ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ ได้คู่ชิงเป็นที่เรียบร้อย เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก ถือเป็นคู่ชิงที่ไม่พลิกโผและเป็นไปตามความคาดหมาย เจ้าภาพทีมไทย ถล่มเอาชนะ ฟิจิ 3-0 ด้านคู่ปรับทีมชาติอิรัก เฉือนเอาชนะ ฮ่องกง 2-1 รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลคิงส์ คัพ 2566 จะดวลแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 20.00 น. ณ สนาม กีฬากลาง จังหวัดกาญจนบุรี (สนามกลีบบัว) ถ่ายทอดสดผ่านทาง True Ball Thai 1 ความพร้อมก่อนเกมทีมชาติไทย ทีมชาติไทย พึ่งถล่มเอาชนะ ฟิจิ 3-0 แม้จะเป็นสกอร์ที่ขาดลอยบวกกับเก็บคลีนชีตได้ แต่ยังถือว่าไม่น่าพอใจ และมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะแนวรุกที่ยิงทิ้งยิงขว้างเกินไปหน่อย โดยเกมที่แล้วทั้งเกมทีมไทยมีโอกาสสับไกถึง 21 ครั้ง และเป็นโอกาสจะแจ้งเกินสิบครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่สามประตูเท่านั้น หากแนวรุกมีความเฉียบคมมากกว่านี้ไทยควรชนะครึ่งโหลเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ น่าจะรู้ดีถึงปัญหาของทีมและรีบเร่งแก้ไขจุดอ่อนของทีมให้ได้ก่อนเกมนัดชิงที่จะพบกับทีมชาติอิรักในวันอาทิตย์นี้ คาดว่าผู้เล่นซีเนียร์ของทีม ไม่ว่าจะเป็น ปฏิวัติ คำไหม, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ และ นิโคลัส มิคเคลสัน น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ไทย (4-3-3) : ปฏิวัติ คำไหม (ผู้รักษาประตู) นิโคลัส มิคเคลสัน, สุพรรณ ทองสงค์, ณัฐพงษ์ สายริยา, สันติภาพ จันทร์หง่อม, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, เบนจามิน เจมส์ เดวิส, ชนาธิป สรงกระสินธ์, เอกนิษฐ์ ปัญญา, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด ความพร้อมก่อนเกมทีมชาติอิรัก ทีมชาติอิรัก อดีตแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 เมื่อปี 2023 เฉือนเอาชนะฮ่องกง 2-1 ในเกมที่แล้ว แม้จะได้รับชัยชนะตามเป้าแต่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันกว่าจะเอาชนะได้ ทั้งที่เปอร์เซนต์การครองบอลมากกว่า โอกาสยิงมากกว่าถึง 24 ครั้ง แต่ก็เป็นการยิงนกตกปลาและใช้โอกาสเปลือง ปัญหาของอิรักชุดนี้คล้ายๆกับทีมชาติไทยคือใช้โอกาสเปลืองและจังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอ เป็นการบ้านให้ เกรแฮม อาร์โนลด์ กุนซือชาวออสเตรเลีย ต้องพยายามแก้ไขให้ได้หากหวังบุกมาคว้าแชมป์สมัยที่ 2 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม อิรัก (4-3-3) : จาลาล ฮัสซัน (ผู้รักษาประตู) เรบิน ซูลากา, มานาฟ ยูนิส, ฟรานส์ ปูโตรส, เชอร์โก คารีม, อามีร์ อัล-อัมมารี, อิบราฮิม บาเยช, เมอร์ชัส โดสกี้, มอนตาเดอร์ มาดเจด, ไอมาน ฮุสเซน, มาร์โก ฟาร์จี้ สถิติการพบกัน - ผลงาน 5 นัดหลังสุด 10/09/2023 : ไทย 2-2 อิรัก, จุดโทษ 4-5 (คิงส์ คัพ) 31/08/2017 : ไทย 1-2 อิรัก (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก) 11/10/2016 : อิรัก 4-0 ไทย (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก) 24/03/2016 : อิรัก 2-2 ไทย (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก) 08/09/2015 : ไทย 2-2 อิรัก (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก) ทีมชาติไทย 04/09/2025 : ชนะ ฟิจิ 3-0 (เหย้า) คิงส์คัพ 2025 10/06/2025 : แพ้ เติร์กเมนิสถาน 1-3 (เยือน) เอเชียน คัพ 04/06/2025 : ชนะ อินเดีย 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร 25/03/2025 : ชนะ ศรีลังกา 1-0 (เหย้า) เอเชียน คัพ 21/03/2025 : ชนะ อัฟกานิสถาน 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร ทีมชาติอิรัก 04/09/2025 : ชนะ ฮ่องกง 2-1 (สนามกลาง) คิงส์คัพ 2025 11/06/2025 : ชนะ จอร์แดน 1-0 (เยือน) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 06/06/2025 : แพ้ เกาหลีใต้ 2-0 (เหย้า) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 26/03/2025 : แพ้ ปาเลสไตน์ 2-1 (เยือน) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 21/03/2025 : เสมอ คูเวต 2-2 (เหย้า) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย บทวิเคราะห์ แมตช์นี้ไม่ง่ายสำหรับเจ้าภาพทีมชาติไทย เนื่องจากสถิติการพบกับทีมชาติอิรัก 5 เกมหลังสุดทีมไทยไม่สามารถเอาชนะได้เลย แม้กุนซือ มาซาดะ อิชิอิ จะยืนยันว่าไม่สนสถิติที่ผ่านมาและจะพยายามเต็มที่เพื่อเอาชนะให้ได้ อย่างไรก็แล้วแต่ด้วยคุณภาพผู้เล่น มาตรฐานของทีม ความสามารถเฉพาะตัว รวมไปถึงขุมกำลังหลักของทีม อิรักดูดีกว่าแบบไม่ต้องสงสัย น่าสนใจว่าพลพรรค "ช้างศึก" จะมีทีเด็ดอะไรมาล้มอิรักได้ในนัดชิงชนะเลิศ คิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ในวันอาทิตย์นี้ ช่อง True Ball Thai 1 เครดิตรูปภาพ Facebook/ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย รูปปก1 รูป1 รูป3 รูป4 Facebook/Iraq National Team รูปปก2 รูป2 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !