก็รู้ดีแต่พร้อมที่จะเสี่ยง แต่ในเกมนี้ไม่ใช่วันของเขาเพราะทั้งเกมรุกและเกมรับทำได้ไม่ดีทั้งสองอย่างสถิติส่วนตัวของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ดวลจังหวะตัวต่อตัวแพ้ 3 ครั้งเปิดบอลผิอดดพลาด 11 ครั้งเสียการครองบอล 23 ครั้ง- อันดับที่ 3 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังที่ได้ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก แต่หลังจากที่พลาดทำทีมเสียจุดโทษในเกมแรกที่เจอกัน ฟูแล่ม นั่นเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของเจ้าตัวสำหรับฟอร์มการเล่นที่เคยยอมเยี่ยม กลับหาทางกลับคืนสู่ฟอร์มเทพไม่เจอ ยิ่งจังหวะที่เสียประตูลูกแรกให้กับ จาดอน ซานโชว หากเป็นคนก่อนเขาจะต้องวิ่งเข้ามาบล็อกทางบอล ไม่ยืนมือไขว่หลังดูลูกบอลวิ่งเข้าประตูแบบนั้นแน่นอน ตลอดทั้งเกมเขาเสียการครองบอลถึง 15 ครั้ง นี่นับได้ว่าเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของเจ้าตัวนับตั้งแต่ที่ย้ายมาแอนฟิลด์ ซึ่งทำให้คิดต่อว่า หลังจากนี้จะได้เห็นฟอร์มเทพของราการหลังรายนี้กลับมาได้ตอนไหน รหรือว่าภาพที่แข็งแกร่งจะกำลังเลือนหายไปตามวัยและเวลาของเขาด้วย- อันดับที่ 2 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดในเกมแดงเดือด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเพราะตลอดทั้งเกมเห็นได้ชัดว่า ขาดความมั่นใจเรื่องครองบอล ไม่กล้าที่จะบุกใส่คู่แข่งเหมือนอย่างที่เคยเป็น อีกทั้งยังออกลูกลนลานไม่มีความนิ่ง นี่ยังไม่นับการเสียประตูลูกที่สองซึ่งเจ้าตัวก็มีส่วนทำให้เสียประตูนั่นด้วย ตลอดทั้งเกมเขาเสียการครองบอล 10 ครั้ง และโยนบอลยาวพลาด 3 ครั้ง แม้ว่าจากตัวเลขไม่ได้เลขร้าย แต่หากมองลึกถึงเรื่องของความมั่นใจในฐานะกัปตันทีม ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อนักเตะในทีมด้วยเช่นกัน- อันดับที่ 1 โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ เมื่อดาร์วิน นูเนซ ติดโทษแบน และ ดิโอโก้ โชต้า มีปัญหาบากเจ็บเอ็นร้อยหวาย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จึงเป็นตัวเลือกแรกที่ถูกส่งเป็น11คนแรกในเกมนี้ ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่านักเตะรายนี้แม้ว่าจะมีช่วงที่ฟอร์มดี หรือแม้แต่บางเกมที่อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมให้หงส์แดงกลับมากำชัย แต่สำหับเกมนี้ไม่ใช่วันของเขา หรือหากจะพูดให้ลึกกว่านั้นเวลาของศูนย์หน้าแซมบ้ารายนี้มันจบลงแล้วที่แอนฟิลด์ เพราะตลอดทั้งเกมมีโอกาสยิงเพียงแค่ครั้งเดียว แพ้การดวลตัวต่อตัวในเขตอันตราย 2 ครั้ง เสียการครองบอล 15 ครั้ง โดยจำนวนที่เสีนการครองบอลส่วนใหญ่ก็เกิดบริเวณหน้ากอรบเขตโทษของคู่แข่งนั่นทำให้ไม่มีโอกาสที่จะสร้างอันตรายให้กับปีศาจแดงได้เลย ลิเวอร์พูล มีคิวฟาดแข้งกับ บอร์นมัธ ในคืนวันเสาร์นี้ เวลา 21.00น. ซึ่งสาวกหงส์แดงต่างคาดหวังอย่างสูงยิ่งว่าจะได้เห็นฟอร์มการเล่นของเครื่องจักรสีแดงกลับมาบดบี้ไล่ถล่มคู่แข่งเหมือนยอย่างที่เคยเป็น แต่หากว่าผลการแข่งขันตรงกันข้ามอาจจะเป็นการบอกลาถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งก็เป็นได้ข่าวที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์ปัญหา ลิเวอร์พูล เหตุใดถึงผลงานแย่ พร้อมหนทางแก้ไขกลับคืนสู่ความสำเร็จลิเวอร์พูล ความแข็งแกร่งที่เริ่มจะเลือนหาย การทดแทนที่มิอาจเทียบ?4 ประเด็นก่อนเกม แมนยู vs ลิเวอร์พูล แดงเดือดที่ตัดสินอนาคตของสองโคตรทีม4 เรื่องที่ต้องพูดถึงของ ลิเวอร์พูล หลังเสมอ ฟูแล่ม #EPL2022คริสตัลพาเลซ vs อาร์เซน่อล วิเคราะห์บอล สถิติชัดปืนใหญ่ข่มปราสทเรือนแก้ว ประเดิมชัยสามแต้ม (มีคลิปไฮไลท์)ระเบิดความมัน ศึกทรูพรีเมียร์ 22/23 ดูฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดทั้งฤดูกาล กับทีมโปรดผ่านแอป TrueIDกับแพ็กเกจ True Unlock และ True Unlock TVกดรับสิทธิ์ และเลือกทีมโปรดที่นี่ https://ttid.co/KupK/nq1t4cwrเครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3เครดิตภาพประกอบ twitter.com/LFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6Communityคอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์