คอฟุตบอล พรีเมียร์ลีกเชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงอยากให้เปิดฤดูกาลในวันพรุ่งนี้เลยถ้าเป็นไปได้ เพราะสิ่งที่กำลังรอคอยสำหรับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงก็คือ การที่จะได้เห็นฟอร์มการเล่นของสองศูนย์หน้าดาวรุ่ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ของ แมนซิตี้ และ ดาร์วิน นูเญซ ของ ลิเวอร์พูล ที่เตรียมจะออกล่าตาข่ายกับลีกใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ในบทความนี้จะขอเปรียบเทียบฟอร์มการเล่นของสองกองหน้าโดยพิจารณาจากสถิติของของทั้งคู่จากผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้วกับต้นสังกัดเก่า รวมถึงสไตล์การเล่น และเพื่อนร่วมทีมใหม่ที่จะทำให้รู้ผลงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล2022-2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้จะรอดหรือร่วงกันแน่ดาร์วิน นูเญซ vs เออร์ลิง ฮาแลนด์ : สถิติฤดูกาลที่แล้วดาร์วิน นูเนซ ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาล 2021-22 สำหรับสโมสรเก่า เบนฟิก้า ด้วยผลงานถล่มประตูไป 47 ประตูจาก 84 เกมในทุกรายการ โดยมีสถิติการทำประตูในบริเวณกรอบเขตโทษอยู่ที่ 92% ต่อเกม ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงเป็นตัวอันตรายในกรอบเขตโทษของคู่ต่อสู้และผลงานที่ยิงถล่มทลายแบบนั้น อีกหนึ่งสถิติที่น่าจะพิสูจน์ความคมของศูนย์หน้ารายนี้ได้ก็คือในฤดูกาลที่ผลงานจาก 34 ประตูในทุกรายการมีค่าเฉลี่ยในการทำประตูอยู่ที่ 81 นาทีต่อหนึ่งลูก อีกทั้งยังมีค่าเฉลี่ยการเป็นประตูจากการยิงอยู่ที่ 17.6% ถึง 34.6% ต่อเกม ทิ้งท้ายด้วยโอกาสสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษตลอดเวลา 90 นาทีอยู่ที่ 8.4 ครั้ง ด้วยสถิติทั้งหมดที่ว่าทำให้นี่คือนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของลิเวอร์พูล ณ เวลานี้เออร์ลิง ฮาแลนด์ ผลงานในฤดูกาลที่แล้วของเจ้าตัวกับเสือเหลืองดูจะไม่โสภาเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งอาจจะมาเพราะเจ้าตัวประสบปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้ไม่ได้ลงสนามต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น ตลอดทั้งฤดูกาลยิงไปเพียง 29 ประตูในทุกการ สถิติการเปลี่ยนเป็นประตูอยู่ที่ 27.3 % โอกาสสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษตลอดเวลา 90 นาทีอยู่ 8.7 ครั้ง การสร้างโอกาสสำหรับการจบสกอร์อยู่ที่ 0.8 ครั้งต่อเกม ทิ้งท้ายด้วยการเลี้ยงบอลสำเร็จเกมอยู่ที่ 0.5 ครั้ง มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงบอกว่าเทียบกับ ดาร์วิน นูเนซ แทบจะไม่ได้ แต่ก็อย่างที่เรียนไปครับว่า ด้วยโอกาสการลงสนามที่น้อย ทำให้สถิติที่ออกมานั้นก็ดูจะน้อยตามไปด้วยดาร์วิน นูเญซ vs เออร์ลิง ฮาแลนด์: สไตล์การเล่นดาร์วิน นูเนซ มีสัญชาตญาณของฉลามที่พร้อมจะพุ่งเข้าหากลิ่นคาวเลือดได้ตลอดเวลา ด้วยตัวเขาเองมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับการวิ่งเข้าหาจุดอันตรายในบริเวณกรอบเขตโทษ รู้ว่าจุดไหนจังหวะไหนที่จะวิ่งโฉบเข้าไปเปลี่ยนเป็นประตู นี่คือสัญชาตญาณของกองหน้าอย่างแท้จริง จุดเด่นอีกอย่างศูนย์หน้ารายนี้ก็คือสปีดต้นที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นทำให้ได้เปรียบอย่างมากในจังหวะวิ่งเข้าหาบอลในจังหวะโต้กลับ สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดสถิติก่อนหน้านี้น่าจะเป็นการตอบคำถามได้ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน ด้วยพละกำลังและการเข้าบอลที่หนักหน่วง อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของเจ้าตัวที่จะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่รุนแรงเอาได้เช่นกันเออร์ลิง ฮาแลนด์ จุดเด่นของเจ้าตัวก็คือเรื่องของข้อได้เปรียบเรื่องรูปร่างที่ใหญ่โต ทำให้สามารถปะทะกับกองหลังได้แบบไร้ที่ติ อีกทั้งยังมีความเร็วและการทำประตูจากลูกโหม่งซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอีกอย่างในเรื่องรูปร่างที่สูงใหญ่นั่นเอง จุดเด่นอีกอย่างคือการเลี้ยงบอลและไปกับบอลได้ดี ย้อนกลับไปในตอนที่อยู่กับเสือเหลืองจังหวะโต้กลับบ้างครั้งเมื่อไม่มีเพื่อนเติมเกมรุกได้ทัน เจ้าตัวก็ยังสามารถเลี้ยงบอลผ่านไปทำประตูได้เหมือนกับว่าไม่มีกองหลังอยู่ตรงนั้น อีกสิ่งหนึ่งก็คือความแรงในการยิงประตูซึ่งจะเป็นอุปสรรคสำหรับผู้รักษาประตูที่จะป้องกันในลูกยิงที่มีทั้งความแรงและความเร็วดาร์วิน นูเญซ vs เออร์ลิง ฮาแลนด์: เพื่อนร่วมทีมเป็นคีย์แมนปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งลิวเอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็มีคีย์แมนตัวคอนโทรลบอล วางบอลสั่นยาวได้อย่างแม่นยำอยู่ในทีม เริ่มจากหงส์แดงที่มี ดิเอโก อาคันทาร่า ที่จะเป็นศูนย์กลางในการวางบอลออกจากกลางไปทางซ้ายขวาหรือผ่านบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษที่อันตราย เพื่อให้กองหน้าวิ่งโฉบเข้าไปทำประตู และถึงแม้จะไม่มีห้องเครื่องรายนี้ในบางเกม การขึ้นเกมริมเส้นก็ยังมี เทร็น อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่จะวางบอลจากริมเส้น ซึ่งทั้งสองรายนี้จะเป็นตัวหลักเลยก็ว่าได้ที่จะส่งผลโดยตรงกับฟอร์มการทำประตูของ ดาร์วิน นูเญซ ทางฝั่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็คงหนีไม่พ้นจอมแอสซิสส์ เควิน เดอร์บรอยด์ ที่จะคอยวางบอลทั้งแนวลึกและบอลทะลุช่องให้กับศูนย์หน้าวิ่งเข้าฮอตส่งบอลเข้าตาข่าย ประจวบกันศูนย์หน้าร่างยักษ์ที่มีทั้งความเร็วและความคม โอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นประตูก็น่าจะมีสูงกว่าฤดูกาลที่แล้วเป็นแน่ หรือแม้ว่าจะไม่มีจอมแอสซิสต์ ก็ยังมี โรดรี้ และ แบร์นาโด ซิลวา ที่มักจะผ่านบอลจากริมเส้นตัดแผงกองหลังรอแค่ส่งบอลเข้าตาข่ายอยู่เหมือนกัน ทั้งหมดที่ว่ามานั้นตอนนี้ก็ยังเป็นการวิเคระห์จากข้อมูลที่เอามาจากฤดูกาลที่จบไปแล้ว ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะได้รู้กันว่าผลงานในลีกแห่งใหม่กับทีมใหม่ของทั้งสองศูนย์หน้าดาวรุ่งจะรอดหรือร่วงกันแน่ แต่จากสถิติและเรื่องราวทั้งหมดที่ว่ามาก็น่าจะตอบกับคอบอลทั้งหลายได้บ้างว่าใครจะน่าจะรอดและใครน่าจะร่วง หรือจะเข้าวินกันทั้งคู่ก็เป็นได้ข่าวที่เกี่ยวข้องล้วงลึก "คาลวิน ฟิลลิปส์" จะรอดหรือไม่กับการเป็นขุนพล แมนซิตี้จัดอันดับ 10 นักเตะขายออกแพงที่สุดตลอดกาลของ "ลิเวอร์พูล"" นิโกโล บาเรลลา" ดีลแลกตัวที่เต็มไปด้วยคำถาม ลิเวอร์พูล คุ้มค่าหรือไม่ ?ส่องสถิติ "คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู" ตัวแทน ซาดิโอ มาเน่ ที่เหมาะกับ "ลิเวอร์พูล"ส่องโปรไฟล์ "มาร์ติน เทอร์เรีย" หัวหอกเนื้อหอม ตัวละครใหม่ของ "ลิเวอร์พูล"เครดิตภาพปก twitter.com/ManCity :: ภาพที่ 1 , twitter.com/lfc :: ภาพที่ 2 เครดิตภาพปก twitter.com/ChampionsLeague :: ภาพที่ 1 , twitter.com/BlackYellow :: ภาพที่ 2 , twitter.com/ChampionsLeague :: ภาพที่ 3 , twitter.com/BlackYellow :: ภาพที่ 4 ,twitter.com/lfc :: ภาพที่ 5 ,twitter.com/ChampionsLeague :: ภาพที่ 6*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดีคลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565