ถ้าพูดถึงกีฬาที่วัดกันด้วยความเร็วคงหนีไม่พ้นกีฬาประเภทมอเตอร์สปอร์ต หรือที่เรารู้จักกันในชื่อการแข่งรถนั่นเองเสียงเครื่องยนต์ ความเร็ว และการแซงกันด้วยเทคนิค คือเสน่ห์ของกีฬาประเภทนี้ จริงๆแล้วกีฬาประเภทมอเตอร์สปอร์ตนั้นมีการแข่งขันอยู่หลายรูปแบบเลยทีเดียว การแข่งวิ่งในสนามและวิ่งบนทางวิบาก รวมไปถึงประเภทของรถในการแข่งก็มีมากมายหลายหลาก ด้วยความอัศจรรย์ของเครื่องยนต์ที่ทำให้เกิดความเร็วอันน่าทึ่งมันทำให้มีคนมากมายใฝ่ฝันอยากเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ แต่การจะเป็นนักแข่งรถมืออาชีพได้นั้น ต้องผ่านการฝึกฝนมากมายกว่าที่คุณคิดและในวันนี้เราจะมาบอกถึงพื้นฐานในการฝึกฝนแบบนักแข่งรถมืออาชีพที่คุณอาจไม่เคยรู้ เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย DanaTentis จาก Pixabay 1.ฝึกสภาพร่างกายและตรวจสุขภาพฟันอยู่เสมอ การจะเป็นนักแข่งที่ดีได้นั้นร่างกายต้องมีความแข็งแรง หลายคนอาจจะมองว่าการแข่งรถนั้นใช้เครื่องยนต์ในการวิ่งแล้วคนขับมีความจำเป็นอะไรต้องมีร่างกายที่แข็งแรง แต่แท้จริงแล้วนั้นร่างกายคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักแข่งรถ เพราะนักแข่งที่ไม่มีพละกำลังจะไม่สามารถบังคับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการแข่งมอเตอร์ไซค์ น้ำหนักตัว และพละกำลังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการบังคับรถของคุณ สุขภาพของร่างกายยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการแข่งรถเพราะการแข่งรถที่มีความกดดันและต้องใช้การตัดสินใจที่รวดเร็วนั้น ถ้าเกิดมีความผิดปกติต่อร่างกายอาจจะทำให้การตัดสินใจผิดพลาดซึ่งกีฬาแข่งรถเป็นกีฬาที่ใช้ความเร็ว ดังนั้นความผิดพลาดในสนามอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ นักแข่งทุกคนจึงควรตรวจสุขภาพร่างกายอยู่เสมอโดยเฉพาะฟัน เพราะฟันนั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบประสาทมันจึงเป็นสิ่งที่นักแข่งรถต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย 3333873 จาก Pixabay 2.ฝึกสมาธิ เพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น กีฬาที่มีความเร็วเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตใดจะวิ่งตามทันได้นั้น นักแข่งย่อมต้องมีประสาทที่เฉียบคมและไหวพริบปฏิภาณที่เหนือกว่าคนธรรมดา หากขาดสติหรือใจลอยไปเพียงแค่ไม่กี่วินาทีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นนักแข่งรถที่ดีจึงต้องฝึกสมาธิ เพื่อที่จะได้มีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา อีกทั้งการตัดสินใจที่พลาดแม้เพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียเวลา และทำให้พ่ายแพ้ได้ในที่สุด การฝึกสมาธิจึงเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักแข่งเพราะนอกจากจะทำให้เรามีสติแล้วมันยังทำให้เราสามารถตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นอีกด้วย เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย ShuaiGuo จาก Pixabay 3.เรียนฟิสิกส์ การจะเป็นนักแข่งรถที่ดีได้นั้นนอกจากจะมีทักษะในการขับขี่แล้วยังมีความจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับความรู้ด้านอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับการแข่งรถอีกด้วย กีฬาแข่งรถเป็นกีฬาที่ไม่ได้วัดกันที่ดวง แต่วัดกันที่เครื่องยนต์ ความรู้และความพร้อมของนักแข่ง นักแข่งที่ดีควรใช้ทุกอย่างให้เป็นประโยชน์เพื่อทำให้รถของตัวเองวิ่งเร็วขึ้นแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ยังดี ความรู้ที่มีเกี่ยวกับฟิสิกส์ เครื่องยนต์ และสนาม จึงเปรียบเสมือนตัวช่วยที่สำคัญสำหรับนักแข่งรถมืออาชีพ เพราะถ้านักแข่งรถขาดความรู้ต่อให้มีสติและมีสมาธิมากเท่าไหร่ก็ไม่อาจพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Pexels จาก Pixabay 4.การฝึกฝนนอกสนาม การแข่งรถเป็นกีฬาที่สิ้นเปลืองกว่ากีฬาประเภทอื่นๆ ดังนั้นการฝึกฝนโดยการลงสนามจริงนั้นจึงมีข้อจำกัดทางด้านเวลา แต่กีฬาแข่งรถกลับเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความชำนาญในการลงสนามจริงให้มากที่สุด ดังนั้นถึงแม้จะลงสนามไม่ได้นักแข่งรถที่ดีจึงต้องพยายาม หาวิธีการฝึกฝนนอกสนามมาทดแทน นักกีฬามืออาชีพมักจะใช้วิธีการ simulation หรือจินตนาการว่ากำลังขับรถในสนามบ้างก็ฝึกโดยการสร้างเครื่องจำลองเกมขับรถให้คล้ายกับของจริงมากที่สุดเพื่อทดลองขับในสนามเสมือนจริง และสิ่งที่ลืมไปเสียไม่ได้นั่นคือการฝึกเอาชีวิตรอด อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าการแข่งรถเป็นกีฬาที่เน้นความเร็วเป็นหลักการเกิดอุบัติเหตุเพียงหนึ่งครั้งอาจหมายถึงชีวิต ดังนั้นการเซฟตัวเองที่ดีที่สุดคือการฝึกฝนการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่อันตราย
