เปิดดูข่าวช่วงนี้คงจะไม่มีข่าวไหนโด่งดังไปมากกว่าข่าวหลุมยักษ์กลางกรุงอีกแล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับคุณผู้อ่านหวังว่าคงไม่มีใครกลายเป็นผู้ประสบภัยกันนะครับ เพราะหลุมใหญ่ขนาดนั้นขืนตกลงไปคงจะปีนกลับขึ้นมาลำบาก ซึ่งต่างจากหลุมรักที่พวกเรามีต่อศึก ONE ลุมพินี ตามดูมันทุกอาทิตย์ ดูมันทั้ง ๆ ที่นักมวยก็หน้าเดิม ๆ นี่แหละแต่ต่อยกันมันชิบเป๋ง บางคนตกหลุมนี้โดยตั้งใจ ปีนกลับขึ้นมาได้แต่ไม่ยอมปีนก็มี และสัปดาห์นี้คู่มวยที่ผมจะหยิบมาวิเคราะห์ก็คือคู่เอกในรุ่นแบนตัมเวต (135 -145 ปอนด์) ระหว่าง อิเลียส เอ็นนาฮาชิ กับ นาบิล ฮามาน ชกในกติกาคิกบ๊อกซิ่ง คนหนึ่งเป็นอดีตแชมป์โลกคิกบ๊อกซิ่ง ส่วนอีกคนก็แชมป์โลกมวยไทย ณ ปัจจุบัน งานนี้ไม่ดูไม่ได้ ส่วนแนวทางการวิเคราะห์จะออกมายังไงตามมาอ่านกันได้เลยครับ 1. ประวัติพอสังเขปของทั้ง 2 คน - อิเลียส เอ็นนาฮาชิ ชื่อเต็ม / ชื่อจริง : Ilias Ennahachi อายุ : 29 ปี สัญชาติ : โมร็อกโก / ดัตช์ ภูมิลำเนา : เกิดที่เมือง Utrecht , ประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่วนสูงประมาณ : 178 เซนติเมตร (5′10″) น้ำหนัก : 144.6 ปอนด์ ทีม : S&B Gym - นาบิล ฮามาน ชื่อเต็ม / ชื่อจริง : Nabil Anane อายุ : 21 ปี สัญชาติ : ไทย / ฝรั่งเศส - แอลจีเรีย (บิดา) ภูมิลำเนา : Pattaya , ประเทศไทย ส่วนสูง : 195 เซ็นติเมตร (6'4") น้ำหนัก : 144.2 ปอนด์ ทีม : Team Mehdi Zatout หัวข้อนี้แทบไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความเลยครับ ดูแค่รูปภาพหน้าปกก็รู้ว่าฝั่ง นาบิล นั้นรูปร่างได้เปรียบแบบมหาศาล หนำซ้ำอายุก็น้อยกว่าถึง 8 ปี แม้จะมีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเป็นกติกาในการชกหลักของไฟต์นี้ แต่ผมมองว่ายังไงซะ นาบิล ก็ได้ลูกสดกว่า ความเป็นแชมป์โลกมวยไทยรุ่นแบนตัมเวตคนปัจจุบัน ยังไงก็น่าจะเบียดคว้าเอาชัยมาได้ในท้ายที่สุดครับ 2. สไตล์การชกของทั้ง 2 คนเป็นอย่างไร - อิเลียส เอ็นนาฮาชิ เป็นนักมวยคิกบ็อกซิ่งสไตล์ตะวันตก เน้นจังหวะยืนถอย - เดินเข้า เตะขาเตะลำตัวผสมชกตรง มักใช้ความเร็วในการเคลื่อนที่เพื่อหามุมในการเข้าโจมตี จุดแข็งของเขาคือการมีคอมบิเนชันการยืนที่ทำได้หลากหลาย ทำให้สามารถคุมระยะและเปิดโอกาสโจมตีได้ต่อเนื่อง มีความเร็วในระดับสูงและการอ่านจังหวะที่เฉียบคม ทำให้ในช่วงต้น ๆ มักจะดักจังหวะชิงจู่โจมคู่แข่งได้ก่อนเสมอ แต่ทว่าก็มีจุดอ่อนในเรื่องของพละกำลัง คือพอเข้าสู่ช่วงกลางและหลังจะเริ่มมีอาการแผ่ว ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้คู่แข่งที่มีน้ำอดน้ำทนตีโต้กลับคืนมาได้เช่นกัน - นาบิล ฮามาน เขาคือนักมวยไทยที่ชำนาญในการผสมผสานศิลปะการต่อสู้หลายแขนง คาราเต้ , เทควันโด , มวยไทย โดยใช้ความสูงและช่วงขาของตนเองเพื่อสร้างความได้เปรียบ มีจุดแข็งด้านความสูงยาวทำให้สามารถคุมระยะในการเตะได้ เทคนิคการผสมผสานของเขาไม่ค่อยเหมือนกับนักมวยคนใดในรุ่นเดียวกัน จึงสร้างความลำบากให้แก่คู่ต่อสู้ แต่ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือการต่อสู้ในระยะประชิด ในบางบทวิเคราะห์ถึงกับชี้ว่า ถ้าถูกบีบเข้ามุมโดยนักสู้ระยะสั้นที่แข็งแรง เขาอาจเสียจังหวะจนนำมาสู่การปราชัยได้ หัวข้อนี้ค่อนข้างเดายากอยู่เหมือนกันครับ เป็นไปได้ว่า อิเลียส น่าจะเน้นปิดเกมเร็ว เขาน่าจะใช้จุดแข็งของตนเองเพื่อโอบเข้าคลุกวงในและชวนให้ นาบิล ต่อยในระยะประชิด ผมคิดว่าถ้าในช่วงต้นเกม อีเลียส ทำได้ตามแผน นาบิล ก็น่าจะเหนื่อย แต่ถ้าฝั่งหลังเริ่มยื้อระยะเวลาได้ ลูกแขนขายาว ๆ นี่แหละที่จะกลับมาลงทัณฑ์ อิเลียส ให้เพลี่ยงพล้ำไปเอง งานนี้จึงต้องดูหน้างานครับว่าจะเป็นเกมยาวหรือเกมสั้น 3. แรงจูงใจของทั้ง 2 คน - อิเลียส เอ็นนาฮาชิ เขาบอกว่าไม่กังวลเรื่องความสูงของ นาบิล และมองว่านี่จะไม่ใช่อุปสรรคใหญ่สำหรับเขา เขาเคยซ้อมกับนักชกที่สูงกว่านี้มาแล้ว เขาเห็นว่า นาบิล กำลังอยู่ในกระแส เป็นนักชกดาวรุ่งที่มีไฟแรงและได้รับความสนใจมาก จึงต้องการ “หยุดกระแส” ดังกล่าวเพื่อแสดงว่าเขายังอยู่เหนือกว่า และเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแรงในการชกบนเวทีคิกบ็อกซิ่ง เขาเตรียมตัวเต็มที่โดยไปซ้อมที่ยิมของ Superbon (ซึ่งถือเป็นยิมชื่อดัง) เพื่อปรับจุดอ่อนและรับมือกับความท้าทายของไฟต์นี้แบบเฉพาะตัว อีกประเด็นที่เขายกขึ้นมาก็คือ การเปลี่ยนกติกา เขาเชื่อว่าการที่ นาบิล เติบโตมาจากมวยไทยอาจมีความยากเมื่อต้องมาชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง (ไม่สามารถใช้ การกอด , ศอก, หรือหักเหลี่ยมตามธรรมชาติมวยไทยได้) เขาจึงมองว่านี่เป็น “จุดอ่อน” ที่เขาอาจนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ - นาบิล ฮามาน อยากพิสูจน์ตัวเองในกติกาคิกบ็อกซิ่ง นาบิลเป็นแชมป์มวยไทยใน ONE แล้ว ไฟต์นี้เป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เก่งเฉพาะมวยไทย แต่สามารถรับมือกับกติกาคิกบ็อกซิ่งได้ด้วย รักษากระแสและความคาดหวัง เขามีชื่อเสียงและออร่าอยู่ในตัวอยู่แล้ว ไฟต์นี้คือโอกาสที่จะแสดงว่าสิ่งที่คนพูดถึงเขาไม่ได้มาแบบได้เปล่า แต่ต้องฝึกซ้อมและตรากตรำจนกว่าจะได้มา ท้าทายตัวเองและขยายขอบเขตความสามารถ เขารู้ตัวดีว่าไฟต์กับ อิเลียส จะเป็นบททดสอบที่หนัก แต่ถ้าชนะได้จะเป็นเครื่องหมายการันตีว่าเขาเป็นนักมวยที่มีศักยภาพสูง ไม่อยากให้ อิเลียส มองข้ามเขา เนื่องจาก อิเลียส บอกว่าจะหยุดกระแสของ นาบิล ไว้ให้ได้ สำหรับไฟต์นี้จึงอาจมองว่าเป็นการลบคำสบประมาท และต้องการยืนยันว่าสิ่งที่คู่แข่งบอกว่าเป็นจุดอ่อน เช่น ความสูง, การปรับตัวจากมวยไทยเป็นคิกบ็อกซิ่ง นั้นเป็นการคิดที่ผิด หัวข้อนี้เมื่ออ้างอิงจากบทสัมภาษณ์แล้วก็จะเห็นเลยว่า ทั้งสองเหมือนจะมีปมอยู่ในใจ ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลในการลบคำสบประมาท แล้วก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองกันทั้งคู่ เรียกได้ว่าแรงบันดาลใจนั้นเต็มเปี่ยมพอ ๆ กัน ขนาดอ่านดูยังไม่อยากให้ใครแพ้เลยครับ เพราะนั่นจะเท่ากับว่าอีกคนต้องตกอยู่ในสถานะของคนที่ผิดหวัง เรื่องมันเศร้าเพราะงั้นหัวข้อนี้ผมขออนุญาตผ่าน ไม่กล้าฟันธงหรอกครับว่าใครจะชนะ 4. สถิติการชก 5 ไฟต์ล่าสุดของทั้งสองคน - อิเลียส เอ็นนาฮาชิ ก.ย. 2024 (ONE Friday Fights 81) – ชนะ Hiroki Akimoto (คะแนนเอกฉันท์) ก.พ. 2023 (ONE Friday Fights 6) – ชนะ Aliasghar Ghodratisaraskan (KO ยก 2) ส.ค. 2021 (ONE: First Strike) – แพ้ Superlek Kiatmoo9 (คะแนน, เสียแชมป์) พ.ย. 2019 (ONE: Age of Dragons) – ชนะ Wang Wenfeng (คะแนน, ป้องกันแชมป์สำเร็จ) ส.ค. 2019 (ONE: Dreams of Gold) – ชนะ Petchdam Petchyindee (คะแนน, คว้าแชมป์) สรุป : ชนะ 4 แพ้ 1 (ชนะน็อค 1 ชนะคะแนน 3 แพ้คะแนน 1) - นาบิล ฮามาน มี.ค. 2025 ( ONE 172) – ชนะ Superlek Kiatmoo9 (คะแนนเอกฉันท์) ม.ค. 2025 (ONE 170) – ชนะ Nico Carrillo (TKO ยก 1) ก.ย. 2024 (ONE Friday Fights 81) – ชนะ Soe Lin Oo (คะแนนเอกฉันท์) ส.ค. 2024 (ONE Fight Night 24) – ชนะ Felipe Lobo (คะแนนเอกฉันท์) ก.ค. 2024 (ONE Friday Fights 69) – ชนะ Kulabdam Sor Jor Piek Uthai (KO ยก 2) สรุป : ชนะรวด 5 ไฟต์ (ชนะน็อค 2 ชนะคะแนน 3) หัวข้อนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ผมจิ้มเลือก นาบิล อย่างไม่ลังเล สถิติสวยหรูฟอร์มแรงปรอทแตก แถมกำลังอยู่ในช่วงที่ทั้งพีคทั้งสด คู่แข่งที่ต่อยด้วยก็ระดับท็อปของวงการทั้งนั้น ขวัญกำลังใจก็ดีเยี่ยม ผิดกับฝั่งของ อิเลียส ที่ดูค่อนข้างจะร้างเวทีพอสมควร เขาแทบจะไม่ได้ชกต่อเนื่องเลยน่าจะมีความสนิมเกาะกันบ้าง อายุก็มากกว่าหลายปี หัวข้อนี้ผมเลือก นาบิล แบบไม่กลัวหน้าแหกครับ สรุปสุดท้าย นาบิล มีภาษีดีกว่าเพราะสดกว่า แรงกว่า และมีโมเมนตัมจากการชนะต่อเนื่อง จากมุมมองส่วนตัวผมคิดว่าไฟต์นี้ “นาบิล อานาน” น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชนะขาด อิเลียส ยังอันตรายและมีทีเด็ดในลูกสวนกลับเสมอ เขาคืออดีตแชมป์โลกที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ มิหนำซ้ำกติกาคิกบ็อกซิ่งก็เป็นใจ บางทีก็อาจจะสร้างเซอร์ไพรต์ได้เหมือนกัน (แม้โอกาสอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก) ส่วนผมจะทายถูกหรือผิดนั้น คุณผู้อ่านสามารถติดตามชมมวยคู่นี้ ผ่านทางช่องทางการรับชมด้านล่างได้เลยครับ ช่องทางการรับชม ONE ลุมพินี 126 : วันศุกร์ ที่ 26/9/2568 ช่อง 7HD : (ช่อง 35) เวลา 20:30 น. Facebook : ONE Championship Thailand เวลา19:30 น.ถ่ายทอดสดออนไลน์ก่อนเวลาออกอากาศทีวี YouTube : ONE Championship เวลา 19:30 น. Watch.ONEFC.com : เวลา 19:30 น. (ขึ้นอยู่กับสิทธิ์การใช้งานในประเทศ) เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก จาก FB : ONE Championship Thailand รูปที่ 1 จาก FB : ONE Championship Thailand รูปที่ 2 จาก FB : ONE Championship Thailand รูปที่ 3 จาก FB : ONE Championship Thailand รูปที่ 4 จาก FB : ONE Championship Thailand ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !