ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษสัปดาห์นี้ อาจช็อกความรู้สึกของแฟน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พอสมควร เพราะเป็นความพ่ายแพ้ 2 ทีมบ๊วยท้ายตารางอย่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์และลีดส์ ยูไนเต็ด ติดต่อกันในรอบสัปดาห์ เกิดคำถามซึ่งมันก็มีมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลแล้วล่ะว่ามันจะซ้ำรอยวิถี 7 ปีของคล็อปป์ หรือมันเป็นช่วงขาขึ้นขาลงตามวัฏจักรฟุตบอลช่วงสั้น ๆ แต่บทสรุปลิเวอร์พูลอยู่ในโปร 4-4-4 คือชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 4 ล่วงเลยมาสู่นัดที่ 12 แล้ว ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนเลยที่แฟนหงส์แดงในยุคเจอร์เก้น คล็อปป์ อดหวั่นใจว่าสภาวะเผชิญเวลานี้แค่ชั่วคราว หรือคือวิกฤตของจริงกันแน่การจากไปของ “ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์” ผู้อำนวยการกีฬามือทองที่อยู่กับทีมมากว่า 10 ปี มีผลในเรื่องจิตวิทยาพอสมควร เพราะเอ็ดเวิร์ดส์ไม่เพียงเจรจาต่อรองซื้อนักเตะ แต่ยังมีส่วนวางโครงสร้างแนวทางของทีมด้วย ภาระความคาดหวังทุกอย่างพุ่งเป้าให้คล็อปป์แบกรับคนเดียว เอ็ดเวิร์ดส์มีความผูกพันกับบรรดาซูเปอร์สตาร์เพราะเป็นคนพูดคุยก่อนย้ายมาด้วยตัวเอง ให้นึกภาพเราเข้าทำงานแต่คนชวนเรามาไม่อยู่แล้วคงรู้สึกเคว้ง.. บรรยากาศในแอนฟิลด์ที่ไม่มีไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ จึงต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ต้องใช้เวลาปรับอีกสักระยะในการคืนความเชื่อมั่นสู่ทีมประการต่อมาคือปัญหาเกมรับ “เฟอร์จิล ฟานไดค์” เหมือนชะตาเล่นตลกจะเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์สำคัญทีมชาติเสมอ เคยพลาดทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโร ดูรอบนี้เจ้าตัวเล่นแบบเพลย์เซฟมากขึ้นไม่เสี่ยงกับอาการบาดเจ็บซ้ำเราจึงไม่เห็นฟานไดค์ในสไตล์เข้าแบบถึงลูกถึงคน หลายจังหวะพาตัวเองอยู่ห่างจากจุดปะทะ ราวกับว่าจะไม่ยอมพลาดฟุตบอลโลกที่อาจเป็น World Cup ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตเค้า ตามสายตาพวกอาร์โนลด์หรือโรเบิร์ตสันไม่ได้ฟอร์มตกจากฤดูกาลก่อนนะ มีหลุดมีรั่วเป็นประจำอย่างนี้แหละ เพียงแค่พลาดแล้วฟานไดค์เคยเก็บกวาดได้ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ซีซันนี้หลุดจากแบ็กแล้วเข้ามาล่อเป้าส่องประตูทันที ลิเวอร์พูลไร้ตัวชนเข้าปะทะเหมือนที่เคยเป็นฟากฝั่งเกมรุกฤดูกาลนี้ผ่าน 12 นัดยิงได้เฉลี่ย 1.91 ประตูต่อเกม ตกลงจากซีซันก่อนตะบันไป 94 ประตู หรือเฉลี่ยนัดละ 2.47 ประตู การขาดหายไปของซาดิโอ มาเน่ มีผลกับจำนวนสกอร์อย่างมีนัยสำคัญ ลิเวอร์พูลสูญเสียคำว่า “สามประสาน” ต้องสลับผู้เล่นแดนหน้าอย่างหาจุดลงตัวไม่ได้ ถึงขั้นต้องปรับเล่นระบบอื่นเช่น 4-4-2 หรือ 4-2-3-1 ที่พวกเค้าไม่คุ้นเคยเท่าเครื่องหมายการค้า 4-3-3 แบบใคร ๆ ก็รู้ว่าลิเวอร์พูลต้องเล่นอย่างนี้แต่ไม่มีทางหยุดได้ กลายเป็นลิเวอร์พูลที่ถ้าตั้งโซนรับดี ๆ มีลุ้นถึงชนะ และทำสำเร็จหลายทีมซะด้วยแม้จะมีปัญหา แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขั้นทีมล่ม เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณทั้งแฟนหงส์แดง และตัวนักเตะเองเชื่อมั่น ระบบโครงสร้าง ความสัมพันธ์ในทีมมันอยู่ในเกณฑ์ดีไร้ปัญหาขัดแย้ง แม้จะแพ้แต่เป็นการแพ้แบบโหมบุกยิงไปติดเซฟเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาไม่เข้าเป้า เปอร์เซ็นต์ครองบอล การสร้างโอกาสยังอยู่ในขั้นน่าพอใจ แค่มันไม่เป็นประตูและหลังเสียกันง่ายเท่านั้นเอง เป็นเรื่องของความมั่นใจ และโมเมนตัมที่คล็อปป์กำลังใช้ความพยายามควงหางเสือหันหัวเรืออยู่ บางนัดท็อปฟอร์มแล่นฉิว บางช่วงก็ตุปัดตุเป๋อย่างที่เห็นวิเคราะห์แล้วฟอร์มของลิเวอร์พูลเป็นเพียงช่วงเวลาแย่ ๆ ที่กำลังรอเมฆฝนผ่านไปเท่านั้นเอง เมื่อนักเตะทยอยหายเจ็บกลับมา อย่างน้อยหลังฟุตบอลโลกจะกลับมาลุ้นพื้นที่ยุโรปได้ นักเตะจะคลายความกดดันไม่ต้องกังวลว่าจะได้ไปหรือไม่ได้ไปกาตาร์จนดูเกร็งกันไปหมด ยังเชื่อในมันสมองของผู้ชายที่ชื่อคล็อปป์ เชื่อในความเป็น You'll Never Walk Alone ว่ามันไม่ใช่เรื่องต้องกังวลหรอก ไม่มีใครต้องทิ้งใคร ทุกคนจะร่วมฝ่าฟันให้ผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดีครับ..ภาพประกอบโดย ภาพปก True Sports : ตารางคะแนน , Liverpool FC : พื้นหลัง / Liverpool FC : ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลก์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่ 1 : (ต้องมียอดไลก์เกิน 150 ไลก์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลก์เกิน 50 ไลก์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***