สงครามกุหลาบจบลงด้วยชัยชนะของปีศาจแดงด้วยสกอร์ 2-0 ชนิดที่ว่าต้องลุ้นจนถึงช่วงท้ายเกมกว่าที่จะเป็นแมนยูที่ได้ 2 ประตู จากลูกโหม่งของ มาร์คัส แรซฟอร์ด กับลูกยิงแบบกระชากลากเลื่อนสไตล์ละตินของตัวสำรองอย่าง การ์นาโช่ นัดนี้ เอริค เทน ฮาก จัดตัวผู้เล่นแบบให้แฟนๆได้เสียวตั้งแต่ได้เห็นรายชื่อตัวจริง ทั้งการไว้ใจใช้งานเฟรดให้ลงตัวจริง ทั้งที่นัดก่อนฟอร์มแย่ และยังส่งจอมคอนเทนต์อย่าง กัปตัน แฮร์รี่ แมกไวลงมา ทั้งๆที่ ลิซานโด มาร์ติเนซ ก็มีชื่ออยู่ที่ม้านั่งสำรอง และผลก็คือแมกไกวยังคงทำคอนเทนต์จนเกือบเสียประตูจังหวะคืนหลังในช่วงครึ่งแรก และมีจังหวะส่งพลาดอีกหลายครั้ง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าไม่พลาดจนเสียประตู11 ตัวจริง แมน ยูไนเต็ดดาบิด เด เคอา (ผู้รักษาประตู) - ดิโอโก ดาโลต์, แฮร์รี แม็กไกวร์, ลุค ชอว์, ไทเรลล์ มาลาเซีย - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เฟร็ด - เจดอน ซานโช, บรูโน เฟอร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - เวาต์ เวกฮอร์สต์11 ตัวจริง ลีดส์ ยูไนเต็ดอิลลัน เมส์ลิเยร์ (ผู้รักษาประตู) - ลุค เอย์ลิง, โรบิน ค็อค, มักซิมิเลียน โวเบอร์, จูเนียร์ ฟีร์โป, ไทเลอร์ อดัมส์, เวสตัน แม็คเคนนี, ครีเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์, แจ็ค แฮร์ริสัน, วิลฟรีด ยอนโต, แพทริก แบมฟอร์ดรูปเกมครึ่งแรกสงครามกุหลาบไม่มีคำว่าจืดชืด เพียงแค่เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้น ทั้งสองทีมก็วิ่งตะบันแข้งกันไม่ยั้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด นั้น ถูกติดตั้งแทคติคดันสูงบีบพื้นที่ตั้งแต่แดนของ แมน ยูไนเต็ด ชนิดที่ว่าจะมีตัวผู้เล่นของลีดส์อย่างน้อย 3 ตัว ยืนคุมอยู่ที่เกือบจะถึงกรอบเขตโทษของแมนยู นั่นจึงทำให้ปีศาจแดงทำเกมได้ไม่ถนัดและจ่ายพลาดอยู่บ่อยครั้ง แต่ทางลีดส์เองแม้จะจะบีบสูง แต่พวกเขาก็ไม่ได้เพรสซิ่งเต็มรูปแบบ เพราะอาจจะกลัวลูกโต้กลับของแมนยู แต่การบีบสูงก็ทำให้ทางฝั่งผู้เล่นแมนยูต่อบอลกันแบบติดๆขัดๆ กระท่อนกระแท่นในช่วงครึ่งแรกนั้นผู้เล่นทั้งสองทีมจัดหนักแบบดุดันไม่เกรงใจใคร จังหวะเตะเป็นเตะไม่เหนียมอาย ทำให้ครึ่งแรกโดนใบเหลืองไปทั้งสองทีม โดยที่ลีดส์นั้นมีผู้เล่นโดนใบเหลืองไป 2 คน ก็คือ จูเนียร์ ฟลีโป ในนาทีที่ 18 , แมคเคนนี่ ในนาทีที่ 40 ส่วนทางฝั่งแมนยูนั้น เฟรดโดนใบเหลืองในนาทีที่ 21 เรียกกันว่าครึ่งแรกหวดกันไม่ยั้ง จบครึ่งแรกยังไม่มีสกอร์รูปเกมในครึ่งหลังเปิดเกมมาในครึ่งหลังกลายเป็นว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกใส่ทางฝั่งแมนยูอย่างหนัก แต่ก็ยังขาดจังหวะปิดสกอร์ที่จะแจ้ง ลูกยิงส่วนใหญ่ก็ไม่เกินกว่าที่ เด เกอา จะปัดป้องไว้ได้ จนกระทั่ง เอริค เทน ฮาก แก้เกมโดยส่ง ตัวสำรองอย่าง ลิซานโด มาร์ติเนซ ลงมาแทน ไตเรลล์ มาลาเซีย ที่ดูเหมือนจะมีปัญหาในการจัดการเกมรุกทางกราบขวาของลีดส์ และส่ง อเลฮานโด การ์นาโช่ ลงมาแทน เจดอน ซานโช่ ในนาทีที่ 61 และในนาทีที่ 73 ก็ส่ง อารอน วาน-บิสซาก้า ลงมาแทน ดิโอโก ดาโลต์ ทำให้รูปเกมของแมนยูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแมนยูมาได้ประตูขึ้นนำในนาที่ที่ 80 จากลูกโหม่งของ มาร์คัส แรซฟอร์ด ที่จังหวะเทคตัวขึ้นกลางอากาศและจังหวะสะบัดหัวโขกบอลจากลูกเปิดของ ลุค ชอว์ เข้าสู่ก้นตาข่ายนั้น แม่นยำและคมกริบ หลังจากนั้นไม่นาน การ์นาโช่ก็แสดงให้เห็นถึงทักษะความเร็ว การเลี้ยงบอลที่ฉับไวและความเฉียบคม โดยรับลูกจ่ายจาก เวาต์ เวกฮอร์สต์ ใช้ความเร็วกระชากบอลหนีกองหลังเข้าไปในเขตโทษ ตัดสินใจยิงไปที่เสาแรกอย่างเลือดเย็นแบบสุดๆ ซึ่งเป็นลูกที่การ์นาโช่แสดงให้เห็นมาแล้วในหลายนัดที่ผ่านมาสถิติเกมนี้ครองบอล : แมนยู 67% - ลีดส์ 33%ยิงประตู : แมนยู ยิงหลุดกรอบ 4 ครั้ง ยิงเข้ากรอบ 5 ครั้ง - ลีดส์ ยิงหลุดกรอบ 4 ครั้ง ยิงเข้ากรอบ 6 ครั้งสกอร์ : แมนยู 2-0 ลีดส์ฟาล์ว : แมนยู 13 ครั้ง - ลีดส์ 10 ครั้งใบเหลือง : แมนยู 1 ใบ - ลีดส์ 2 ใบแม้รูปเกมโดยรวมจะไม่ได้ดีมากนัก แต่ก็คว้า 3 แต้มได้สำเร็จ ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมน ยูไนเต็ด นั้น มีอยู่ 46 แต้ม ห่างจากจ่าฝูง อาเซน่อล ที่มี 51 แต้ม อยู่ 5 คะแนน แต่แมนยูนั้นแข่งมากกว่า 2 นัด เรื่องของการลุ้นแชมป์นั้น แฟนปีศาจแดงก็คงไม่ได้หวังอะไรมาก แต่การที่ทีมสามารถเก็บชัยชนะได้ ก็ยังทำให้ในฤดูกาลนี้ยังพอมีหวังในการไล่ตามจ่าฝูง แม้จะต้องลุ้นให้อาเซน่อลฟอร์มตกในนัดที่ยังเหลืออยู่บ่อยๆ รวมถึงต้องยึดพื้นที่ Top 4 เอาไว้ให้เหนียวแน่น เพราะต่อจากนี้โชคชะตาของปีศาจแดง พวกเขาเป็นผู้กำหนดเอง เครดิตรูป Manchester Unitedรูปปก 1 / ปก 2รูป 1 / รูป 2 / รูป 3 / รูป 4Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์