เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามวอลเลย์บอลมานั้น ต้องรู้จัก บุ๋มบิ๋ม ชัชชุอร โมกศรี อย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเธอคนนี้มีฝีมือที่เก่งกาจ ที่ทุกคนให้การยอมรับ อีกทั้งยังมีความรับผิดชอบ ความอดทนในการฝึกซ้อม จึงทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้ แต่เส้นทางในการก้าวมาสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติของเธอนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เรามาดูกันว่ากว่าจะมาเป็น ชัชชุอร โมกศรี นั้น ต้องเจอกับอะไรบ้าง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้กันก่อน ชัชชุอร โมกศรี หรือ บุ๋มบิ๋ม เกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2542 ปัจจุบันอายุ 20 ปี ภูมิลำเนาของเธอเป็นคน จ.บุรีรัมย์ อ.พุทธไธสง เส้นทางในการก้าวเข้าสู่วงการวอลเลย์บอลของเธอ เริ่มจากการที่บุ๋มบิ๋มได้เข้ารับการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดไชนาวาส ด้วยความสามารถของเธอ และรูปร่างที่สูง ทำให้เธอได้เป็นตัวหลักของทีมโรงเรียน และลงแข่งขันในแมทต่างๆอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเมื่อเธออายุได้ 14 ปี ชำนาญ ดอกไม้ อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมสโมสรวอลเลย์บอล อยุธยา เอ.ที.ซี.ซี. ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในตัวเธอ จึงทำให้เธอได้กลายมาเป็นตัวผู้เล่นหลักของทีม และเธอยังพาทีมคว้าแชมป์ในรายการ วอลเลย์บอลไทยเดนมารค์ ซุปเปอร์ลีก 2015 ด้วยวัยเพียง 14 ปี ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558 เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน23ปี ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเธอตอนนั้น ก็มีรุ่นพี่อย่าง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ บีหลังทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน และ เพียว อัจฉราพร คงยศ ที่เล่นตำแหน่งเดียวกันกับเธอ ซึ่งในตอนนั้นเธอพาทีมได้เหรียญเงินไปครองได้สำเร็จ โดยแพ้ให้กับจีนไปด้วยสกอร์ 3-1 เซ็ต ไปอย่างน่าเสียดาย และในฤดูกาล 2018-2019 ที่ผ่านมา เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลโมสรญี่ปุ่น ซึ่งเธอได้เล่นให้กับทีม pfu บลูแคท ซึ่งก็มีอดีตผู้เล่นหัวเสาทีมชาติญี่ปุ่น อย่าง เอบาตะ ร่วมทีมด้วย และในแต่ละแมทเธอก็เป็นตัวความหวังของเพื่อนร่วมทีม ถึงแม้ว่าในฤดูกาลปกติทีม pfu ไม่สามารถเอาชนะทีมอื่นได้เลย แต่ก็ทำให้บุ๋มบิ๋ม ได้รับประสบการณ์มากมายกลับมา และในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2019 ในแมทที่ทีมชาติไทย เจอกับทีมชาติจีน ในรอบรองชนะเลิศ บุ๋มบิ๋มได้ทำแต้มให้กับทีมได้มากถึง 29 คะแนน เรียกได้ว่าเธอคือกำลังสำคัญที่ทำให้เอาชนะจีนได้สำเร็จ ในปัจจุบันเธอได้เล่นให้กับทีมสโมสรนครราชสีมา วีซี ซึ่งในฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา เธอนั้นเป็นเดอะแบกของทีมเลยก็ว่าได้ เพราะในแต่ละแมทเธอทำคะแนนได้ไม่ต่ำกว่า 30 คะแนน ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลผู้เล่นที่ทำแต้มได้สูงสุดและผู้เล่นหัวเสายอดเยี่ยม และเราหวังว่าเธอจะสามารถพัฒนาฝีมือได้อีกเรื่อยๆ เป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย และเป็นตัวอย่างที่ดีของน้องๆ และภารกิจสำคัญของเธอนั้นก็คือ พาทีมชาติไทยไปโอลิมปิกให้ได้ ขอบคุณรูปภาพจาก รูปประกอบที่1/รูปประกอบที่2/รูปประกอบที่3/รูปประกอบที่4/รูปประกอบที่5/รูปประกอบที่6