ศึกแดงเดือดพรีเมียร์ลีกระหว่างลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วนกลับมาให้แฟนบอลทั่วโลกได้พูดถึงกันอีกครั้ง โดยนัดแรกเจอกันตอนเดือนมีนาคมในบ้านของแมนฯยูฯ ถูกหงส์แดงยิงถึง 7 เม็ด ส่งผีแดงกลับลงหลุมแทบไม่ทัน เป็นที่เล่าขานไปอีกนานเท่านาน ชนิดที่ว่าใครไม่อายแต่ผมอายกันเลยทีเดียว มาคราวนี้ผีแดงต้องออกไปเยือนบุกรังลิเวอร์พูลบ้าง ถึงตอนนี้แฟนผีบอกว่าเสียวไส้กลัวจะโดนถลุงเกินกว่า 7 เม็ดนั่นเอง ด้วยเหตุผลความแตกต่างสุดขั้วของฟอร์มการเล่น หงส์แดงฟอร์มติดลมบนส่วนผีแดงฟอร์มร่วงสู่เหวจนอาจจะต้องมีคนรับผิดชอบผลงานตัวเองวันเวลาทำการแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 23.30 น. สนามแอนฟิลด์ รับชมสดได้ทาง True IDฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีมลิเวอร์พูล : แพ้ แซงต์ ชิลลัวส์ 1:2 (เยือน), ชนะ คริสตัล พาเลซ 2:1 (เยือน), ชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 2:0 (เยือน), ชนะ ฟูแล่ม 4:3 (เหย้า), ชนะ ลินซ์ 4:0 (เหย้า)แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : แพ้ บาเยิร์น 0:1 (เหย้า), แพ้ บอร์นมัธ 0:3 (เหย้า), ชนะ เชลซี 2:1 (เหย้า), แพ้ นิวคาสเซิล 0:1 (เยือน), เสมอ กาลาตาซาราย 3:3 (เยือน)สถิติเจอกัน 5 นัดหลังสุด : ลิเวอร์พูล ชนะ 3 นัด แพ้ 2 นัดลิเวอร์พูลการไปสะดุดแพ้ให้กับแซงต์ ชิลลัวส์ในยูโรป้าลีกนัดล่าสุด มันไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของลิเวอร์พูลลดน้อยลงไปเลย นั่นเป็นเพราะว่าลิเวอร์พูลมีการโรเตชั่นนักเตะ เก็บตัวหลักไว้ซดกับผีแดงดีกว่า ถึงแพ้ก็ไม่เสียหายเนื่องจากลอยลำเข้ารอบต่อไปแล้วนั่นเอง คราวนี้เมื่อมีตัวหลักครบทีมเอาไว้สู้กับผีแดงน่ากลัวว่าชัยชนะครั้งนี้จะอยู่แค่เอื้อม ไม่ได้อวยหงส์แดงนะแต่ถ้าดูจากสถิติ 5 นัดหลังสุดที่ผ่านมา หงส์แดงครองบอลเหนือคู่แข่งเกิน 60% ทุกนัด บ่งบอกถึงความเหนียวแน่นในทุกตำแหน่ง รวมทั้งมีการสร้างสรรโอกาสเข้าทำประตูแตะเลข 2 หลักเกือบทุกนัด จึงไม่แปลกที่หงส์แดงจะคว้าชัยชนะมาตลอด นัดนี้ลิเวอร์พูลจะขนตัวผู้เล่นลงสนามเต็มอัตราศึก นำโดย อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์จิล ฟานไดค์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซและลุยส์ ดีอาซแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดฟอร์มยังไม่ดี รักษาความสม่ำเสมอไม่ได้เลย บทจะชนะก็ชนะแบบประหลาดใจ บทจะแพ้ก็แพ้เฉย จนแฟนผีต้องร้องอุทานออกมาว่า "อะไรกันครับเนี่ยยยย" หาความลงตัวไม่ได้เลย แต่อย่าได้แปลกใจไปจากสถิติ 5 นัดหลังสุด แมนยูห่วยจริง สถิติครองบอลแพ้คู้แข่งหมด ตัวเลขอยู่ที่ 40% นิดๆเท่านั้นเอง ยกเว้นนัดเจอบอร์นมัธที่ครองเกมได้ถึง 96% แต่ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะสุดท้ายเปิดบ้านแพ้บอร์นมัธไป 0:3 ต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง เรื่องที่น่าชื่นชมหน่อยคงจะเป็นการสร้างโอกาสเข้าทำประตูในแต่ละนัดถือว่าทำได้ดี ตัวเลขอยู่ที่ 20 กว่าครั้งต่อนัด แต่ที่น่าเป็นห่วงคือสร้างโอกาสได้เยอะก็จริง แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้น้อยมาก นั่นสะท้อนให้เห็นว่าการจบสกอร์ของทีมมีปัญหาแก้ไม่ตกสักที ผู้เล่นที่คาดว่าจะมีโอกาสลงเล่นเจอกับลิเวอร์พูลนำโดย ราฟาแอล วาราน, อ็องเดร โอนาน่า, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และราสมุส ฮอยลุนด์วิเคราะห์เกมการแข่งขันมองมุมไหนก็ไม่เห็นทางที่แมนยูจะบุกไปเอาชนะลิเวอร์พูลได้ ถึงแม้ว่าจะใช้ความมุ่งมั่นต้องการล้างอายจากการเจอกันนัดแรกที่แพ้เละเทะคาบ้านก็ตาม แถมยังขาดผู้เล่นตัวหลักอย่างบรูโน่ เฟอร์นันเดส ที่ชิงโดนใบเหลืองครบ 5 ใบ โดนแบนไม่ได้ลงเล่นในนัดนี้ เสมือนว่าไม่อยากลงเล่นเกมนี้เพราะอายที่จะแพ้ลิเวอร์พูลซะอย่างนั้น แมนยูไม่มีทางเลือกต้องบุกมาสู้เท่านั้น แต่หากถอดใจไม่สู้แล้ว เตรียมเก็บความพ่ายแพ้กลับบ้านได้เลย อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าเป็นเกมแดงเดือด ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ แมนยูคงไม่ยอมง่ายๆ จะสร้างความลำบากให้ลิเวอร์พูลไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านและฟอร์มโดยรวมดูเหนือกว่าแมนยูอยู่มาก จะสามารถเอาชนะคู่รักคู่แค้นไปได้ด้วยสกอร์ 2:0แดงเดือดพรีเมียร์ลีกระหว่างลิเวอร์พูลเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะจบลงแบบไหน แฟนบอลอย่าพลาดชมเกมคู่นี้โดยเด็ดขาด เพราะมั่นใจได้เลยว่าเกมการแข่งขันจะออกมาสนุก เร้าใจอย่างที่แฟนบอลทั้ง 2 ฝั่งรอคอย วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 23.30 น. สนามแอนฟิลด์ รับชมสดได้ทาง True ID เรื่องโดย : 100เตาสั้นขอบคุณภาพประกอบจาก : Liverpool FC, Manchester United, Premier League, ภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4, ภาพปก1, ภาพปก2, ภาพปก3Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร