ในวงการฟุตบอลบราซิล ถ้าพูดถึงทีมที่ “ไม่เคยหายไปจากบทสนทนา” เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “เซาเปาโล” อยู่แน่นอน และเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกไปเยือน “วาสโก ดา กาม่า” ก็ย้ำให้เห็นอีกครั้งว่า ทำไมทีมนี้ถึงยังคงมีอิทธิพลทั้งในสนามและในหัวใจแฟนบอลทั่วประเทศ เกมนี้ เซาเปาโล บุกไปดับฟอร์มแรงของวาสโก ที่ก่อนหน้าเพิ่งชนะติดกันมา 4 นัดรวด ในสนามซาน จานูอาริโอ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดคลาสสิกของบอลบราซิลแท้ๆ เสียงกลอง เสียงตะโกน และแม้กระทั่ง “คาร์โล อันเชล็อตติ” กุนซือทีมชาติบราซิล ยังมานั่งดูเกมด้วยแก้วไวน์ในมือ เรียกว่าเป็นค่ำคืนที่ฟุตบอลมีเสน่ห์ในทุกอณู ครึ่งแรก: เกมรุกดุดันของเจ้าบ้าน แต่ “ทีเด็ด” อยู่ฝั่งทีมเยือน วาสโกเปิดฉากได้ดีตามคาด พวกเขาเน้นเพรสสูง รุกหนัก และพยายามใช้พลังของแฟนบอลเป็นแรงกระตุ้น “รายัน” มีโอกาสทองเมื่อยิงชนเสา ส่วน “โรเบิร์ต เรนาน” ก็เกือบได้จังหวะซ้ำแต่ถูก “ราฟาเอล” นายด่านเซาเปาโลปัดได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เซาเปาโลในยุคนี้มีสิ่งที่ต่างออกไป นั่นคือ “ความนิ่ง” พวกเขาไม่ใช่ทีมที่ต้องครองเกมเพื่อชนะ แต่รอจังหวะที่ใช่ และในนาทีที่ 52 โอกาสนั้นก็มาถึง เมื่อ “อาร์โบเลด้า” ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่ “ลูคัส มูร่า” จะรับหน้าที่สังหารแบบเยือกเย็น ส่งทีมเยือนออกนำ 1-0 ลูคัสในวัย 33 ปี กลับมาสวมเสื้อเซาเปาโลอีกครั้งหลังจากโลดแล่นในยุโรปมานาน และการยิงลูกนี้เหมือนเป็นการย้ำเตือนว่า เขายังมีของ ครึ่งหลัง: การปิดบัญชีของ “หลุยซ์ กุสตาโว่” โค้ช “ดินิซ” ของวาสโกพยายามปรับหมากให้รุกหนักกว่าเดิม เขาถอด “คาวัน บาร์รอส” ออกเพื่อเพิ่มแนวรุก แต่แทนที่จะสร้างแรงกดดัน กลับกลายเป็นเปิดพื้นที่ให้เซาเปาโลสวนกลับได้ง่ายขึ้น “ริโกนี” เกือบทำประตูได้ในนาทีที่ 80 แต่ยิงหลุดกรอบแบบน่าเสียดาย ทว่าความผิดพลาดนั้นกลับกลายเป็นบทนำของช่วงปิดฉากสุดเด็ดขาด นาทีที่ 87 “หลุยซ์ กุสตาโว่” กองกลางตัวเก๋า เติมเข้ามาซัดในกรอบหลังรับบอลจากการเปิดทางขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายไม่เหลือ 2-0 จบเกมที่สมบูรณ์แบบของ “ตริโคเลอร์ เปาลิสตา” วิเคราะห์ในมุมผม สิ่งที่ผมชอบในเกมนี้คือ “บาลานซ์” ของเซาเปาโล ไม่ได้หวือหวาแบบทีมบราซิลในอดีต แต่เป็นฟุตบอลที่มีระบบ มีจังหวะการเล่นแบบยุโรปผสมอยู่เห็นได้ชัด นักเตะอย่างลูคัส มูร่า และหลุยซ์ กุสตาโว่ เป็นตัวอย่างของความเก๋าเกมที่คอยประคองรุ่นน้อง อีกจุดที่ผมว่าต้องยกเครดิตให้ คือการจัดการจังหวะของเกมจากกุนซือ เซาเปาโลในช่วงหลังไม่ใช่ทีมที่บุกแหลก แต่คุมอารมณ์เกมได้ดีมาก ใช้ประสบการณ์ในการ “รู้ว่าจะเร่งตอนไหน และหยุดตอนไหน” ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ทีมใหญ่ต้องมี สำหรับวาสโก เกมนี้อาจเป็นบทเรียนสำคัญ พวกเขายังมีพลัง แต่ขาดความนิ่งในพื้นที่สุดท้าย เหมือนจะเร่งเกมมากเกินไปจนเปิดพื้นที่หลังบ้าน สรุปภาพรวม ชัยชนะ 2-0 ทำให้เซาเปาโลขยับขึ้นอันดับ 8 มี 44 คะแนน ส่วนวาสโกตกมาอยู่อันดับ 9 ที่ 42 แต้ม เกมต่อไป เซาเปาโลจะเปิดบ้าน (แต่ใช้สนามวิลา เบลมีโร) พบฟลาเมงโก ซึ่งเป็นบททดสอบสำคัญว่า พวกเขาจะต่อยอดฟอร์มได้หรือไม่ ในมุมของผม เกมนี้สะท้อนว่า “เซาเปาโลกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง” ไม่ได้กลับมาด้วยการเล่นแบบหวือหวา แต่กลับมาด้วยความสมดุลและความเข้าใจในเกมแบบทีมใหญ่จริงๆ รูปภาพปก 1 มาจาก São Paulo FC :|: รูปภาพปกที่ 1 รูปภาพประกอบ 1 มาจาก São Paulo FC :|: รูปภาพประกอบที่ 1 รูปภาพประกอบ 2 มาจาก São Paulo FC :|: รูปภาพประกอบที่ 2 รูปภาพประกอบ 3 มาจาก São Paulo FC :|: รูปภาพประกอบที่ 3 รูปภาพประกอบ 4 มาจาก São Paulo FC :|: รูปภาพประกอบที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !