พรีวิว ไทยลีก 2019 : “บิ๊กแมตช์ที่คนทั้งประเทศจับตา” เชียงราย ยูไนเต็ด VS เมืองทอง ยูไนเต็ด
พรีวิว ไทยลีก 2019
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด VS เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
รายการ : ไทยลีก
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2018 เวลา 19.00 น.
สนาม : สิงห์ สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : TRUESPORT HD 2 & TrueID App
เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลโลกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย อย่าง ไทยลีก 2019 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 16 ทีมชั้นนำของไทย มั่นใจได้เลยว่า ไทยลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน
แน่นอน สำหรับแฟนบอลไทยที่ไม่อยากตกเทรนด์ฟุตบอลไทยลีก ในฤดูกาลนี้ TrueID Sports จัดเต็มให้กับการอัพเดตทุกแง่มุมทั้งข่าวสารอัพเดตแบบเรียลไทม์ คลิปไฮไลท์ รวมถึงช่องทางติดตามชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบสดๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยความคมชัดระดับ HD และถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ sport.trueid.net
เกมคู่นี้ลงแข่งขันกันวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2018 เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง TRUESPORT HD 2 & TrueID App
สภาพความพร้อม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
แมตช์เดย์ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ทางฝั่งเจ้าบ้าน สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไม่มีสิทธิ์เรียกใช้บริการนายทวารช้างศึกอย่าง สรานนท์ อนุอินทร์ นอกจากนี้ยังมี “ลูกพี่ไดร์” ปิยพล ผานิชกุล ที่คาดว่าจะหายจากบาดเจ็บราวๆ ครึ่งซีซั่น นอกจากนี้ ชัยวัฒน์ บุราณ ปีกจอมครอสอีกหนึ่งคนที่ไม่สามารถลงสนามให้กับ สิงห์ เชียงรายฯ ได้ ทำให้ 2 ศิษย์เก่าจาก เอสซีจี เมืองทอง พลาดการลงสนามฟาดแข้งกับต้นสังกัดเก่า
คาดว่าเฮดโค้ข เอลตัน ดอสซานโตส ซิลวา จะใช้ผู้เล่นชุดหลักเท่าที่มีในทุกๆ ตำแหน่งเพื่อรับมือกับ เมืองทองฯ ไล่มาตั้งแต่ศูนย์หน้าจอมไถอย่าง บิลล์ โรซิมาร์ ยืนค้ำเป็นหัวหอกตัวเป้าที่มาพร้อมกับ 2 กองหน้าทางฝั่งซ้าย และขวา วิลเลี่ยม เอ็นริเก้, ศิวกรณ์ เตียตระกูล แดนกลางวางใจให้ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล และ อี ยอง แร คอยคุมจังหวะในเกมรุก และรับ
ในส่วนของเกมรับมีกำแพงหินทั้ง 5 คนอันประกอบไปด้วย สุริยา สิงห์มุ้ย, ธนะศักดิ์ ศรีใส, บรินเนอร์ เอ็นริเก้, ศราวุธ อินแป้น และชินภัทร ลีเอาะ พร้อมทั้งมี อภิรักษ์ วรวงษ์ เป็นนายทวารมือ 1 จำเป็นเข้ามาแทนที่ของ สรานนท์ อนุอินทร์ โดยมี ฟารุส ปาตี ประจำการในตำแหน่งมือ 2
สภาพความพร้อม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
การขึ้นเหนือเพื่อไปเยือน “กว่างโซ้ง” ในวันนี้ “กิเลนผยอง” จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โอ บัน ซอค เซ็นเตอร์แบ็กตัวใหม่จากแดนกิมจิ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปราการหลังคนสำคัญของทีม
คาดว่า “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก จะกรีธาทัพมาแบบจัดหนักจัดเต็มเพื่อ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด โดยเฉพาะอย่างแน่นอน โดยให้ศูนย์หน้าดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง กรวิชญ์ ทะสา ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี 2 หัวหอกรุ่นพี่ผู้รับสัมปทานลูกนิ่ง เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส และ “เทพกิเลน” ธีรศิลป์ แดงดา รับหน้าที่เติมเกมรุกทางฝั่งริมเส้น แดนกลางมี สารัช อยู่เย็น, อีโฮ 2 มิดฟิลด์ตัวเก่งคอยบัญชาการเกมกลางสนาม
นอกจากนี้กิเลนผยองยังอัดปราการหลังถึง 5 คนเพื่อความชัวร์ว่าจะไม่เสียประตูไล่มาตั้งแต่วิงแบ็กฝั่งซ้ายอย่าง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ทางขวารับหน้าที่โดย ศนุกรานต์ ถิ่นจอม และอีกเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน อย่าง อดิศร พรหมรักษ์, วัฒนา พลายนุ่ม, ศฤงคาร พรมสุภะ คอยประจำการขันเกมรับให้แน่น เพื่อให้ ดัง วัน ลัม ที่ลงเฝ้าเสาเล่นเกมรับได้ง่ายขึ้น
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด : อภิรักษ์ วรวงษ์(ผู้รักษาประตู), สุริยา สิงห์มุ้ย, ธนะศักดิ์ ศรีใส, บรินเนอร์ เอ็นริเก้, ศราวุธ อินแป้น, ชินภัทร ลีเอาะ, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, อี ยอง แร, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, วิลเลี่ยม เอ็นริเก้, บิลล์ โรซิมาร์
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : ดัง วัน ลัม(ผู้รักษาประตู), ศุภนันท์ บุรีรัตน์, อดิศร พรหมรักษ์, ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, ศฤงคาร พรมสุภะ, วัฒนา พลายนุ่ม, อี โฮ, สารัช อยู่เย็น, กรวิชญ์ ทะสา, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส, ธีรศิลป์ แดงดา
บทวิเคราะห์
ณ เวลานี้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ก้าวขึ้นสู่การสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งโตโยต้าไทยลีกได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการผงาดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาจากซีซั่นก่อน และเป็นสโมสรที่คับคั่งไปด้วยแข้งฝีเท้าเยี่ยมอีกหลายๆ คน ที่สำคัญการรักษาตัวผู้เล่นชุดหลักโดยไม่ปล่อยออกจนเสียระบบทำให้ “กว้างโซ้งมหาภัย” ตัวนี้ยังคงความแข็งแกร่งไว้ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
นอกจากนี้การมีศูนย์หน้าร่างยักษ์อย่าง บิลล์ โรซิมาร์ ที่มีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางโอกาส การลากเลื้อย และการจบสกอร์อันเฉียบคม ทำให้เขาเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่มีความอันตรายสูงรวมถึงความสามารถดึงตัวประกบได้มากกว่า 1 คน ทำให้พิษสงของหัวหอกรายนี้ช่างเหลือร้าย ประกอบกับเกมรับอันเหนียวแน่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้ากว่างโซ้งตัวนี้ด้วยการเสียประตูเฉลี่ยเพียงนัดละ 1 ลูก ทำให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีความสมดุลสูงมากๆ ทีมหนึ่งในโตโยต้าไทยลีก และพร้อมคว้าแชมป์ในรายการต่างๆ แบบซุ่มเงียบอยู่เสมอ ทว่าในเกมลีก 3 นัดที่ผ่านมาเราต่างเห็นพ้องต้องกันว่า สิงห์ เชียงรายฯ
ทางฝั่งทีมเยือน “กิเลนผยอง” ดูเหมือนกับว่าผลงานจะดร็อปๆ ลงไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ การขาดตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีราธร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และธีรศิลป์ แดงดา ไป แล้วหาผู้เล่นมาทดแทนตำแหน่งไม่ได้ ทำให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกิดอาการเสียศูนย์อย่างหนัก ทว่าในฤดูกาล 2019 นี้การกลับมาของ “เทพกิเลน” จะทำให้ทีม และแฟนบอลตั้งความหวังไว้มากว่า “เจ้ามุ้ย” ที่ได้ออกไปลับฝีเท้ามาจากแดนไกลถึงเจลีกญี่ปุ่นถึง 1 ปี น่าจะกลับมาช่วยยกระดับให้ เมืองทองฯ สามารถกลับมาอยู่ในฐานะทีมลุ้นแชมป์ได้อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย ด้วยเกมรับค่อนข้างหลวมประกอบกับอาการบาดเจ็บของ โอ บัน ซอค ทำให้การป้องกันหลังบ้านของ “กิเลนผยอง” อยู่ในขั้นวิกฤตจนถึงขั้นแพ้คู่แข่งใน 2 นัดแรก โชคยังดีที่พวกเขาสามารถเปิดบ้านเอาชนะน้องใหม่อย่าง “พยัคฆ์ล้านนา” ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0
คาดว่าความมั่นใจของสโมสรตรากิเลนคู่จะกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้การประสานงานของ 3 กองหน้าอย่าง กรวิชญ์ ทะสา, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส และธีรศิลป์ แดงดา ยังมีความอันตรายด้วยการเข้าทำที่ยากเกินกว่าจะคาดเดาสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับที่เปรียบดั่งกำแพงเหล็กของ สิงห์ เชียงรายฯ ได้ไม่มากก็น้อย
ถึงแม้ทั้ง 2 ทีมจะมีแผนการเล่นที่คล้ายคลึงกันนั่นคือการเน้นหลัง 3 และมีวิงแบ็ก 2 ข้าง ทว่าสไตล์การเล่นกลับมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในเรื่องการเข้าทำ ทางด้านเจ้าบ้านมีจุดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศโดยให้ บิลล์ โรซิมาร์ เป็นตัวพักบอล และทำเกมต่อให้เพื่อนในเวลาเดียวกัน และคอยมีเพื่อนเติมเกมรุกอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านี้ บิลล์ ยังเป็นคนที่สามารถลากเลื้อยผ่านตัวประกบไปได้แบบงงๆ ชนิดที่เรียกได้ว่า “เผลอไม่ได้” ทำให้เกมการบุกของ “กว่างโซ้งมหาภัย” ค่อนข้างมีสไตล์ที่หลากหลายประกอบกับเกมรับที่เหนียวแน่น และได้เปรียบจากเกมในบ้านทำให้เกมนี้พวกเขาน่าจะเสียประตูยากอยู่พอสมควร
ทาง เอสซีจี เมืองทอง เองก็เช่นกัน ในเกมรุกมีค่อนข้างหลากหลายทั้งการเล่นบอลแทงช่อง และโยนบอลออกปีกเพื่อครอสเข้ามาในกรอบเขตโทษ อาจทำให้แนวรับของคู่แข่งต้องมึนงงบ้างเป็นบางครั้ง ทว่าจุดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาพิชิตการแพ็คเกมรับที่ยากจะเจาะของ เชียงใหม่ เอฟซ๊ ลงได้ ประกอบกับลูกนิ่งของ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ที่มีความอันตรายเป็นอันดับต้นๆ ของไทยลีก จึงคาดว่าบิ๊กแมตช์ไทยลีกสัปดาห์นี้เป็นเกมที่ค่อนข้างอึดอัด วัดกันที่ความผิดพลาด แท็คติกบวกกับกึ๋นของโค้ชทั้ง 2 ทีม โอกาสที่ไม่สิ้นเปลือง และจะเป็นเกมที่สูสียิงประตูกันไม่เยอะอย่างแน่นอน
สกอร์ที่คาด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 เอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ด
“Jinius”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ