ทีมชาติไทย พบ ทีม เติร์กเมนิสถาน การแข่งขัน ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 2 ระหว่างทีมชาติไทย (อันดับ 99 ของโลก) กับทีมชาติเติร์กเมนิสถาน (อันดับ 142 ของโลก) จะมีขึ้นในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามอัชกาบัต สเตเดียม ประเทศเติร์กเมนิสถาน วิเคราะห์ก่อนเกม: ไทย vs เติร์กเมนิสถาน ทีมชาติไทย ผลงานล่าสุด: ชนะอินเดีย 2-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ทำให้รักษาคลีนชีตได้ 4 นัดติดต่อกัน ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม: ผู้รักษาประตู: สรานนท์ อนุอินทร์ กองหลัง: สันติภาพ จันทร์หง่อม, พรรษา เหมวิบูลย์, จักพัน ไพรสุวรรณ, ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม) กองกลาง: ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, เอกนิษฐ์ ปัญญา กองหน้า: ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, อดิศักดิ์ ไกรษร, ปรเมศย์ อาจวิไล แผนการเล่น: คาดว่าจะใช้ระบบ 4-3-3 เน้นการครองบอลและการโจมตีจากด้านข้าง ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ผลงานล่าสุด: ชนะไต้หวัน 2-1 ในเกมรอบคัดเลือกนัดแรก เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม: ผู้รักษาประตู: รุสลัน มินาซอฟ กองหลัง: อาร์สลันมูรัต อามานอฟ (กัปตันทีม), อาห์เมต อาตาเยฟ, เมอร์เกน โอราซอฟ, วาซีร์เบก อัลลาเบอร์ดีเยฟ กองกลาง: อับดุลลาห์ อันนาคูร์บานอฟ, เมห์ราน อิลยาซอฟ, อลิมุรัต อันนาคูร์บานอฟ กองหน้า: เมห์ราน อิลยาซอฟ, อับดุลลาห์ อันนาคูร์บานอฟ, อาร์สลันมูรัต อามานอฟ แผนการเล่น: คาดว่าจะใช้ระบบ 4-4-2 เน้นเกมรับและการโต้กลับเร็ว สถิติทีมชาติไทย 3 รอบก่อนหน้า ผลการแข่งขัน 3 นัดหลังสุด ชนะ อินเดีย 2-0 – 4 มิ.ย. 2568 (กระชับมิตร) ชนะ คูเวต 2-0 – 21 มี.ค. 2568 (กระชับมิตร) เสมอ เลบานอน 0-0 – 25 มี.ค. 2568 (กระชับมิตร) ทีมชาติไทยไม่แพ้ใครใน 3 นัดหลังสุด และสามารถรักษาคลีนชีตได้ทั้งหมด ความพร้อมของนักเตะ สุภโชค สารชาติ ถอนตัวจากทีมเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ถูกเรียกเข้ามาแทนที่ โดยรวมแล้ว ทีมมีความพร้อมสูง และนักเตะส่วนใหญ่ฟิตสมบูรณ์ แผนการเล่นและความมั่นใจ โค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ คาดว่าจะใช้ระบบ 4-3-3 เน้นการครองบอลและการโจมตีจากด้านข้าง การรักษาคลีนชีต 4 นัดติดต่อกันสร้างความมั่นใจให้กับทีมอย่างมาก สถิติทีมชาติเติร์กเมนิสถาน 3 รอบก่อนหน้า ผลการแข่งขัน 3 นัดหลังสุด ชนะ ไต้หวัน 2-1 – 25 มี.ค. 2568 (คัดเลือกเอเชียนคัพ) เสมอ ฮ่องกง 0-0 – 11 มิ.ย. 2567 (คัดเลือกฟุตบอลโลก) แพ้ อุซเบกิสถาน 1-3 – 6 มิ.ย. 2567 (คัดเลือกฟุตบอลโลก) ความน่าจะเป็นของผลการแข่งขัน ทีมชาติไทย: ฟอร์มการเล่นกำลังดี มีความมั่นใจ และมีประสบการณ์ในการเล่นในระดับนานาชาติ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน: แม้จะได้เปรียบเรื่องสนามเหย้า แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่สม่ำเสมอ คาดการณ์ผลการแข่งขัน: ทีมชาติไทยมีโอกาสชนะสูง ด้วยสกอร์ 2-0 หรือ 2-1 ความพร้อมของนักเตะ นักเตะทุกคนมีความฟิตเต็ม 100% มีความพร้อมเต็มที่ สำหรับการแข่งขันนัดนี้ ทุกคนมั่นใจว่าจะคว้าชัยชนะมาให้ได้ แผนการเล่นและความมั่นใจ โค้ช เมอร์เกน โอราซอฟ คาดว่าจะใช้ระบบ 4-4-2 เน้นเกมรับและการโต้กลับเร็ว การเล่นในบ้านและความคุ้นเคยกับสนามหญ้าเทียมอาจเป็นข้อได้เปรียบของทีม ความพร้อมของทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบระเบียบและการเพรสซิ่งแบบมีวินัย ทีมไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ด้วยผลงาน ไม่เสียประตูติดต่อกัน 4 นัด สรานนท์ อนุอินทร์ นายด่านมือหนึ่งกำลังมั่นใจ เช่นเดียวกับแผงหลังที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น มีทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, สันติภาพ จันทร์หง่อม และปาล์ม พรรษา เหมวิบูลย์ แดนกลางใช้กำลังหลักอย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่มีพละกำลังสูงและผ่านบอลแม่นยำ ส่วนแนวรุกยังมี "ธีรศิลป์ แดงดา" ที่แม้จะอายุมากขึ้นแต่ยังเก๋าเกม, "สุภโชค สารชาติ" แม้มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยก่อนหน้านี้ แต่หากฟิตพร้อมจะเป็นตัวทีเด็ด รวมถึง ปรเมศย์ อาจวิไล ดาวรุ่งที่กำลังฉายแวว ความพร้อมของทีมชาติเติร์กเมนิสถาน เติร์กเมนิสถานเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งด้านร่างกายและวินัยในเกมรับ มีจุดเด่นที่การตั้งรับในแดนตัวเองแล้วสวนกลับอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้ระบบ 4-4-2 หรือ 5-4-1 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยอาศัยความได้เปรียบในบ้านและสนามหญ้าเทียม ผู้เล่นที่น่าจับตามองคือ อาร์สลานมูรัต อะมานอฟ มิดฟิลด์กัปตันทีมที่เคยเล่นให้ทีมในลีกอุซเบกิสถาน และ เมห์รัต ยากชีเยฟ กองหน้าที่มีความเร็วเป็นอาวุธสำคัญ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของทีมนี้คือความผิดพลาดในแดนกลาง และการยืนตำแหน่งเกมรับที่ยังมีช่องให้เจาะได้ หากโดนเพรสซิ่งหนักๆ ก็อาจเสียบอลง่าย วิเคราะห์รูปเกม คาดว่าทีมชาติไทยจะครองบอลได้เหนือกว่า และพยายามเล่นตามแท็กติก “เซตเกมจากแดนหลังแล้วเจาะริมเส้น” โดยอาศัยสปีดและความเข้าใจในจังหวะการเล่น ขณะที่เติร์กเมนิสถานจะรับลึกและรอสวนกลับ โดยเล็งจุดอ่อนจากพื้นที่หลังของแบ็คซ้าย-ขวาไทย ความแตกต่างชัดเจนคือเรื่องของ “ระบบทีม” และ “ประสบการณ์ในเกมระดับนานาชาติ” ซึ่งฝั่งไทยดูมีภาษีดีกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องสภาพสนามที่เป็นหญ้าเทียมอาจทำให้เกมของไทยช้าลงและต้องระวังการเสียบอลกลางสนาม ความน่าจะเป็น ไทยมีโอกาสชนะ: 65% เสมอ: 25% เติร์กเมนิสถานชนะ: 10% คาดการณ์สกอร์ หากไทยเจาะได้ตั้งแต่ครึ่งแรก เกมจะไหลลื่นและมีโอกาสชนะสูงด้วยความมั่นใจของนักเตะ และประสบการณ์ของนักเตะ หากครึ่งแรกยัง 0-0 เกมจะตึง และต้องใช้ความอดทนรอจังหวะผิดพลาดของเจ้าบ้าน เกมส์อาจจะพลิกทำให้เล่นยากมากขึ้นและอาจจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ สกอร์ที่คาด: ไทย 2-0 เติร์กเมนิสถาน ช่องทางการรับชม ถ่ายทอดสดทาง True Sports 2 สรุปส่งท้าย เกมนี้คือบทพิสูจน์ศักยภาพของทีมชาติไทยบนเวทีเอเชีย การคว้า 3 แต้มจะเปิดทางสู่การเข้ารอบสุดท้ายอย่างมั่นใจ หากเล่นด้วยมาตรฐานเดิมที่แสดงให้เห็นในเกมกับอินเดีย ความฝันที่จะไปเอเชียนคัพ 2027 รอบสุดท้ายก็ไม่ไกลเกินเอื้อม อย่าพลาดชม! วันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 22.00 น. เชียร์ไทยพร้อมกันทั่วประเทศ! ทาง True Sports 2 รูปภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 นำมาจาก Fackbook ของ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย รูปภาพหน้าปก นำมาจาก Fackbook ของ ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !