TRUE TALK : 11 ผู้เล่นอายุไม่เกิน 23 ปี ตกขบวนอดไป เอเชียนเกมส์ ... by "จอน"
รัตนัย ส่องแสงจันทร์ เป็นนักเตะอายุไม่เกิน 23 ปี รายล่าสุดที่ต้องถอนตัวจากทีมชาติไทย ชุด เอเชียนเกมส์ 2018 ภายใต้การคุมทีมของ วรวุธ ศรีมะฆะ ซึ่งเพิ่งเรียกตัว 29 รายชื่อเข้ามาฝึกซ้อม ก่อนตัดตัวเหลือ 20 คน หลังเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด และจะเดินทางไป อินโดนีเซีย โดยลงสนามนัดแรก กลุ่ม บี กับ กาตาร์ ในวันที่ 14 สิงหาคม ณ สนามปากันสารี
สำหรับ ทีมชาติไทย ชุดนี้ เป็นนักเตะอายุไม่เกิน 23 ปี ล้วนๆ ไม่มีการเรียกโควต้าอายุเกินแม้แต่คนเดียว ซึ่งเป็นครั้งแรกของทีมชาติไทย นับตั้งแต่ที่ฟุตบอลเอเชียนเกมส์ มีการกำหนดอายุไม่เกิน 23 ปี และมีโควตาอายุเกินได้ 3 คน เมื่อปี 2002 ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2002 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
แม้ในรายชื่อจะมีแม่เหล็กของรุ่นมากมาย ซึ่งบางคนเคยผ่านการลงเล่น และฝึกซ้อมกับทีมชาติไทยชุดใหญ่มาแล้ว รวมถึงผ่านการเป็นแชมป์ซีเกมส์มาแล้วด้วย ทั้ง นนท์ ม่วงงาม (โปลิศ เทโร เอฟซี), ชินภัทร ลีเอาะ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด), สุริยา สิงห์มุ้ย (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด), เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี), ศฤงคาร พรมสุภะ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), ชัยวัฒน์ บุราญ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด), พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด), รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), ธนาสิทธิ์ ศิริผลา (สุพรรณบุรี เอฟซี), นพพล พลคำ (โปลิศ เทโร เอฟซี), วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี), เจนรบ สำเภาดี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) และ ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ทว่าในจำนวนนี้ ยังมีนักเตะอายุไม่เกิน 23 ปี ที่พลาดโอกาสติดทีมชาติไทย ชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งนี้ ซึ่งสามารถจัดทีมได้เลย และผมก็ขอลองจัดกันในระบบ 3-5-2 ให้ดูกันครับ…
ผู้รักษาประตู
รัตนัย ส่องแสงจันทร์ (การท่าเรือ เอฟซี)
ผู้รักษาประตู วัย 23 ปี ที่ยังคงมีทางเดินชีวิตเป็นเส้นขนานกับทีมชาติไทย เมื่อมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ข้างซ้าย ต้องพักประมาณ 4-6 สัปดาห์ จากเกม การท่าเรือ เอฟซี เสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-2 ทำให้อดรับใช้ชาติชุดเอเชียนเกมส์ ไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งนี้ รัตนัย นับเป็นนายทวารที่โชคร้ายอย่างแท้จริง เพราะเขาต้องถอนตัวออกจากทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี มาแล้วถึงสองครั้ง ในรายการอย่างเป็นทางการ จากอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ และ หมองรองกระดูก ทำให้ต้องถอนตัวจาก ซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย และ ศึกฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่ประเทศจีน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
เซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน
ศรายุทธ สมพิมพ์ (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี)
มาร์โก้ บัลลินี่ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
นิรันดร์ มีมาก (โปลิศ เทโร เอฟซี)
เซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน เริ่มตั้งแต่ “ตาหวาน” ศรายุทธ สมพิมพ์ ที่โชว์ของทันทีหลังถูกปล่อยยืมจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปโชว์ฟอร์มที่ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ทีมบ๊วยของไทยลีก ในเลกที่สอง ซึ่งไม่แพ้ใครทุกรายการถึง 5 เกมด้วยกัน แถมยังยึดกัปตันทีมได้ด้วย ทั้งที่อายุเพียงแค่ 21 ปี เท่านั้น ทว่าด้วยความที่รายชื่อของเอเชียนเกมส์นั้น ต้องส่ง 30 รายชื่อแรกก่อนตัดตัว ภายในวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเปิดไทยลีกเลกสองมาได้แค่ไม่กี่เกมเท่านั้น
“มาร์โก้ บัลลินี่” อีกหนึ่งเซนเตอร์ที่พลาดโอกาสในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ด้วยความสูงกว่า 2 เมตร สำหรับโควตานักเตะไทย ทำให้เขาสร้างความแตกต่างได้ทันทีที่สโมสร ชัยนาท ฮอร์นบิล ซึ่งมีผลงานดีอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง จนทะยานออกจากกลุ่มทีมหนีตกชั้นได้สำเร็จ
กองหลังชาวไทยแท้ๆ ที่ไปโตยังประเทศสวีเดน จากการเลี้ยงดูของคุณพ่อ และคุณแม่บุญธรรมชาวสวีดิช ซึ่งสุดท้ายฟุตบอลก็ทำให้เขาได้กลับมาอยู่บ้านเกิด โดยปีนี้ นิรันดร์ ในวัย 22 ปี เป็นตัวหลักของ โปลิศ เทโร เอฟซี ซึ่งได้ลงสนามไปทั้งหมด 21 เกมจาก 26 นัดแรก และนับเป็นนักเตะโควตาไทยอายุน้อยอีกคนที่น่าจับตามอง
วิงแบ็กขวา
สันติภาพ จันทร์หง่อม (โปลิศ เทโร เอฟซี)
แบ็กขวาจากโปลิศ เทโร เอฟซี มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ก่อนทะยานขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง และทำให้ติดทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในรายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน ทว่าอาจจะด้วยฟอร์มของต้นสังกัดที่กำลังหนีตกชั้น ทำให้เขาต้องหลุดออกจากทีมชาติไทยชุดนี้ไป แม้จะเป็นตัวหลักให้กับ “มังกรโล่เงิน” ในซีซั่นนี้ก็ตามที ด้วยสถิติลงสนาม 21 เกมจาก 26 นัดแรก
วิงแบ็กซ้าย
ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
สุดยอดนักเตะ “สุดในรุ่น” จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เล่นเกมรุกได้ทั้งสองฝั่ง แถมผ่านการลงเล่นทีมชาติไทย ชุดใหญ่มาแล้ว อย่าง “เจ้าพี” ศศลักษณ์ ไหประโคน ต้องโชคร้ายเหลือเกินหลังมีอาการบาดเจ็บบริเวณเข่า จากเกมโตโยต้า ลีก คัพ 2018 เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา และนั่นทำให้สีสันของทีมชุดนี้ ต้องขาดหายไปอย่างแน่นอน
มิดฟิลด์ 3 คน
สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี)
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
พิชา อุทรา (พัทยา ยูไนเต็ด)
“แจ๊บ” สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ กองกลางตัวรับ วัย 20 ปี จาก “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ได้รับคำชมอย่างมากในซีซั่นนี้ หลังยึดตัวจริงในสโมสรได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ติดทีมชุดเอเชี่ยนเกมส์ ที่มีเพื่อนร่วมทีมอย่าง วรชิต กนิษศรีบำเพ็ญ ติดทีมอยู่
อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ดาวรุ่งที่กำลังโชว์ผลงานอย่างยอดเยี่ยมให้กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ในช่วงเลกสอง ที่ยืมตัวมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยทั้งยิง ทั้งจ่าย ทั้งมีส่วนร่วมกับประตู จนพา “กระต่ายแก้ว” หนีโซนสีแดงได้สำเร็จ ทว่าก็น่าเสียดายเหลือเกิน ที่เขาโชว์ฟอร์่มได้ดีช้าเกินไป จนทำให้ไม่มีรายชื่อ ตั้งแต่ 30 คนแรกที่ส่งให้ฝ่ายจัดการแข่งขันเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา
กองกลางรายสุดท้าย คือ พิชา อุทรา แนวรุกสารพัดประโยชน์ วัย 22 ปี ของ พัทยา ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นตัวหลักของ “โค้ชโย่ง” เลยด้วยซ้ำในศึกซีเกมส์ 2017 ที่ทีมชาติไทย ได้เหรียญทอง แต่ทว่า ในเอเชียนเกมส์ 2018 ครั้งนี้ กลับไม่มีชื่อของเขา เนื่องจากถูกแนวรุกรายอื่นๆ เบียดตำแหน่งไปได้
กองหน้า 2 คน
เสฏฐวุฒิ วงศ์สาย (ชลบุรี เอฟซี)
ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
“บาส น้ำหวาน” เสฏฐวุฒิ วงศ์สาย กองหน้าจอมขยัน เจ้าของฉายา “เจมี่ วาร์ดี้ เมืองไทย” เป็นอีกหนึ่งตัวรุกที่โชคร้าย พบกับอาการบาดเจ็บจนทำให้พลาดการแข่งขันฟุตบอล เอเชี่ยนเกมส์ 2018 ไป หลังจากประสบปัญหา เอ็นไขว้หน้าเข่าขวาขาด และหมอนรองฉีก ส่งผลให้เจ้าตัวต้องพลาดการลงสนามแน่นอนเป็นเวลาอย่างน้อยถึง 6 เดือน
จริงๆ พยายามลิสต์ชื่อกองหน้า หรือกองกลางตัวรุกอีกสักราย เข้ามาอยู่ในทีมนี้ ซึ่งมองไปที่ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ และสิทธิโชค กันหนู ด้วย แต่ด้วยความที่สองคนนั้น แทบไม่ได้โอกาสลงสนามเลย จึงขอให้พื้นที่นี้เป็นของ “ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา” ตัวรุกสารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นกองหน้าได้อีกราย ที่อยู่ในชุดแชมป์ซีเกมส์ แต่หลุดจากทีมชุดเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เนื่องจากมีโอกาสลงสนามให้กับ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ลดน้อยลงจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยปีนี้ เขาได้ลงสนามในลีกไปเพียง 13 นัด เป็นตัวจริงแค่ 4 เกม และยิงได้แค่ 1 ลูกเท่านั้น แม้เขาจะเพิ่งเป็นผู้ทำประตูพาทีมต้นสังกัดเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ได้ช่วงท้ายเกมในศึก ช้าง เอฟเอคัพ 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็ตามที
“จอน”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports