รีเซต
พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "สิ้นสุดการรอคอย ?" ลิเวอร์พูล VS วูล์ฟแฮมป์ตัน ... by "บก.เก้น"

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "สิ้นสุดการรอคอย ?" ลิเวอร์พูล VS วูล์ฟแฮมป์ตัน ... by "บก.เก้น"

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "สิ้นสุดการรอคอย ?" ลิเวอร์พูล VS วูล์ฟแฮมป์ตัน ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
11 พฤษภาคม 2562 ( 00:51 )
6.5K
39

พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2018/19
ลิเวอร์พูล VS วูล์ฟแฮมป์ตัน

รายการ : พรีเมียร์ลีก 2018/19
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2562 เวลา 21.00 น.
สนาม : แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2 & TrueID App

เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลโลกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018/2019 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 20 ทีมชั้นนำแห่งเกาะอังกฤษ ตลอด 38 แมตช์ที่อัดแน่นจุใจทั้งฤดูกาล มั่นใจได้เลยว่า พรีเมียร์ลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน

แน่นอน สำหรับแฟนบอลไทยที่ไม่อยากตกเทรนด์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ TrueID Sports จัดเต็มให้กับการอัพเดตทุกแง่มุมทั้งข่าวสารอัพเดตแบบเรียลไทม์ คลิปไฮไลท์ รวมถึงช่องทางติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบสดๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยความคมชัดระดับ HD และถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ sport.trueid.net/premierleague

เกมคู่นี้ลงแข่งขันกันใน คืนวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2562 เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN SPORTS 2 & TrueID App

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

“หงส์แดง” ต้องเดินลงสนามด้วยสองเงื่อนไขนั่นคือ การเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ให้ได้ก่อนเป็นอย่างแรก พร้อมกับการวิงวอนให้ แมนฯ ซิตี้ สะดุดยอดหญ้าที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม

แม้ทั้งในทางทฤษฎี และปฏิบัติ โอกาสที่เราจะเห็น “เรือใบสีฟ้า” พลาดนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะมนต์เสน่ห์เกมลูกหนังที่ “ความสุข กับคราบน้ำตาแห่งความเศร้า” นั้นสามารถพลิกไปพลิกมาได้ในทุกๆ วินาที ฉะนั้น สิ่งเดียวที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีมควรจะโฟกัสก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะคิดไปถึงการให้ แมนฯ ซิตี้ สะดุดนั่นก็คือ ลงไปเล่นในเกมนัดสุดท้ายของซีซั่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยความสนุก ด้วยความสุข และเหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือ “ชัยชนะ”

ความหนึบจากเกมที่โกงความตายใส่ บาร์เซโลน่า พิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองในโลก ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด การเซฟนับครั้งไม่ถ้วนของ อลิสสัน เปรียบดั่งใบการันตีการเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งต่อไปไม่มีเปลี่ยน ส่วนแผงหลัง วิงแบ็กสองข้าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอดตลอดสองนัดหลังสุด จะจับคู่กับแบ็กซ้ายกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์อย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แน่นอน

คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เกมนี้ คล็อปป์ คงไม่เสี่ยงใช้งาน เดยัน ลอฟเรน อีกแล้ว และเป็น โจเอล มาติป ที่คืนทัพจับคู่กับ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก และเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ

แผงมิดฟิลด์ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม เชื่อว่าเกมนี้ บอสเจเค จะให้โอกาสเจ้าตัวโชว์ฟอร์มอย่างต่อเนื่อง พร้อมวาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ขยับขึ้นมาเป็นตัว Box to Box โดยปล่อยให้หน้าที่เกมรับเป็นของ ฟาบินโญ่ ส่วน นาบี เกอิต้า ล่าสุดต้องรูดม่านปิดฉากฤดูกาลนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณโคนขาหนีบ ด้าน เจมส์ มิลเนอร์ รอสแตนด์บายในครึ่งเวลาหลังแน่นอน

สามประสานในแนวรุก วินาทีนี้ คล็อปป์ เองคงต้องเช็คความฟิตของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก่อนว่าพร้อมสำหรับเกมนัดสำคัญนี้รึเปล่า แต่ถ้าไม่ กุนซือเยอรมันรายนี้ยังมีไพ่ใบเด็ดอย่าง ดิว็อค โอริกี้ ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต โดยมี ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ได้รับการคอนเฟิร์มแล้วว่าลงสนามได้อย่างแน่นอน ยืนขนาบข้างหวังพังประตูให้ได้เร็วที่สุด เพื่อคลายความกดดันในสนาม

สภาพความพร้อม วูล์ฟแฮมป์ตัน

เรียกได้ว่าเดินทางมายัง แอนฟิลด์ ในสภาพที่ไม่หมูเลยแม้แต่น้อยสำหรับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่การันตีอันดับ 7 ของตารางได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม หลังชนะมาติดต่อกันสามนัดเข้าให้แล้ว แถมปีนี้พวกเขายังโชว์ล้มยักษ์ในลีกมาเพียบ ไล่มาตั้งแต่ เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง อาร์เซน่อล เรียกได้ว่าเกมนี้ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ยังคงเต็มที่อย่างแน่นอน

กุนซือชาวโปรตุกีสน่าจะยึดระบบ 3-5-2 ที่กำลังพาทีมติดลมบนอยู่ ณ ขณะนี้ เป็นแทคติกหลักในการบุกมาเล่นเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แอนฟิลด์ โดยวางลูกรักคนบ้านเดียวกันอย่าง รุย ปาทริซิโอ้ เป็นนายด่านมือหนึ่งลงเฝ้าเสา แนวรับสามคน หากไม่มีพลิก เจ้าตัวน่าจะเลือกใช้บริการ คอเนอร์ โคอาดี้ อดีตเด็กเก่าหงส์แดงลงสนามพร้อมกับ วิลลี่ โบลี่, และ ไรอัน เบนเน็ตต์ คอยรับมือกับแนวรุกระดับพระกาฬของเจ้าถิ่น

แดนกลาง เกมริมเส้นทั้งสองฝั่งจะยังเป็นสัมปทานของ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ กับ โจนาธาน “จอนนี่” คาสโตร ส่วนแพ็คกลาง แน่นอนยังเป็นเซ็ตหลักทั้ง รูเบน เนเวส, เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์ และเจา มูตินโญ่ ที่ยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ดเหมือนขิงชั้นเลิศจากโปรตุเกส ส่วนคู่หน้า ถ้าโลกไม่แตกยังไง นูโน่ ซานโต้ ก็ต้องเลือกใช้ ดีโอโก้ โจต้า คู่กับ ราอูล ฆิเมเนซ ที่เคยยิงประตูพา วูล์ฟส์ เอาชนะ ลิเวอร์พูล ในศ฿กเอฟเอ คัพ มาแล้ว

คลิกอ่าน >>> ถึงเวลา “ลิเวอร์พูล” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ?

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : อลิสสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, เดยัน ลอฟเรน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

วูล์ฟแฮมป์ตัน : รุย ปาทริซิโอ้ , ไรอัน เบนเน็ตต์, คอเนอร์ โคอาดี้, วิลลี่ โบลี่, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, รูเบน เนเวส, โจนาธาน “จอนนี่” คาสโตร, เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์, เจา มูตินโญ่, ดีโอโก้ โจต้า, ราอูล ฆิเมเนซ

สถิติที่น่าสนใจ

  • ครั้งสุดท้ายที่ วูล์ฟส์ บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ถึงถิ่นแอนฟิลด์นั้นต้องย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2010 ซึ่งในเกมนั้น พวกเขาบุกมาหักปีก “หงส์แดง” ถึงรัง 0-1 จากประตูชัยของ สตีเฟ่น วอร์ด
  • 57 คะแนนที่ “หมาป่า” ทำได้ในซีซั่นนี้ ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก เป็นรองแค่ อิปสวิช ทาวน์ ที่ทำได้ 66 คะแนน ก่อนจบด้วยอันดับ 5 ในปี 2000/01
  • หาก วูล์ฟส์ บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ นอกจากทัพ “หงส์แดง” จะไม่ได้แชมป์ลีกไปแบบร้อยเปอร์เซนต์แล้ว พวกเขาจะยังสร้างสถิติเป็นทีมที่มีอันดับต่ำกว่า Top 6 ที่สามารถเอาชนะทีมในกลุ่ม Top 6 ได้ถึง 5 ทีม ได้แก่ เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล
  • ทางเลือกเดียวที่จะส่งให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ก็คือ พวกเขาต้องจบเกมนี้ด้วยชัยชนะเท่านั้น พร้อมกับลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ชนะ ไบรท์ตัน

บทวิเคราะห์

การโกงความตายใส่ บาร์เซโลน่า ในถ้วยยุโรป คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่มาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ สำหรับทัพ “หงส์แดง” เพราะนั่นหมายถึงการขยับเพิ่มความมั่นใจก่อนลงทำศึกสำคัญกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้พอดิบพอดี แม้หลายๆ คนจะกังวลว่า ลิเวอร์พูล อาจจะโดนพิษไข้ความกดดันเข้าเล่นงาน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก่อนเป็นอย่างแรก ขณะที่ทีมเยือน แม้จะกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่ด้วยแรงจูงใจที่ต่างกัน บวกกับสภาพที่ที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ยังนึกไม่ออกว่า ดิโอโก้ โจต้า จะแหวกม่านเหล็กอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ไปได้อย่างไรในนัดนี้

เชื่อว่าเกมนี้จะเป็นเจ้าถิ่นที่เดินหน้าล่าประตูกันแบบสนุกเท้า ด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความหวังในถิ่นแอนฟิลด์ที่ลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดแค่นัดเดียวในฤดูกาลนี้ มั่นใจว่า คล็อปป์ และลูกทีมจะเดินหน้าพิชิตภารกิจแรกได้สำเร็จ นั่นคือ การถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบเละเทะนั่นเอง

สกอร์ที่คาด
ลิเวอร์พูล 4-0 วูลฟ์แฮมป์ตัน

“บก.เก้น”

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะไทยลีก 2019

 

อ่านข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก 2018/19

 

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ดูบอลสด – ไฮไลท์บอล แบบจัดเต็มได้ ที่นี่

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ดูไฮไลท์บอล พรีเมียร์ลีก ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้