ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24 สัปดาห์ที่ 24ลิเวอร์พูล VS เบิร์นลี่ย์วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 22.00 น.สนาม : แอนฟีลด์จำนวนผู้ชมในสนาม : 59,896ผู้ตัดสิน : Tim Robinsonผู้ตัดสินที่ 4 : Thomas BramallVAR : Stuart Attwellผู้ช่วย VAR : Marc Perry คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล VS เบิร์นลี่ย์https://sport.trueid.net/premier-league/clips/4xmBGV0bLaJE ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ 23 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบิร์นลี่ย์ ก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ลงแข่งก่อนสามารถเก็บ 3 คะแนนเต็มได้ แซงลิเวอร์พูลขึ้นจ่าฝูงไปก่อน ลิเวอร์พูลต้องการชนะเพื่อทวงจ่าฝูงคืน ส่วนทางด้านทีมเยือนที่จมอยู่รองบ๊วย ต้องการแต้มเพื่อโอกาสลุ้นอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกเกมนี้ลิเวอร์พูลได้รับข่าวร้ายเมื่อในแคมป์มีนักเตะคนสำคัญติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ไป 2 คน ทำให้ไม่มีชื่อในเกมนี้ นั่นคือ อลิสซอน และโจ โกเมส ทำให้ ลูกหมี ควิวีน เคลเลเฮอร์ ลงแทนตำแหน่งผู้รักษาประตู แบ็กซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กลับมาประจำการแทน จาเรลล์ ควอนซาห์ จับคู่กับ ฟาน ไดก์ แทนในตำแหน่งของ โกนาเต้ ที่โดนแบน แดนกลาง วาตารุ เอ็นโด กลับมาในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ดัน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ขึ้นไปเล่นตัวบนร่วมกับ โจนส์ ส่วนสามแนวรุกเป็น โจต้า, นูนเยส และ หลุยส์ ดิอาส ทางด้านผู้มาเยือนอย่าง เบิร์นลี่ย์ มาในระบบ 4-4-2 เช่นเดิม ผู้เล่นพร้อมเต็มสูบ เกมนี้จัด โฟฟาน่า กองหน้าตัวยืมจากเชลซีที่กำลังฟอร์มแรงลงตัวจริงด้วยเริ่มเกมมา เบิร์นลี่ย์ สูกับเจ้าบ้านได้อย่างสนุก มีโอกาสยิงจน เคลเลเฮอร์ ต้องเซฟถึง 2 ครั้งแต่แล้วในนาที่ 31 เจ้าบ้านออกนำไปก่อนจากลูกเตะมุม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดโด่งเข้ามากลางเขตโทษ เจมส์ แทรฟฟอร์ด ออกมาตัดบอลพลาดชนกับเพื่อนร่วมทีม ทำให้บอลเลยมาถึง ดิโอโก้ โชต้า กระโดดขึ้นโขกใส่ประตูโล่งๆ ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0หลังโดนนำ เบิร์นลี่ย์ โถมเข้าใส่เจ้าบ้านอย่างต่อเนื่อง เจ้าบ้านก็มีโอกาสอยู่บ้างจนนาทีที่ 45 เกือบจะทดเวลาอยู่แล้ว หงส์แดงมาเสียลูกเตะมุม และเป็น จอช บราวฮิลล์ เปิดบอลเข้ามา แถวๆบริเวณจุดโทษ ดาร่า โอเช เทกตัวขึ้นชนะเอนโด โหม่งเสียบมุมเข้าไปอย่างสุดสวย ทีมเยือนตีเสมอ 1-1 ได้ ก่อนจบครึ่งแรกช่วงพักครึ่ง เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ มีอาการเจ็บเข่าเล็กน้อยบริเวณเดิม เจอร์เก้น คล๊อป จึงตัดสินใจเปลี่ยนตัว ส่ง ฮาร์วี่ย์ เอเลียต ลงมาแทน และปรับ เคอร์ติด โจนส์ ไปเล่นแบ็คขวาการแก้เกมของ คล็อปป์ ได้ผลเมื่อเล่นไปเพียง 7 นาที นาทีที่ 52 ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ได้บอลริมกรอบเขตโทษด้านขวา เปิดบอลเข้ากลาง หลุยส์ ดิอาซ พุ่งเข้ามาโหม่งลูกที่สูงประมานเอวจ่อๆ ตุงตาข่าย ลิเวอร์พูลกลับมานำอีกครั้ง 2-1ประตูสุดท้ายใน นาที 79 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่ 3 เป็นประตูย้ำชัย จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เก็บบอลได้บริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา เปิดด้วยซ้ายเข้าไปให้ ดาร์วิน นูนเญซ ย้อนหลังนิดหน่อย แต่ น้องนุ่น โหม่งท่ายากเสียบมุมเข้าไป ลิเวอร์พูลหนีไปเป็น 3-1 ช่วงท้ายเกม ทีมหงส์แดงครองเกมรักษาสกอร์เอาไว้ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล สามารถเปิดเอาชนะเบิร์นลี่ย์ไปได้ ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 54 แต้มจากการลงสนาม 24 นัด กลับขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูง โดยมีแต้มนำ แมน ซิตี้ 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน เบิร์นลี่ย์ ยังคงอาการหนัก รั้งรองบ๊วยของตาราง ลงสนาม 24 นัด มีอยู่เพียง 13 แต้มเท่าเดิม วิเคราะห์เกม1. ประตู 4 ประตูในเกมนี้ได้มาจากลูกโหม่งทั้งหมด ถ้าดูประตูที่เกิดขึ้นจะเห็นรูปแบบการเข้าทำของทั้งสองทีมอย่างชัดเจน ทั้งลิเวอร์พูลและเบิร์นลี่ย์ มีลูกเซตพีชที่น่ากลัวทั้งลูกเตะมุม หรือเปิดฟรีคิกเข้าไป แต่จุดที่ต่างกันคือ ศักยภาพผู้เล่นในการเล่นโอเพ่นเพลย์ปกติ ในเกมนี้ลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่าแม้ว่าการเจาะตรงกลางจะทำได้ลำบาก แต่เมื่อเจาะทางริมเส้น ลิเวอร์พูลได้ดีมากจนได้มา 2 ประตู2. สามประสานแดนหน้าลิเวอร์พูล เกมนี้ยิงได้คนละ 1 ลูก สร้างความมั่นใจให้แนวรุกของทีมมากยิ่งขึ้นหลุยส์ ดิอาส ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลับมาใกล้เคียงฟอร์มที่ดีที่สุดของเค้าแล้ว ทั้งการเลี้ยงบอลเสียยาก หลอกล่อคู่แข่ง การสวนกลับเปลี่ยนจังหวะการเลี้ยงอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญเกมนี้ทำประตูได้ด้วยดิโอโก้ โชต้า โดยปกติแล้วการมีส่วนร่วมในเกมของเค้าจะค่อนข้างน้อย โผล่มาคือจังหวะยิงประตูเลย แต่ในเกมนี้เขามีส่วนร่วมกับเกมเยอะมาก ทั้งเลี้ยงฝ่า เก็บบอล ประสานงานกับเพื่อน และที่สำคัญลูกกลางอากาศ ที่เขามักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลา หาจังหวะเข้าถึงบอลได้เก่งมาก จนได้ 1 ประตูจากลูกโหม่งในวันนี้ดาร์วิน นูนเยส มีโอกาสน้อยกว่าเกมก่อนๆ แต่ป่วนแนวรับคู่แข่งได้ดี และได้ประตูจากการโหม่งที่ยากกว่า โอกาสที่เขาหลุดเดี่ยวแล้วยิงติดเซฟเสียอีก3. อาวุธลับที่สำคัญอีกอย่างของลิเวอร์พูลคือ เมื่อเกมตื้อๆ ตันๆ ไม่สามารถเอาบอลขึ้นไปได้ ก็จะมีลูกเปิดยาวจากแนวรับ โดยเฉพาะ ฟาน ไดก์ ซึ่งลูกแบบนี้เขาทำได้แม่นยำมาก ที่น่าสนใจคือร่างโคลนนิ่งของเขา ควอนซาร์ ก็ทำได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพและความคมอาจยังไม่เทียบเท่าแต่ถือเป็นเรื่องที่ดี แฟนหงส์ควรติดตามดูฟอร์มเจ้าหนูคนนี้ให้ดี4. การแก้เกมของ คล็อปป์ ยังคมเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ เทรนด์ บาดเจ็บ แต่การเลือกส่ง เอเลียต ลงมาทำให้แดนกลางลิเวอร์พูลมีไดนามิกมากขึ้น เกมริมเส้น และลูกเปิดจากด้านข้างน่ากลัวขึ้น นำมาสู่ 2 ประตูชัย ที่ เจ้าหนูเอเลียต ทำ 2 แอสซิสต์ในเกมนี้ ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เมื่อ เอเลียต ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองมักจะทำผลงานได้ดี สร้างความเปลี่ยนแปลงในแดนกลางได้ส่วนการเลือกให้ เคอร์ติด โจนส์ ไปยืนแบ็กขวา ก็ทำได้ดีไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ อาจจะเป็นเพราะเกมเหนือกว่าคู่แข่งอยู่มากจึงไม่โดนกดดันอะไร5. ลิเวอร์พูลกลับมาอยู่ในฟอร์มที่โอเค ถึงจะไม่ดีมากแต่สามารถเอาตัวรอดได้ การขาดหายไปของตัวหลักหลายคนทำให้มีข้อจำกัดในการจัดตัวผู้เล่น หลังจากนี้ต้องรักษาโมเมนตัมที่ดีนี้ไว้ให้ได้เพื่อเบียดแย่งลุ้นแชมป์ต่อไป6. เบิร์นลี่ย์ ภายใต้การคุมทีมของ แวงซองต์ กอมปานี ที่พยายามจำสร้างรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน แต่ด้วยศักยภาพผู้เล่น ที่ยังดีไม่พอ แม้จะดีขึ้นนิดหน่อยจากตัวที่พึงเสริมเข้ามา ก็ทำให้เป็นงานยากที่จะหนีตกชั้นให้สำเร็จ ต้องคอยดูว่าผู้บริหารจะยังเชื่อในแนวทางของ กอมปานี อีกนานแค่ไหนBYSILVER_SHARKภาพปกที่ 1 : เว็บ Premierleagueภาพประกอบที่ 1 : เพจ Liverpool FC และ ผู้เขียนทำภาพจากเว็บ createformation.comภาพประกอบที่ 2 : เพจ Burnley Football Club และ ผู้เขียนทำภาพจากเว็บ createformation.comภาพประกอบที่ 3 : เว็บ Premierleagueภาพประกอบที่ 4 : เว็บ Premierleagueภาพประกอบที่ 5 : เพจ Liverpool FCภาพประกอบที่ 6 : เพจ Liverpool FC ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !