ภาพโดย pixabay วงการฟุตบอลในปัจจุบัน แนวความคิดในการเพิ่มขีดความสามารถนักเตะในตำแหน่งหนึ่ง ๆ ดูจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทุกวันตามรูปแบบการเล่นที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ นักเตะหนึ่งคนอาจต้องรับผิดชอบ 2 – 3 บทบาทหน้าที่ตามแต่ความต้องการของโค้ช แน่นอนว่าการที่จะทำอย่างที่กล่าวมาได้ นักเตะจะต้องมีทักษะความสามารถมากกว่าตำแหน่งรับผิดชอบของตนเอง ผู้รักษาประตูจะต้องมีทักษะของกองหลัง/กองกลาง กองกลางจะต้องมีทักษะของกองหลัง/กองหน้า กองหน้าจะต้องมีทักษะของกองกลาง/กองหลัง เป็นต้น ลองจินตนาการดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากผู้เล่นกองหลังมีความสามารถแบบกองกลาง? จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากองหลังสามารถสร้างสรรค์เกมได้อย่างหลากหลาย สามารถเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้? จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากองหลังจะไม่รอป้องกันการเข้าทำประตูจากคู่แข่งเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป? ภาพโดย pixabay ผู้เล่นกองหลังที่ใช้เท้าได้ดี สามารถเปิดเกมรุกได้เป็นสิ่งที่หาได้ยาก เมื่อผู้เล่นที่มีความสามารถแบบนี้เข้ามาในตลาดค้าแข้ง แน่นอนว่าราคาค่าตัวของกองหลังสไตล์นี้ย่อมแพงมากขึ้นไปจากเดิม เราจึงเห็นการทุบค่าตัวเป็นสถิติโลกจากกองหลังสไตล์นี้เป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็น อายเมริค ลาป๊อร์กต์ (Aymeric Laporte) ของแมนเชสเตอร์ซิตี้, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (Virgil van Dijk) ของลิเวอร์พูล และดาวเด่นกองหลังล่าสุด คือ แฮรี่ แม็คไกวร์ (Jacob Harry Maguire) ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ภาพโดย pixabay ‘Ball-playing defenders’ คือคำเรียกขานผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังที่มีความสามารถ ‘ใช้เท้า’ ได้ดี ทุกคนต่างทราบอยู่แล้วว่าฟุตบอลคือกีฬาที่ใช้เท้าเล่น แต่นิยามของการ ‘ใช้เท้า’ ได้ดี ในวงการฟุตบอลนั้นหมายความว่า ผู้เล่นคนนั้นจะต้องมีเทคนิคการใช้ฝีเท้าดีเป็นพิเศษกว่าคนอื่น รวมถึงความว่องไวมากขึ้นไปกว่าผู้เล่นคนอื่นด้วยเช่นกัน ความสามารถดังกล่าว เช่น 1. กองหลังที่มีลักษณะเป็น Ball-playing defenders จะต้องจ่ายบอลในระยะใกล้ - ไกลได้แม่นยำ 2. Ball-playing defenders จะต้องพาบอลเลี้ยงหลบผ่านคู่แข่งไปได้แม้ในพื้นที่แคบ ๆ 3. Ball-playing defenders จะต้องมีส่วนในการทำเกมรุกให้กับทีมได้ เรียกได้ว่ากองหลังที่เป็น Ball-playing defenders จะแตกต่างไปจากกองหลังทั่วไปที่คอยวิ่งสกัด รอตัดบอลจากคู่แข่งจนถึงรอเก็บบอลตกหล่นจากกองหลังตัวชนเพียงอย่างเดียวไปอย่างสิ้นเชิง (กองหลังยังสามารถแบ่งย่อยเป็นกองหลังตัวชนกับกองหลังตัวซ้อนได้อีก) หากจะเปรียบให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นอาจกล่าวได้ว่า บทบาทหน้าที่ของกองหลังทั่วไปจะเล่นเกมรับ 90% เกมรุก 10% ในขณะบทบาทหน้าที่ของกองหลังที่ใช้เท้าได้ดี (Ball-playing defenders) จะเล่นเกมรับ 70% เกมรุก 30% ภาพโดย pixabay จากวิธีการเล่นเช่นนี้จึงพอจะกล่าวได้ว่า หากเปรียบกองหลังดั้งเดิมเสมือนกำแพงป้อมปราการคอยตั้งตระหง่านรอรับการโจมตีจากข้าศึก Ball-playing defenders ก็คงจะเป็นหอคอยจักรกลเคลื่อนที่ติดอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมเข้าบดขยี้ถึงดินแดนข้าศึก