ทีมชาติไทย ไปไม่ถึงฝั่งฝันเข้าชิงคิงส์คัพ 2022 หลังจากที่โดนเสือเหลือง มาเลเซีย ย้ำแค้นอีกครั้งแม้ว่าจะมาทำประตูตีเสมอ 1 - 1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง แต่มาพลาดท่าพ่ายจุดโทษ ทำให้ต้องไปชิงอันดับที่สามกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก โดยตลอดทั้งเกมก็ต้องยอมรับว่าเสือเหลืองมาดีมาก ๆ ตั้งแต่ครึ่งแรก แม้ว่าทีมชาติไทยจะมาแก้เกม และทำเกมบุกที่เหนือกว่าได้ในครึ่งหลังจนมาได้ลูกตีเสมอ แต่หากมองภาพรวมช้างศึกในเกมนี้ถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ว่าแล้วก็จะพาไปส่อง 5 เหตุผลที่ทำให้ช้างศึกพ่ายในเกมนี้กันสักหน่อย1. จังหวะแก้เพลสซิ่ง - ไม่ตัดบอลทิ้งขว้าง นี่เป็นหนึ่งจุดเด่นของเสือเหลืองชุดนี้ที่ เอาตัวรอดได้ดีอย่างมาก ความนิ่ง จังหวะเอาตัวรอดพื้นที่แคบ ๆ ทำได้ดีในหลายจังหวะ ซึ่งผิดกับทีมชาติไทยที่เอาตัวไม่ค่อยรอด แถมยังโดยอัดในแดนหลังเพื่อตัดปัญหาเรื่องของการโจมตีเร็ว ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีอย่างมากกับมากการเล่นแบบนี้ของเสือเหลือง รวมไปถึงจังหวะเคลียร์บอลจากหน้าประตูที่ไม่ใช่แค่เตะบอลทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แต่จะเน้นเรื่องแตะบอลขึ้นหน้าในแดนกลาง เพื่อให้แดนกลางมากประสบการณ์อย่าง เบรนดัน กาน ที่เป็นกองกลางตัวตัดเกมคอยเก็บบอลในจังหวะที่เคลียร์บอลออกมา แล้วสามารถเล่นในจังหวะโต้กลับได้รวดเร็วและน่ากลัวในหลายจังหวะ2. การตัดบอลที่เด็ดขาด แม้ว่าจะเสี่ยงที่จะโดนในเหลืองแต่การจัดเกมตั้งแต่ก่อนที่จะเลยครึ่งสนาม ทำให้จังหวะที่จะสวนกลับของทีมชาติไทยทำอะไรไม่ถนัดอย่างที่ควรจะเป็น หากมองในเรื่องของแทคติกแบบนี้มันก็เสี่ยงที่จะโดนเหลืองสอง แต่นั่นก็เป็นการฟาวล์ที่มาเลเซียพร้อมจะเสี่ยง เพราะหากสังเกตตลอดทั้งเกมจะเข้าหนักแค่ครั้งเดียว แต่พอเจอใบเหลือเตือนมาก็จะมีอีกคนที่ยังไม่โดนเข้าไปทำลายจังหวะ หากไม่คิดอะไรอาจจะบอกว่า มันก็เป็นการตัดบอลปกติ แต่หากมองลึกไปกว่านั้นนี่เป็นการเข้าใจกันของนักเตะที่ถูกฝึกสอนมาอย่างดีในเรื่องการตัดเกมแบบนี้3. แดนกลางที่สู้ไม่ได้ - ออกบอลช้าหนึ่งจังหวะเสมอ แม้ว่าครึ่งหลังทีมชาติไทยเองจะเก็บกินได้หมดก็จริง แต่ครึ่งแรกกลับเป็นทางฝั่งเสือที่เข้าถึงและเก็บบอลตัดบอลได้ทุกจังหวะ ทำให้เมื่อเก็บบอลไม่ได้ สิ่งที่ตามมาคือการโจมตีและยังเหลือผู้เล่นแนวรุกที่จะคอยโจมตีในแดนหลังของทีมชาติไทยอย่างน้อย 3 – 4 คนเสมอ เพราะแนวรุกทั้งริมเส้นและหน้าเป้ายังคงรอจังหวะแบบนี้ ซึ่งเชื่อว่าผู้จัดการทีมก็น่าจะวางแผนนี้มาเล่นงานทีมชาติไทยแน่นอน4. ออกบอลช้าหนึ่งจังหวะเสมอ อีกหนึ่งสิ่งที่ทีมชาติไทยผิดพลาดบอลครั้งก็คือเรื่องของจังหวะการออกบอลที่ขาด ๆ เกิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งจังหวะเกมรุกริมเส้น หรือจังหวะสวนกลับเร็วก็ตาม มักจะออกบอลหรือการเข้าถึงบอลที่ช้าไปหนึ่งจังหวะเสมอ นั่นทำให้เกมจากแดนหลังไปแดนหน้าต่อกันไม่ค่อยติด แตกต่างจากเสือเหลือที่ริมเส้นสามรายมักจะต่อกันติดและหาบอลเจอเสมอ ทำให้จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นหรือเก็บบอลเพื่อดึงจังหวะทำได้อย่างอย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรก5. ความเฉียบคมที่ต่างกัน สิ่งนี้น่าจะเป็นจุดที่แตกต่างที่ชัดที่สุดระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติมาเลเซีย ซึ่งประเด็นนี้จะไม่พูถึงเรื่องของการดวลจุดโทษ แต่เป็นสองจังหวะเน้น ๆ ที่ไม่สามารถทำได้ของทีมชาติไทยจากลูกหลุดเดียว ซึ่งเมื่อเทียบจังหวะอันตรายของทั้งสองทีม ทีมชาติไทย มี 5 ครั้ง ทำได้ 1 ประตู มาเลเซียมีเพียงแค่ 2 ครั้ง จากครึ่งแรก 1 ครั้ง และจังหวะโหม่งติดเซฟ 1 ครั้ง ในครึ่งหลัง นี่คือความแตกต่างของทีมชาติไทยที่จะต้องปรับปรุงและพัฒนาในจุดนี้ต่อไปในรายการหน้าทีมชาติไทย ยังมีอีกหนึ่งเกมที่จะต้องไปเจอกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ที่พ่ายให้กับ ทาจิกิสถาน 1 - 2 ซึ่งทั้งสองทีมจะมีคิวฟาดแข้งกับ วันอาทิตย์ ที่ 25 ก.ย. 65 เวลา เวลา 17.30 น. ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ คิงส์คัพ 2022 ระหว่างทีมชาติมาเลเซีย กับ ทาจิกิสถาน จะเตะในวันเดียวกันเวลา 20.30 น. ข่าวที่เกี่ยวข้องทีมชาติไทย vs ทีมชาติมาเลเซีย คิงส์คัพ 2022 ช้างศึกฟูลทีม เสือเหลืองสายเลือดใหม่พร้อมชนเจาะบทเรียนทีมชาติไทยหลังเกมพ่าย อุซเบกิสถาน ได้เห็นอะไรบ้างจากการแพ้?ผลกระทบ "ทีมชาติไทย" หลังพ่าย อุซเบกิสถาน กับการจัดคะแนนของฟีฟ่าเหตุผลที่ทำไม ไทย แพ้ เวียดนาม ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ?ส่องเหตุผลที่ ทีมชาติไทย จะไม่แพ้ เวียดนาม ในศึก Asian Cup 2022เครดิตภาพปก twitter.com/FAM_Malaysia :: ภาพปกเครดิตภาพประกอบ twitter.com/FAM_Malaysia :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 - 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !