สิ้นสุดกันแค่นี้เมื่อยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พ่ายให้กับทัพตราหมี แอตเลติโกมาดริด ไปด้วยสกอร์รวม 2-1 ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังจากที่เสมอกันมาก่อนหน้านี้ที่ เมโทรโปลิตาโน่ 1-1 ครึ่งแรกเจ้าบ้านเล่นได้ดีเลย เกมรุกที่ไปข้างตลอด โดยนาทีที่ 13 แมนยูไนเต็ดเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส เปิดบอลไปที่เสาแรก และเจ้าหนูอีแลงก้า ได้ชาร์จจ่อๆ แต่น่าเสียดายติดเซฟ แยน โอบลัค สุดท้ายเมื่อไม่ได้ก็กลายเป็นโดน นาทีที่ 41 แอตฯ มาดริด ได้ประตูขึ้นนำเจ้าบ้าน จากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ เปิดบอลจากฝั่งขวาไปเสาไกลให้ เรนาน โลดี พุ่งโหม่งเข้าไปแบบหมดสิทธิ์เซฟ และก็จบด้วยสกอร์นี้ไปในครึ่งแรก ครึ่งหลังเริ่มมาดันกลายเป็นทีมเยือนที่ครองเกมไว้ได้ ถึงแม้ แมนยูไนเต็ด จะมีจังหวะทำเกมบุกขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ประตูตีเสมอ ทั้งจังหวะที่ จาดอน ซานโช วอลเลย์ด้วยขวาพุ่งข้ามคานไปนิดเดียว หรือนาทีที่ 77 จังหวะที่ อเล็กซ์ เตลเลส เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ ราฟาเอล วาราน ขึ้นโหม่งเน้นๆแต่ แยน โอบลัค ปัดออกไปได้เรามาดู 4 ประเด็น น่าสนใจที่เกิดขึ้นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กัน1. สไตล์บอลของตราหมี ที่ยังคงใช้ได้ผลกับปีศาจแดงคำว่าบอลเคี่ยวที่ยังคงคุ้นหูแฟนๆดี ถ้าพูดถึง แอตฯ มาดริด แผน 3-5-2 ที่พร้อมใจกันลงไปแพ็คหน้ากรอบเขตโทษได้ทุกเมื่อ และยิ่งทีมเยือนได้สกอร์ขึ้นนำ ก็จะเห็นได้เลยว่ากองกลางทั้ง 5 คน พร้อมใจกันเล่นเกมรับกันอย่างมีระเบียบ แถมกองกลางอย่าง โรดริโก เด ปอล และโกเก ที่มีอาวุธเด็ดอย่างการวางบอลแม่น ยิงจากแถวสองได้ดี ที่สร้างความลำบากให้ แมนยูไนเต็ด ตลอดเวลาพวกเขาได้จังหวะเล่นเกมสวนกลับ2. ลูกตุกติกหรือแทคติกอีกหนึ่งประเด็นที่แฟนแมนยูไนเต็ดเองยังคงตั้งคำถาม กับจังหวะที่ควรได้ฟาวล์กลับไม่ได้ แต่จังหวะที่เกมควรเดินต่อกลับหยุด หลายจังหวะที่ค่อนข้างค้านสายตาแฟนบอล แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจกรรมการให้เกมเดินต่อ แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆมันคือ สมาธิของนักเตะ ที่เห็นได้ชัดว่าทางฝั่งเจ้าบ้านมีการเสียสมาธิในครึ่งหลัง ลูกตอด ลูกแถม ที่กลายเป็นสิ่งรบกวนใจนักเตะแมนยูไนเต็ดอย่างชัดเจน ยิ่งนักเตะอย่าง บรูโน เฟอร์นันเดส ที่ดูเสียสมาธิไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ภาพรวมของเจ้าตัวคือหนึ่งคนที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์เกมรุกมาก3. การเลือกจัดทีมของ ราล์ฟ รังนิกสตาร์ทไลน์อัพ 11 ตัวจริงมา โดยให้ พอล ป็อกบา เป็นตัวสำรอง กลายเป็นคำถามต่อแฟนบอลว่าน้ารังนิกคิดอะไรอยู่กันแน่ เพราะฟอร์มนัดที่ผ่านมากองกลางชาวฝรั่งเศสคนนี้เล่นได้ดีเลยทีเดียว ถึงแม้ ราล์ฟ รังนิก เองจะให้สัมภาษณ์ก่อนเกมว่าต้องพยายามเน้นเกมรับไว้ก่อน เลยเป็นเหตุผลในการตัดสินใจใช้กลางสองคนอย่าง เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่กลายเป็นว่าตัวของ แม็คโทมิเนย์ เองทำหน้าตรงนั้นได้ไม่ดีเท่าไร การพยายามดึงไว้กับตัวนานเกิน หรือการจ่ายบอลช้า ในส่วนของการเปลี่ยนตัวสำรองลงมานั้นก็ไม่ได้ทำให้เกมรุกแมนยูไนเต็ดเองหวือหวาขึ้นเท่าไรนัก ทั้งตัวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เสียบอลง่ายเกินไป ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ ส่วน พอล ป็อกบา ก็ช่วยสร้างสรรค์เกมรุกได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ดูอิมแพ็คต่อทีมมากนัก4. คริสเตียโน โรนัลโด ปืนฝืดผลงานจากการกดแฮตทริกมาในนัดที่เจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่ได้ทำให้ดาวยิงโปรตุเกสดูอันตรายเลยในเกมนี้ จากสถิติโอกาสยิง 0 ครั้งตลอดทั้งเกม และการยืนตำแหน่งของเจ้าตัวที่มักจะถ่างออกไปด้านข้าง มากกว่าที่จะยืนปักหลักแดนหน้าอย่างเดียว จุดนี้มันเลยทำให้โอกาสในการเปลี่ยนประตูของแมนยูไนเต็ดมีน้อย ถึงจะครองบอลมากกว่า 60% แต่ก็ไม่สามารถจบสกอร์ทีมเยือนได้ แต่สุดท้ายก็ต้องชื่นชอบแทคติกของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่ตามประกบตัวตลอดเวลา บวกกับการพยายามบีบผู้เล่นของแมนยูไนเต็ดให้ต้องยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษแบบไม่ได้ลุ้นบ่อยครั้ง https://youtu.be/5go2ffg5MGA รูปภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก : Twitter : Manchester United | ภาพประกอบที่ 1 : Twitter : Atlético de Madrid | ภาพประกอบที่ 2 : Twitter : Atlético de Madrid | ภาพประกอบที่ 3 : Twitter : Atlético de Madrid | ภาพประกอบที่ 4 : Twitter : Manchester United | ภาพประกอบที่ 5 : Twitter : Manchester United | วิดีโอประกอบ : beIN SPORTS Thailandอัปเดตบทความฟุตบอลสนุก ๆ อีกมากมายไปกับเรา โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !