รีเซต
5 ประเด็นจับตาก่อนศึกเมอร์ซีย์ไซด์ "เอฟเวอร์ตัน บู๊ ลิเวอร์พูล" วันเสาร์นี้!!

5 ประเด็นจับตาก่อนศึกเมอร์ซีย์ไซด์ "เอฟเวอร์ตัน บู๊ ลิเวอร์พูล" วันเสาร์นี้!!

5 ประเด็นจับตาก่อนศึกเมอร์ซีย์ไซด์ "เอฟเวอร์ตัน บู๊ ลิเวอร์พูล" วันเสาร์นี้!!
KiTTiSaK
17 ตุลาคม 2563 ( 08:00 )
878
1

ไฮไลท์พรีเมียร์ลีกนัดที่ 5 อยู่ที่เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน เตรืยมเปิดบ้านดวลกับ ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. ชมถ่ายทอดสด ดูบอลสดได้ฟรีทาง ID Station 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเตรียมกลับมาลงสนามฟาดแข้งกันอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลักจากหลีกทางให้โปรแกรมทีมชาติไปราว 2 สัปดาห์ 

สำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 5 ของฤดูกาล มีแมตช์น่าสนใจหลายคู่เลยทีเดียว แต่ไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ที่กูดิสัน ปาร์ก “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านปะทะคู่อริร่วมเมือง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. เวลา 18:30 น. 

“จ่าฝูง” เอฟเวอร์ตัน จะเก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน หรือ “แชมป์เก่า” ลิเวอร์พูล ซึ่งนัดที่แล้วพ่าย แอสตัน วิลล่า เละเทะ 2-7 จะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้หรือไม่...ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!


ทอฟฟี่ลุ้นปลดแอก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตันตกอยู่ในสถานะ “ลูกไล่” มาโดยตลอด โดยทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินไม่สามารถเอาชนะแข้งหงส์ได้เลยในการเจอกัน 22 นัดหลังสุดในทุกรายการ ซึ่งในจำนวน 22 นัดดังกล่าว เป็นลิเวอร์พูลที่ชนะ 11 และเสมออีก 11 นัด 

สำหรับนัดสุดท้ายที่ทัพ “ทอฟฟี่เมน” คว้าชัยเหนือลิเวอร์พูลได้ต้องย้อนไปไกลเป็น “ทศวรรษ” เลยทีเดียว โดยครั้งนั้น เอฟเวอร์ตัน ในยุคของกุนซือ เดวิด มอยส์ เอาชนะ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทัพของรอย ฮอดจ์สัน ด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของ ทิม เคฮิลล์ กับ มิเกล อาร์เตต้า ในวันที่ 17 ตุลาคม 2010 

และเกมที่ทั้งคู่กำลังจะเจอกันนี้ ก็จะลงสนามในวันที่ 17 ตุลาคม เหมือนกันพอดีอีกด้วย แต่ระยะเวลาห่างกันถึง 10 ปี ซึ่งไม่แน่ว่า “10 ปีที่รอคอย” ของแฟนบอลทอฟฟี่อาจจะสิ้นสุดลงในวันเสาร์นี้ก็เป็นได้

หงส์คืนฟอร์ม หรือเป๋ต่อเนื่อง

ความพ่ายแพ้แบบหมดสภาพต่อแอสตัน วิลล่า 2-7 ในนัดที่แล้ว ถือเป็นสกอร์เหลือเชื่อเกินคาด ซึ่งไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นกับ “แชมป์เก่า” ลิเวอร์พูล ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างไร้เทียมทานในฤดูกาลที่แล้ว

สิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกจับตาในตอนนี้คือ กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ จะปลุกเร้าลูกทีมให้งัดฟอร์มเก่งกลับมาได้หรือไม่ ยิ่งเกมนี้ต้องเจอกับคู่อริร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งกำลังฮึกเหิมและหวังชำระแค้นเต็มที่ ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่า หากทีมหงส์แดงพลาดท่าปราชัยอีกในเกมนี้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักเตะในทีมมากน้อยแค่ไหน 

บทพิสูจน์เอฟเวอร์ตัน

เลสเตอร์ ซิตี้ เคยเป็น “ม้ามืด” ให้โลกตะลึง ด้วยการผงาดแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2015-2016 และด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเอฟเวอร์ตัน ทำให้เริ่มมีการพูดกันว่า ขุนพลทอฟฟี่เมนอาจจะสวมบทม้ามืดแบบที่เลสเตอร์เคยทำให้ดูมาแล้ว

อย่างไรก็ดี แฟนบอลหลายคนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในศักยภาพของพวกเขาสักเท่าไร เพราะถึงแม้จะทำสถิติชนะ 100% ในช่วงออกสตาร์ท แต่ต้องยอมรับลูกทีมของกุนซือคาร์โล อันเชลอตติ ยังไม่เจองานหนักเท่าใดนัก โดย 4 นัดที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตันเจอกัน สเปอร์ส, เวสต์บรอมวิช, คริสตัล พาเลซ และ ไบรท์ตัน ซึ่งดูแล้วมีเพียง สเปอร์ส ที่พอจะเป็นงานหนักแค่นัดเดียว

ดังนั้นการเจอกับ “ของจริง” อย่างลิเวอร์พูล จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า เอฟเวอร์ตัน มีดีพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ได้หรือไม่

 

จับตา คัลเวิร์ต-เลวิน(ดอฟสกี้)

อย่างที่ทราบกันดีว่า เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นซีซั่นด้วยผลงานชนะ 4 นัดรวด พร้อมกับผู้เล่นหลายคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่คงไม่มีใครโดดเด่นเกินหน้าเกินตา โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ที่ระเบิดฟอร์มร้อนแรงเหลือเชื่อจนแฟนบอลแซวว่าเป็น “คัลเวิร์ต-เลวินดอฟสกี้” ประหนึ่งว่าเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สุดยอดดาวยิงของบาเยิร์น มิวนิค ยังไงยังงั้น

คัลเวิร์ต-เลวิน กระทุ้งตาข่ายคู่แข่งไปแล้ว 9 ประตูจากการลงสนาม 6 นัดในทุกรายการ แถมล่าสุดมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และยิงประตูในนามทีมชาติได้ทันที เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจเรียกได้ว่า ดาวยิงวัย 23 ปีของเอฟเวอร์ตัน เป็นกองหน้าที่ฟอร์มระเบิดเถิดเทิงที่สุดในอังกฤษ ณ เวลานี้ และจะเป็นอาวุธสำคัญที่สร้างความหนักใจให้กับแผงหลังลิเวอร์พูลได้อย่างแน่นอน


อาเดรียน จะเหวออีกมั้ย?

นอกจากฟอร์มนัดล่าสุดที่น่าเป็นห่วงแล้ว ทีมหงส์แดงยังมีปัญหาตัวผู้เล่นให้กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ต้องหนักใจ โดยเฉพาะข่าวการติดโควิด-19 ของแข้งหลักอย่าง ติอาโก้ อัลกันตาร่า หรือ ซาดิโอ มาเน่ แม้ล่าสุดทั้งคู่จะหายดีและกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่ก็ยังต้องลุ้นว่าจะฟิตพร้อมลงช่วยทีมได้หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม จุดที่น่ากังวลใจมากที่สุดของลิเวอร์พูลในยามนี้คือ “ผู้รักษาประตู” ซึ่ง อลีสซง เบ็คเกอร์ จอมหนึบมือหนึ่ง เจ็บไหล่ต้องพักยาวนับเดือน ดังนั้นจึงต้องใช้บริการโกลสำรองอย่าง อาเดรียน จะได้ลงเฝ้าเสาต่อไป ซึ่งต้องยอมรับว่านายด่านชาวสเปนรายนี้สามารถสร้างความระทึกใจให้เดอะค็อปได้ตลอดเวลา ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปย้อนดูนัดที่แล้ว ซึ่ง อาเดรียน โชว์เหวอจนทำให้ทีมเสียประตู ก่อนจะโดนวิลล่ากะซวกตาข่ายไป 7 เม็ดเบ็ดเสร็จกลับแอนฟิลด์

หากเกมนี้ อาเดรียน ยังสร้างหายนะให้กับทีมอืก เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คงต้องมองหาผู้รักษาประตูสำรองคนใหม่อย่างจริงจังในช่วงเปิดตลาดนักเตะรอบสอง ช่วงปีใหม่นี้ ส่วน อาเดรียน ก็น่าจะเตรียมมองหาต้นสังกัดใหม่ได้เลย

"111"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> สมราคา! 'หงส์แดง' แชมป์มูลค่านักเตะแพงสุดในโลก เหนือ ซิตี้,บาร์ซ่า - ผีมาที่ 8

>> อยู่ก็ไม่ได้เล่น!! ลิเวอร์พูล จ่อปล่อย 5 แข้ง ก่อนปิดตลาดในประเทศ

 

ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่

ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station >> คลิกที่นี่

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

ยอดนิยมในตอนนี้

ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
ดาวน์โหลด ทรูไอดีแอป
สัมผัสโลกไร้ขีดจำกัดกับทรูไอดี