เมื่อพูดถึงความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอล ชื่อของศึก "ซูเปร์กลาซิโก้" (Superclásico) ระหว่าง ริเวอร์เพลท (River Plate) และ โบคา จูเนียร์ส คือภาพแรกที่ปรากฏขึ้นมา มันคือสงคราม, คือศาสนา, คือทุกสิ่งทุกอย่างของชาวอาร์เจนตินา และในใจกลางของอภิมหาศึกนั้น มีสโมสรแห่งหนึ่งที่ยืนหยัดด้วยเกียรติภูมิ, ปรัชญา และความสง่างามที่เป็นเอกลักษณ์ พวกเขาสวมเสื้อสีขาวพร้อมแถบคาดสีแดงอันโดดเด่น...พวกเขาคือ "ริเวอร์เพลท" นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวของสโมสรฟุตบอล แต่คือการวิเคราะห์จิตวิญญาณของ "Los Millonarios" (เหล่าเศรษฐี) สโมสรที่นิยามคำว่า "ความยิ่งใหญ่" ในแบบของตัวเอง "Los Millonarios" - ปรัชญาฟุตบอลคือศิลปะ ตัวตนของริเวอร์เพลทถูกสรุปไว้ในฉายา "Los Millonarios" ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ความร่ำรวยทางการเงินในอดีต แต่สะท้อนถึงปรัชญาการทำทีมที่เน้น "ฟุตบอลที่สวยงาม" มาโดยตลอด ในขณะที่คู่ปรับตลอดกาลอย่างโบคาฯ มักจะถูกเชื่อมโยงกับ "Garra" หรือจิตวิญญาณนักสู้แบบกัดไม่ปล่อย ริเวอร์เพลทกลับให้คุณค่ากับเทคนิค, การต่อบอลที่ไหลลื่น และความคิดสร้างสรรค์ สนามเหย้าอันศักดิ์สิทธิ์อย่าง เอสตาดิโอ โมนูเมนทัล จึงเปรียบเสมือนโรงละครที่จัดแสดงศิลปะลูกหนัง แฟนบอลของพวกเขาไม่ได้คาดหวังแค่ชัยชนะ แต่คาดหวังชัยชนะที่มาพร้อมกับสไตล์การเล่นที่น่าจดจำ นี่คือความหยิ่งทะนงในตัวตนที่ทำให้ริเวอร์เพลทแตกต่าง จากวิบากกรรมสู่ยุคทอง: บทพิสูจน์แห่งความแกร่ง เรื่องราวสมัยใหม่ของริเวอร์เพลทจะสมบูรณ์ไปไม่ได้ หากไม่กล่าวถึงจุดตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร นั่นคือ การตกชั้นในปี 2011 มันคือฝันร้าย คือความอัปยศที่แฟนบอลนับล้านต้องหลั่งน้ำตา แต่วิบากกรรมครั้งนั้นกลับกลายเป็นเชื้อเพลิงที่หล่อหลอมให้สโมสรกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม การกลับคืนสู่ลีกสูงสุดอย่างรวดเร็วได้ปูทางไปสู่ยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร นั่นคือ ยุคของ มาร์เซโล "เอล มูเญโก้" กายาร์โด (Marcelo Gallardo) ภายใต้การคุมทีมของกายาร์โด (2014-2022) ริเวอร์เพลทได้ผสมผสานปรัชญาดั้งเดิมเข้ากับแท็กติกที่เข้มข้นและความกระหายในชัยชนะ พวกเขากลายเป็นทีมที่อันตรายที่สุดในเกมแพ้คัดออก และคว้าแชมป์โกปา ลิเบร์ตาดอเรส (Copa Libertadores) ได้ถึง 2 สมัย กายาร์โดไม่ได้แค่พาทีมคว้าแชมป์ แต่เขาสร้าง "คาแรกเตอร์" ของผู้ชนะให้กับทีมได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาดริด 2018: คืนแห่งเกียรติยศชั่วนิรันดร์ หากจะมีชัยชนะนัดไหนที่นิยามความยิ่งใหญ่ของริเวอร์เพลทในศตวรรษที่ 21 คงหนีไม่พ้น ศึกโกปา ลิเบร์ตาดอเรส รอบชิงชนะเลิศ ปี 2018 ที่พวกเขาต้องทำสงครามกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง โบคา จูเนียร์ส มันคือ "นัดชิงแห่งศตวรรษ" ที่เต็มไปด้วยดราม่าและสงครามประสาท จนต้องย้ายไปตัดสินกันไกลถึงสนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว กรุงมาดริด ประเทศสเปน และในคืนวันนั้น ริเวอร์เพลทเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาได้อย่างยิ่งใหญ่ การเอาชนะคู่ปรับที่เกลียดชังที่สุดในเวทีที่ใหญ่ที่สุดของทวีป มันไม่ใช่แค่การคว้าแชมป์ แต่มันคือ "เกียรติยศชั่วนิรันดร์" ที่แฟนบอลโบคาฯ ไม่มีวันลืม และแฟนบอลริเวอร์เพลทจะเล่าขานไปจนชั่วลูกชั่วหลาน บทสรุป: น้ำหนักของแถบคาดสีแดง ณ ปัจจุบัน แม้ยุคของกายาร์โดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่มาตรฐานที่เขาสร้างไว้ยังคงอยู่ ภารกิจของริเวอร์เพลทคือการสานต่อความสำเร็จและรักษาปรัชญาของสโมสรไว้ให้คงอยู่ ริเวอร์เพลท คือสโมสรที่แบกรับความคาดหวังอันหนักอึ้งไว้บนแถบคาดสีแดง (La Banda Roja) เสมอ พวกเขาคือส่วนผสมของความสง่างาม, ความหยิ่งทะนง, ความเจ็บปวดจากการตกชั้น และความภาคภูมิใจในชัยชนะเหนือคู่ปรับตลอดกาล ผู้จัดการทีมและนักเตะอาจเปลี่ยนไป แต่จิตวิญญาณของ "Los Millonarios" และความยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งนี้จะคงอยู่ตลอดไป รูปหน้าปก : รูปที่1 รูปภาพที่1/2/3/4 : จากเฟสบุ๊ค Club Atlético River Plate ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !