สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว Intrend ทุกคน พบกับผม D.O.M ในหัวข้อฟุตบอลยูโร 2020 อีกเช่นเคย แน่นอนว่าในตอนนี้กระแสคู่ที่น่าจับตามองมากที่สุดก็คือ คู่แรกของรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลยูโร 2020 ระหว่างอิตาลีกับสเปน ณ สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยวันนี้ผมจะพาทุกคนไปพบกับเกมการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติอิตาลีที่มาแรงอยู่ในขณะนี้ซึ่งจะต้องแข่งขันกับกระทิงดุสเปนที่เอาตัวรอดมาได้จากทีมสุดแกร่งในรอบก่อน ๆ การแข่งขันจะดุเด็ดเผ็ดมันขนาดไหนนั้นเราไปติดตามกันเลย..!!! ก่อนอื่นเราไปดูแผนการเล่นของทั้ง 2 ทีมกันก่อนเลย สำหรับทีมอิตาลี 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามตอนเริ่มการแข่งขัน ได้แก่ ดอนนารุมมา (GK) , ดี โลเรนโซ (DF), โบนุชชี่ (DF), กีเอลลินี (DF), เอเมอร์สัน (DF), บาเรลลา (MF), จอร์จิญโญ่ (MF), แวร์รัตติ (MF), คิเอซ่า (FW), อิมโมบิเล (FW) และ อินซิเญ่ (FW) โดยฟอร์มการเล่นเป็นรูปแบบ 4-3-3 11 นักเตะตัวจริง และแผนการเล่นทีมอิตาลี ส่วนทางสเปนก็ใช้รูปแบบการเล่น 4-3-3 เช่นกัน โดยมี 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงเล่นตอนเริ่มแข่งขัน ได้แก่ ซิมอน (GK), อัชปีลีกูเอตา (DF), การ์ซิอา (DF), ลาปอร์ต (DF), อัลบา (DF), โกเก้ (MF), บุสเกตส์ (MF), เปตริ (MF), เฟร์ราน ตอร์เรส (FW), โอยาร์ซาบัล (FW) และ โอลโม (FW) 11 นักเตะตัวจริง และแผนการเล่นของทีมสเปน เริ่มการแข่งขันมาสเปนมีความพยายามที่จะทำประตูขึ้นนำอิตาลีเพื่อความชัวร์ในชัยชนะ แต่แนวรับของอิตาลีก็เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าสเปนจะบุกหนักแค่ไหนกองหลังของอิตาลีก็สามารถบล็อกได้ทุกทาง รวมถึงจันลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูสุดเหนียวที่ทุ่มสุดตัวซุปเปอร์เซฟลูกยิงของทางฝั่งสเปน ถึงแม้อย่างนั้นก็มีโอกาสให้ทางอิตาลีได้บุกกลับบ้าง แต่แนวรับของสเปนก็เหนียวไม่แพ้กัน สามารถป้องกันประตูจากอิตาลีได้ และหมดเวลาครึ่งแรกไปผลคะแนนเสมอกัน 0-0 ก็ต้องคอยลุ้นต่อว่าในครึ่งหลังฝ่ายไหนจะทำประตูขึ้นนำไปก่อน เปิดการแข่งขันครึ่งหลังมาทั้ง 2 ทีมยังคงความสูสีกันอยู่ ต่างพยายามบุกขึ้นทำประตูซึ่งกันและกัน และเป็นอิตาลีที่สามารถทำประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 60 โดยคิเอซ่าศูนย์หน้าของอิตาลี ด้วยจังหวะที่อินซิเญ่พยายามบุกแดนหลังของสเปนแต่ถูกสกัดไว้ได้ แต่คิเอซ่าวิ่งมาเก็บบอลไว้ได้ทันและยิงเฉียงขวาผ่านซิมมอนเข้าประตูสเปนไปได้ สร้างความได้เปรียบให้กับทางอิตาลีตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงมากขึ้น ทางฝั่งสเปนจึงต้องเปลี่ยนตัวเฟร์ราน ตอร์เรส ออก แล้วให้อัลบาโร มอราตา เข้าแทน จากนั้นสเปนก็พยายามบุกอย่างหนัก เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัวจริง ๆ และความพยายามไม่เคยทรยศพวกเขาจริง ๆ อัลบาโร มอราตา สามารถทำประตูตีเสมอให้กับทางฝั่งสเปนเป็น 1-1 ได้สำเร็จ ด้วยลูกแปรธรรมดาแต่ร้ายกาจ ผ่านดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูสุดเหนียวของอิตาลีไปได้ เพียงแค่ 10 นาทีก่อนหมดครึ่งหลังเท่านั้น ถือว่าสร้างโอกาสลุ้นรอบชิงให้สเปนอีกครั้งหนึ่ง และจบครึ่งหลังไปด้วยผลเสมอกัน 1-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษทั้ง 2 ทีมเข้าบุกทำประตูของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ จนในนาทีที่ 109 ทางอิตาลีมีโอกาสที่จะทำประตูขึ้นนำสเปนได้ ด้วยฝีเท้าของโดเมนิโก้ เบราร์ตี้ ที่เข้ามาแทนอิมโมบิเลในนาทีที่ 60 โดยเบราร์ตี้สามารถสไลด์เตะบอลผ่านซิมมอนผู้รักษาประตูสเปนเข้าโกลไปได้ แต่โชคร้ายที่กลายเป็นล้ำหน้าไปซะได้ ดังนั้นทางฝั่งอิตาลีก็ยังไม่ได้ประตูที่ 2 ไป จนหมดเวลาช่วงต่อเวลา และต้องไปลุ้นต่อในการดวลจุดโทษต่อไป ในช่วงดวลจุดโทษ ทางฝั่งอิตาลีได้เริ่มก่อนโดยส่ง โลคาเตลลี มาแต่ก็ไม่สามารถทำประตูสเปนได้ ทางฝั่งสเปน โอลโมนั้นยิงพลาดข้ามคาน ทำให้ลูกแรกของทั้ง 2 ทีม ยังไม่ได้คะแนน ต่อมาลูกที่ 2 เบลอตติ สามารถทำประตูให้อิตาลีได้ 1-0 ตามมาด้วยมูแรนูยิงตีตื้นขึ้นมาให้กับทางสเปนเป็น 1-1 ต่อมาในลูกที่ 3 โบนุชชี่ก็ยิงเข้าทำอิตาลีนำ 2-1 ส่วนัลกันตราฝั่งสเปนก็ยิงเข้าตีตื้นขึ้นมาอีกเป็น 2-2 ในลูกที่ 4 แบร์นาร์เดสคี ยิงขึ้นนำให้กับทางอิตาลีเป็น 3-2 ส่วนทางสเปนมอราตานั้นยิงไปแต่ถูกดอนนารุมมาเซฟลูกได้ ทำให้ฝั่งสเปนเริ่มหมดโอกาสชนะ และแล้วในลูกสุดท้ายจอร์จินโญ่ ก็สามารถทำประตูให้กับทางอิตาลีอีก เป็น 4-2 ทำให้อิตาลีคือทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปในที่สุด หลังจากดูการแข่งขันจบ รู้สึกว่าอิตาลี vs สเปน เป็นคู่ที่มันมาก เกมดุเดือด คู่คี่สูสี เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ใส่กันไม่ยั้งเลยทีเดียว ผลออกมาคือ เสมอกัน 1-1 แม้จะเข้าสู่ช่วงต่อเวลาผลก็ยังออกมาเสมอกันเช่นเดิม จึงจำเป็นต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และท้ายที่สุดอิตาลีสามารถเฉือนเอาชนะสเปนด้วยการชนะจุดโทษ 4-2 นำพาอิตาลีเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ผมรู้สึกว่าอิตาลีเหมาะที่จะผ่านเข้ารอบชิงจริง ๆ ทีมนี้คือเล่นดีสุด ฟอร์มดีจัด แนวรับอย่างเหนียว แนวบุกอย่างโหด ส่วนทางสเปนตัวผมก็รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะว่าก็ไม่ได้น้อยหน้าอิตาลีเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้จะเริ่มต้นมาแบบกระท่อนกระแท่น แต่ในการแข่งขันนี้สเปนได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านมาเพราะโชคช่วย แต่ด้วยฝีมือจริง ๆ อย่างไรก็ตามก็เป็นกำลังใจให้กับทีมสเปน และคอยติดตามเชียร์ทีมอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศด้วยนะครับ ห้ามพลาด..!!!! พบกับคู่ที่ 2 ของรอบรองชนะเลิศ อังกฤษ vs เดนมาร์ก คืนวันพฤหัสที่ 8 ก.ค. เวลา 02.00 น. ทีมไหนจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะและเข้าไปพบกับอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศ สามารถติดตามเชียร์ทีมที่คุณรัก ผ่านการถ่ายทอดสดทาง True Sports HD 3 และ NBT2 HD นะครับ เครดิตรูปภาพ : ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก UEFA EURO 2020 / Facebook : ภาพปก / ภาพที่7 / ภาพที่8 ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก UEFA EURO 2020 / Twitter : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่9 / ภาพที่10 ช่อง ID Staion ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่ วิธีการดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทางช่อง ID Station >> คลิกที่นี่ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!