รีเซต
ลุ้นระทึก!! การท่าเรือ หรือ ห้องเย็นท่าข้าม ใครจะคว้าแชมป์ฟุตซอลไทยลีก

ลุ้นระทึก!! การท่าเรือ หรือ ห้องเย็นท่าข้าม ใครจะคว้าแชมป์ฟุตซอลไทยลีก

ลุ้นระทึก!! การท่าเรือ หรือ ห้องเย็นท่าข้าม ใครจะคว้าแชมป์ฟุตซอลไทยลีก
TNN ช่อง16
29 ตุลาคม 2568 ( 10:30 )
34

หลังสิ้นเสียงนกหวีดจบการแข่งขันที่สนามชัย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา(25 ต.ค. 68) ทีมฟุตซอลห้องเย็นท่าข้าม เปิดบ้านเอาชนะ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ไปแบบสุดระทึก 3-2 ชนิดที่ผลัดกันนำผลัดกันตาม

นี่คือเกมที่จะชี้ชะตาแชมป์ประจำฤดูกาลนี้ เพราะย้อนกลับไปก่อนที่ทั้งสองทีมจะลงสนามเจอกัน การท่าเรือ เอเอสเอ็ม นำเป็นจ่าฝูงด้วยช่องว่าที่มีเหนือ ห้องเย็นท่าข้าม แชมป์เก่าถึง 7 คะแนน กับช่วงโปรแกรมที่เหลืออีก 5 นัดสุดท้าย 

นั่นหมายความว่าถ้าเกมนี้ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม สามารถบุกมาเก็บชัยชนะกลับออกไปได้ จากนี้ต่อไปขอแค่ชัยชนะได้อีกเพียงแค่เกมเดียว ในช่วงโปรแกรมที่เหลืออีก 4 นัดสุดท้าย ก็จะการันตีการทวงคืนตำแหน่งแชมป์ฟุตซอลไทยลีกทันที 

แต่กลายเป็นว่าแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อนอย่าง ห้องเย็นท่าข้าม ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ยอมง่ายๆ และต้องการอยู่ในเส้นทางสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตซอลลีก 3 สมัยติดต่อกัน หลังจากที่กวาดเรียบมาใน 2 ฤดูกาลหลัง (2023,2024) 

และด้วยความสำคัญของเกมนัดนี้ ทำให้บรรยากาศที่สนามชัยเต็มไปด้วยแฟนฟุตซอลที่เข้าไปชมกันอย่างล้นหลาม ท่ามกลางการแข่งขันที่ตึงเครียดและเต็มไปด้วยแรงกดดันของทั้งสองฝั่ง 

จากที่ธรรมชาติทั้งสองทีมจะเป็นฝ่ายครองเกมเดินหน้าบุกเข้าใส่ ก็กลายเป็นเกมที่ต้องช่วงชิงจังหวะ เพราะด้วยคุณภาพของทั้งสองฝั่งทันกันทุกเหลี่ยมมุม ใครพลาดแม้เพียงนิดเดียวก็มีโอกาสถูกลงโทษทันที 

เชื่อว่าแฟนๆที่ได้ติดตามการถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ นาว คงได้ลิ้มรสชาติของการแข่งขันในระดับสูงสุดของฤดูกาล และคุ้มค่าสมราคากับการเจอกันของสองทีมที่แย่งชิงบัลลังก์แชมป์มาโดยตลอดในช่วงหลายปีหลัง

ชัยชนะของ ห้องเย็นท่าข้าม ทำให้การตัดสินแชมป์ต้องยืดเยื้อออกไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขายังคงต้องแบกรับกับสถานการณ์ที่ยากมากกว่าการท่าเรือฯ ในช่วงทางตรงสุดท้ายของซีซั่น

ด้วยช่องว่างที่ตามหลัง 4 คะแนน นอกจากตัวเองจะจำเป็นจะต้องเก็บชัยชนะเพื่อไล่กดดันจ่าฝูงแล้ว ยังต้องตามแช่งผลการแข่งขันของ การท่าเรือฯ ในแต่ละสัปดาห์ต่อไป 

แต่ในอีกมุมหนึ่ง ชัยชนะของพวกเขาในเกมนี้ก็ถือเป็นการโยนความกดดันกลับไปให้ การท่าเรือฯ ได้บ้างพอสมควร เพราะจากช่องว่าง 7 คะแนน นำอยู่สบายๆ กลายเป็นความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งแรกของฤดูกาล ดันมาเกิดในเกมที่เจอกับคู่แข่งลุ้นแชมป์โดยตรง

จากนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าด้วยประสบการณ์ของการท่าเรือฯที่เขี้ยวลากดิน และช่ำชองกับการคั่วตำแหน่งแชมป์มาแทบจะทุกๆซีซั่น จะสามารถเอาตัวรอดในช่วง 4 เกมสุดท้ายไปได้หรือไม่

โปรแกรมฟุตซอล 4 นัดสุดท้ายของ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม

เมื่อลองมาส่องโปรแกรมที่เหลือ 4 นัดสุดท้ายของทั้งสองทีม เริ่มจากการท่าเรือ เอเอสเอ็ม นัดต่อไปพวกเขาจะกลับไปเล่นในบ้านรับการมาเยือน บลูเวฟ ชลบุรี(อันดับ5) ต่อด้วยการออกไปเยือน ราชภัฏเพชรบุรี(อันดับ6) จากนั้นจะได้เล่นในบ้าน 2 นัดสุดท้าย กับการรับมือ แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด(อันดับ3) และ ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน(อันดับ4)

เมื่อกางโปรแกรม 4 นัดของพวกเเขาออกมาก็บอกได้คำเดียวว่าหนักหนาเอาการ เพราะคู่แข่งที่จะเจอต่างอยู่ในกลุ่มครึ่งบนของตารางทั้งสิ้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะนี่คือ 4 ทีมที่ถัดลงมาจาก 2 ทีมลุ้นแชมป์ นับเป็นบททดสอบสำคัญของการท่าเรือฯ ในซีซั่นนี้ว่าจะมีดีพอทวงบังลังก์แชมป์กลับคืนไปได้หรือไม่

ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชดม" อุดม ทวีสุข ที่รู้ทุกซอกทุกมุมเกี่ยวกับสโมสรฟุตซอลการท่าเรือฯ เพราะนี่คือกุนซือคู่บุญที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 2006 เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาผ่านร้อนผ่านหนาวกับทีมมาเกือบ 20 ปีเต็ม เสกแชมป์ลีกมาแล้ว 4 สมัย (2007, 2018, 2019 และ 2022) ด้วยช่องว่าง 4 คะแนน กับโปรแกรมที่เหลือ 4 นัดสุดท้าย เชื่อว่าหัวจิตหัวใจของเขานิ่งพออย่างแน่นอน

แต่ประเด็นสำคัญคืออาการบาดเจ็บของ นาธาน ดาวยิงต่างชาติตัวเก่ง ที่ตามรายงานบอกว่าเขามีอาการบาดเจ็บตอนวอร์มร่างกายก่อนเกมที่บุกพ่าย ห้องเย็นท่าข้ามฯ การขาดหายไปของเขามันชัดเจนว่ามิติในเกมรุกของทีมถูกลดประสิทธิภาพลงไปด้วย 

เพราะนี่คือดาวเด่นของสโมสรนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล เป็นคนที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมในช่วงเวลาคับขัน ยิ่งเจอสถานการณ์เกมตื้อๆตันๆ เขาจะกลายเป็นคนที่ขึ้นมาแบกความหวังทีมได้ แถมยังช่วยยกระดับการเล่นของเพื่อนรอบข้างตามไปด้วย ในมุมของแฟนๆท่าเรือฯ ต่างก็ได้แต่หวังว่าเขาจะกลับมาช่วยทีมได้ทันในช่วงสำคัญของซีซั่นกับโปรแกรมมที่เหลือ 4 นัดสุดท้าย

จะว่าไปแล้วนี่คือสถานการณ์ที่คล้ายๆกับเมื่อปี 2019 เป็นช่วงเวลาที่ขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับ บลูเวฟ ชลบุรี โดยในตอนนั้น การท่าเรือฯ มีแต้มนำ ชลบุรีฯ 7 คะแนน ก่อนที่ทั้งสองทีมจะโคจรมาเจอกันในช่วงไม่กี่เกมสุดท้าย แล้วเป็นฝั่ง ชลบุรีฯ ที่เอาชนะไปได้ ทำให้ลดช่องว่างลงมาเหลือ 4 แต้ม แต่บทสรุปสุดท้าย การท่าเรือฯ ก็ยังดีพอรักษาระยะห่างและเข้าป้ายด้วยการคว้าแชมป์ไปในที่สุด 

โปรแกรมฟุตซอล 4 นัดสุดท้ายของ ห้องเย็นท่าข้าม

ส่วนโปรแกรมของ ห้องเย็นท่าข้าม นัดหน้าจะออกไปเยือน วายเอฟเอ ศรีราชา(อันดับ13) ตามด้วยการกลับมาเล่นในบ้านเจอกับ ราชนาวี(อันดับ11) และต่อด้วยการบุกถิ่น นนทบุรี ฟุตซอลคลับ(อันดับ12) ก่อนที่โปรแกรมนัดสุดท้ายจะกลับมาปิดซีซั่นในบ้านรับมือ สุราษฎร์ธานี(อันดับ10)

เมื่อดูจากโปรแกรม 4 นัดสุดท้ายของแชมป์เก่า ก็บอกได้เลยว่าความหนักเบานั้นคนละเรื่องกันเลย เพราะพวกเขาเหลือเจอแต่กับทีมในโซนท้ายตาราง ถ้าวัดกันด้วยคุณภาพตัวผู้เล่น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีโอกาสที่จะเดินหน้าเก็บชัยชนะ 4 นัดรวด

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการเจอกับทีมกลุ่มหนีตายในช่วงเวลาที่พลาดไม่ได้อีกแล้ว มันมีความแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะแต่ละทีมในโซนท้ายตารางต่างก็ต้องเน้นสุดๆเพื่อความอยู่รอด ความยากของ ห้องเย็นท่าข้าม จึงไม่ได้อยู่ที่คุณภาพ แต่อยู่ที่การเจอกับคู่แข่งที่กำลังหลังพิงฝา พร้อมกัดไม่ปล่อย และจะเล่นด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่นเป็นทวีคูณด้วยแพสชันที่ต้องการโค่นแชมป์เก่าให้ได้

ภายใต้การคุมทัพของ ติอาโก้ นูเนส รัปป์ กุนซือมากฝีมือชาวบราซิล ที่สร้างความสำเร็จด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ฟุตซอลไทยลีกมา 2 สมัยติดต่อกัน แถมในซีซั่น 2023 ยังเป็นการประเดิมแชมป์ครั้งแรกในฐานะทีมไร้พ่ายอีกด้วย เรื่องกึ๋นและวิธีการทำทีมไม่ต้องพูดถึง เพราะนี่คือเจ้าของรางวัลโค้ชบราซิลยอดเยี่ยมประจำทวีปเอเชียในปี 2023 จาก  MULDO DE FUTSAL ของบราซิล ซึ่งเป็นรางวัลที่จะมีการประกาศขึ้นทุกปี สำหรับชาวบราซิลที่ทำผลงานยอดเยี่ยมในฐานะนักกีฬาและผู้ฝึกสอน 

เรื่องคุณภาพฝีเท้าของทีมยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะสโมสรแห่งนี้เต็มไปด้วยนักฟุตซอลระดับแถวหน้าของเมืองไทย แถมประสบการณ์การได้แชมป์ลีกมา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน มันยิ่งทำให้พวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจ 

ยิ่งเมื่อลองมองย้อนไปตอนที่ตามหลังทีมอย่างการท่าเรือฯ 7 แต้ม โอกาสจะพลิกสถานการณ์กลับไปแซงคว้าแชมป์มันมีน้อยนิด แต่กลายเป็นว่าตอนนี้สามารถลดช่องว่างลงมาเหลือ 4 คะแนนกับโปรแกรมที่เหลือ พวกเขาจะเล่นทุกเกมที่เหลือในแบบไม่มีอะไรจะเสีย

นับเป็นการแย่งชิงบังลังก์แชมป์ที่สมศักดิ์ศรีอีกหนึ่งฤดูกาลของสองทีมที่ดีที่สุดของวงการฟุตซอลไทย ณ ชั่วโมงนี้ แถมผลงานที่เจอกันต่างฝ่ายต่างก็เก็บชัยชนะได้แบบบ้านใครบ้านมัน (เลกแรก การท่าเรือฯ ชนะ 4-1, เลก2 ห้องเย็นท่าข้าม ชนะ 3-2)

ความมันทั้งหมดทั้งมวลที่ได้คุยกันมาจนถึงตอนนี้ ผลกำไรที่เหลือจะตกมาอยู่กับแฟนฟุตซอลเต็มๆ เพราะแต่ละสัปดาห์ต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก วัดกันเกมต่อเกม หากใครพลาดท่าขึ้นมาก็ยิ่งกลายเป็นการที่ต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล 

4 นัดสุดท้ายของศึกฟุตซอลไทยลีกฤดูกาลนี้จึงเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การรับชมอย่างยิ่ง แม้ต่อให้ใครที่อาจจะไม่ได้ติดตามความมันของฟุตซอลลีกบ้านเรามาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ถือว่ายังไม่สาย เพราะนี่คือจุดไคลแม็กซ์ของเรื่องราวทั้งหมดที่จะถูกตัดสินว่าจะจบลงอย่างไร

โดยแฟนๆชาวไทยที่อยากจะติดตามความมันก็สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ในทุกนัดทุกสัปดาห์ของการแข่งขันผ่านทางแอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!