9 อาการที่บอกว่าคุณเป็นคนคิดลบ มีอะไรบ้าง ไม่อยากคิดลบแก้ไขได้อย่างไร
WeenayA
15 มกราคม 2567 ( 14:14 )
294
ความคิดลบเป็นสภาวะที่เชื่อว่าหลายคนไม่อยากให้เกิดแต่บางครั้งนั้นก็เกินจะควบคุม ด้วยปัจจัยของความเครียดในด้านต่างๆ ประสบการณ์ในอดีต หรือแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมของชีวิตที่พบเจอจนสะสมหรือกระทบจิตใจเป็นเวลานาน จึงส่งผลให้เกิดความคิดลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะดีกว่าไหมถ้าเราเท่าทันความรู้สึกคิดลบของตัวเองและรู้ถึงวิธีแก้ความคิดลบเหล่านี้
9 อาการที่บอกว่าคุณเป็นคนคิดลบ มีอะไรบ้าง
ไม่อยากคิดลบแก้ไขได้อย่างไร
9 อาการที่บอกว่าคุณเป็นคนคิดลบ
- มักคิดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะเลวร้ายเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความคิดว่าไปทำงานวันนี้ต้องรถติด งานที่ส่งวันนี้ต้องไม่ดีแน่ๆ หรือแม้กระทั่งคิดไปก่อนว่าวันนี้จะเจอเรื่องไม่ดี
- มองหาข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการมองหาข้อผิดพลาดของตัวเอง ความผิดพลาดของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือนิสัยใจคอด้านอื่นๆ
- มองข้ามความสำเร็จ การมองข้ามความสำเร็จทั้งของตัวเอง และผู้อื่น เช่นการมองว่าความสำเร็จนั้นๆ เป็นเรื่องธรรมดา หรือได้มาเพราะโชคช่วยหรือเส้นสาย
- มองคนอื่นในแง่ลบ คิดว่าคนอื่นจะคิดไม่ดีกับคุณ ไม่ชอบคุณ อิจฉาคุณ หรือคิดแม้กระทั่งว่าคนอื่นจะทำร้ายคุณ
- ไม่กล้าเสี่ยง ปฏิเสธความท้าทายใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ถึงแม้ว่าจะเป็นโอกาสที่ดีก็ตาม เพียงเพราะคิดว่าจะล้มเหลว หรือไม่สำเร็จตามคาด
- มักจะโทษตัวเอง เมื่อเกิดข้อผิดพลาดต่างๆ ขึ้นมาถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็มักจะมุ่งโทษตัวเองว่าไม่ดีพอไม่เก่งพอ
- รู้สึกหมดกำลังใจง่าย ไม่ว่าจะลงมือทำสิ่งใดแล้วสิ่งนั้นยาก หรือเจอปัญหาระหว่างทางมักเกิดความรู้สึกห่อเหี่ยวยอมแพ้กลางทางเพราะคิดว่าทำแล้วไม่สำเร็จ
- มักรู้สึกเศร้าอยู่บ่อยๆ มีความรู้สึกหม่นหมอง วิตกกังวลบ่อยๆ ตลอดวันจนเกิดภาวะซึมเศร้า
- มักมีปัญหาในการนอนหลับ นอนหลับยากมีความคิดผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลา มีภาวะนอนไม่หลับบ่อยครั้งหรือแม้กระทั่งตื่นกลางดึก
วิธีแก้ความรู้สึกคิดลบ
- ฝึกคิดบวก อาจดูเป็นเรื่องนามธรรมแต่วิธีการฝึกคิดบวกนั้นทำง่ายกว่าที่คิด ลองเริ่มเขียนบันทึกขอบคุณตัวเองแบบสั้นๆ ในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น “วันนี้เราเดินได้ครบจำนวนก้าวที่ต้องการ” “วันนี้เราช่วยเปิดประตูให้คนอื่น” “วันนี้เราทำงานที่ตั้งเป้าไว้ได้สำเร็จ” “วันนี้เราให้คำปรึกษากับเพื่อน” หรือแม้กระทั่งเขียนเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้แบบสั้นๆ เช่น “วันนี้ได้กินอาหารที่ชอบมาก” “เพื่อนที่ทำงานเล่าเรื่องตลกให้ฟัง” “ได้ฟังเพลงใหม่ๆ ที่ชอบมาก”
- ฝึกการยอมรับ การฝึกการยอมรับอาจเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยากแต่ถ้าฝึกได้ย่อมคุ้มค่ากับตัวคุณ ให้คุณคิดว่าไม่ว่าสิ่งไหนเกิดขึ้นแล้วให้วางใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือเรื่องไม่ดี ความทุกข์ หรือความสุข พึงคิดไว้เสมอว่าหลายสิ่งล้วนเกิดอยู่ชั่วคราว เมื่อเท่าทันความคิดคุณจะสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
- ฝึกการปล่อยวาง ฝึกสติ การปล่อยวาง และการฝึกสติหมายถึงการปล่อยวางความรู้สึกทุกข์ กังวล หรือมีความเครียด เมื่อมีความรู้สึกเหล่านี้ใด้รู้เท่าทันอารมณ์ด้วยการดึงสติให้อยู่กับปัจจุบันไม่จมอยู่กับอดีตไม่กังวลล่วงหน้ากับอนาคตที่ยังไม่เกิด อาจใช้การโฟกัสอยู่กับลมหายใจในขณะนั้นจะช่วยดึงสติได้
- การฝึกให้อภัย การให้อภัยนั้นมีทั้งการให้อภัยกับผู้อื่น และให้อภัยตัวเอง การให้อภัยกับคนอื่นนั้นมีทั้งการปล่อยวางความโกรธ ปล่อยวางความเกลียดชังลดความคาดหวังที่มีในผู้อื่น พึงคิดไว้เสมอว่าไม่มีไม่มีอะไรได้โลกนี้เป็นไปได้ดั่งใจทุกอย่าง หากให้อภัยผู้อื่นได้ความขุ่นมัวในจิตใจของคุณนั้นจะเบาบางลง
การให้อภัยตัวเองมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเป้าหมายสูงความคาดหวังในตัวเองจึงมากเป็นเงาตามตัว ให้ลองวางใจของคุณเข้าใจในความไม่สมบูรณ์แบบที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาให้โอกาสกับตัวคุณที่จะแก้ไขหรือก้าวไปข้างหน้าได้อีกครั้งหรือหลายๆ ครั้ง - การฝึกความเมตตากรุณา ความเมตตากรุณาจะช่วยให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อเรามีความเห็นอกเห็นใจในผู้อื่นความเมตตาในจิตใจจะส่งพลังบวกให้คุณมีความสุขได้ง่ายและมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือฝึกความเมตตากรุณาให้กับตัวคุณเองการปลอบใจตัวเองเมื่อมีเรื่องเสียใจหรือผิดหวัง เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งในจิตใจคุณได้
- หากิจกรรมผ่อนคลาย เลือกกิจกรรมที่คุณชอบหรือสนใจไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย อ่านหนังสือหรือทำสมาธิ ควรหาเวลาให้กับกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อยวันละ 15-30 นาที
- ลดการเสพสื่อที่มีความรุนแรง การดูข่าวสาร หรือหนังที่มีความรุนแรง มีความขัดแย้ง ในช่วงที่สภาพจิตใจมีความเครียด จะยิ่งทำให้สภาพจิตใจหม่นหมองลงไปอีก หากอยู่ในช่วงที่มีภาวะเครียดควรหาหนัง หรือ podcast ที่ให้ความบันเทิงแบบเบาสมองดูในช่วงนี้
- ปรึกษานักจิตวิทยา หรือนักบำบัด หากคุณลองทำทุกอย่างแล้วไม่ดีขึ้นการปรึกษานักจิตวิทยา หรือนักบำบัด เป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณหาทางออกได้ดีขึ้น
ลูกค้า True ใช้ทรูพอยท์ 0 คะแนน รับบริการนวดกดจุดรักษาออฟฟิศซินโดรม
ในราคา 990.- (จากปกติราคาปกติ 1,200.-) วันนี้ถึง 31 ธ.ค.2567
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เดินลดความอ้วน เดินลดไขมัน ผู้ชาย ต้องเดินวันละกี่นาที ลดน้ำหนักได้จริง
- ลดความอ้วน ไม่ควรกินอะไร อาหารที่ไม่ควรกินตอนลดน้ำหนัก ของอร่อยที่ทำให้ผู้ชายอ้วน
- อาหารลดพุงมื้อเย็น แบบไทยๆ สำหรับผู้ชาย โปรตีนสูง ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก อร่อยไม่อ้วน
- กินอะไรลดพุงได้ อาหารลดพุงเร่งด่วน ลดพุงทำไง ผู้ชาย อ้วนลงพุงต้องกิน
- 9 สาเหตุของผู้ชายที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ เพราะอะไร มีวิธีแก้อย่างไร
-------------------------------------------------
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!