ภาพจาก sport.trueid.net สารัช อยู่เย็น เข้ามาอยู่กับสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน เขาอยู่กับสโมสรแห่งนี้ ทั้งในช่วงเวลาแห่งความสำเร็จและช่วงเวลาแห่งความล้มเหลว "ผมภูมิใจทุกครั้งที่ได้ลงไปเล่น ไม่ว่าปีนั้นผลงานจะออกมาไม่ดีหรือปีนั้นเราจะได้แชมป์ " นี่คือ หนึ่งในประโยคที่สารัชเคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ Thai league world แสดงให้เห็นว่า เขารักและศรัทธาในสโมสรแห่งนี้เพียงใด ภาพจาก sport.trueid.net ในช่วงแรกที่เข้ามาอยู่กับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เขารู้สึกอยู่เสมอว่า การเป็นผู้เล่น 11 ตัวแรกที่ได้ลงสนามมันแสนจะห่างไกลความเป็นจริงยิ่งนัก เมื่อในฤดูกาล 2012 ทีมเต็มไปด้วยนักเตะแนวหน้าของเมืองไทย ในช่วงนั้น เขาถูกส่งให้สโมสรต่างจังหวัดยืมตัว ประสบการณ์ส่งผลให้เขามีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สโมสรต้นสังกัดอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เรียกเขากลับเข้ามาช่วยทีม ภาพจาก sport.trueid.net ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นส่งให้เขาติดทีมชาติชุดเอเชียนเกมส์ในเวลานั้น ซึ่งมี ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน และทีมชาติชุดเอเชียนเกมส์ ต่อยอดให้เขาเข้ามาสู่ทีมชาติชุดใหญ่ เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่สารัชยืนระยะการเป็นตัวหลักของเมืองทองและกับทีมชาติได้ และเป็นหนึ่งในผู้เล่นของเมืองทอง ที่พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2016 ได้สำเร็จ ฤดูกาลถัดมา ชื่อของสารัช อยู่เย็นแทบจะหายไปจากแวดวงฟุตบอลไทย เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บด้วยอาการข้อเท้าหัก จนต้องหยุดเล่นไปเป็นเวลากว่า 8 - 9 เดือน ในช่วงที่พักรักษาตัว เขาเกิดความกังวลและความเครียดเป็นอย่างมาก จนเวลาผ่านไป การกายภาพบำบัดได้เริ่มขึ้น ทุกอย่างต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เช่นกัน ฤดูกาล 2018 เป็นปีแห่งความยากลำบากของสารัช ด้วยความที่หายไปจากสนามเป็นเวลานาน กับทั้งเมืองทองและทีมชาติ เขาเองรู้สึกเหนื่อย เพราะในเวลานั้น ในทีมเมืองทองได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวหลักไปค่อนข้างเยอะ ทำให้การปรับจูนกันในทีมเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ภาพจาก sport.trueid.net ด้วยวัยเพียง 25 ปี เขาได้รับหน้าที่ให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม มีหลาย ๆ อย่างที่เขาต้องแบกมันไว้ ทั้งความคาดหวังของแฟนบอล เกียรติยศชื่อเสียงของทีมขนาดใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเขา แทบจะย้ายออกไปจากทีมแห่งนี้ คือ ในนัดที่ทีมเอสซีจี เมืองทอง แข่งขันกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทั้ง ๆ ที่เขาเองทุ่มเทอย่างเต็มที่ แม้ทีมจะแพ้ไปด้วยสกอร์ 3 - 1 ก็ตาม ในสถานการณ์ของทีมที่ย่ำแย่เป็นทุนเดิม หลังจบเกม ก็เหมือนทุกครั้งที่เขาต้องเดินไปขอบคุณแฟนบอลที่ข้างสนาม แต่ใขณะนั้น มีแฟนบอลปาธงเชียร์ลงมาใส่เขาที่ยืนอยู่ข้างสนาม เขากล่าวว่า วินาทีนั้นเขาอยากย้ายไปอยู่ทีมอื่นทันที ถึงขั้นที่ได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ของทีม แต่ด้วยความผูกพันธ์กับที่แห่งนี้มาเป็นเวลากว่า 7 - 8 ปี และด้วยความรู้สึกลึก ๆ แท้จริงแล้วเขาก็ไม่ได้อยากย้ายไปที่ไหนเลย ภาพจาก sport.trueid.net ฤดูกาล 2019 เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลแห่งความยากลำบากของเอสซีจี เมืองทอง ในครึ่งแรกของฤดูกาล ผลงานของทีมค่อนข้างน่าผิดหวัง จนถึงขั้นที่ตกมาอยู่ในท้ายตารางคะแนน แต่ครึ่งหลังของฤดูกาล 2019 การเข้ามาคุมทีมของ อเล็กซานเดร กาม่า ก็สามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้เล่นในทีมให้ดียิ่งขึ้น จนผลงานของเมืองทอง ขึ้นมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของตารางคะแนนและเคยอยู่ในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ ภาพจาก sport.trueid.net ผลงานของสารัชดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกลับเข้ามาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ในยุคของอากิระ นิชิโนะ แน่นอนว่าแฟนบอลจำนวนหนึ่งอาจจะมีข้อกังขาอยู่บ้าง แต่ความทุ่มเทและผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องในสนามคือคำตอบที่ดีที่สุด ภาพจาก sport.trueid.net ทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา ส่งผลให้สารัชเรียนรู้กับจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดของชีวิตการค้าแข้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่กับเขาตลอดเวลา คือ ความภูมิใจในการสวมเสื้อของสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ลงไปในสนามแข่งขัน ภาพปกจาก sport.trueid.net