ทั้งสองสโมสรเดินทางมาถึงมุมส่งท้าย ในเกมรอบที่สามวันที่ 26 มิถุนายน — เมื่อ Juventus และ Manchester City จะโคจรมาเจอกันเพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม G Juventus กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการฟื้นฟูยุคใหม่ หลังเปลี่ยนกระบวนทัพอย่างรวดเร็วด้วยการมาของกุนซือ Igor Tudor ซึ่งสร้างความแข็งแกร่งทั้งในแดนรับและจังหวะสวนกลับ โดยเฉพาะฟอร์มอันร้อนแรงของกลุ่มศูนย์หน้าอย่าง Kolo Muani และ Francisco Conceição ผู้เพิ่งเฉิดฉายยิงประตูคู่แรกในทัวร์นาเมนต์ ในอีกฝั่ง Manchester City หวังจะใช้โอกาสนี้เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ในนามของ “ยุคเป๊ปหลังจากฤดูกาลไร้ถ้วย” ภายใต้เป้าหมายการสร้างโมเมนตัมใหม่ พวกเขาเข้ารอบมาอย่างมั่นใจโดยชนะ Wydad AC 2–0 และกำลังปรับระบบหลังปรับผู้เล่นแนวรุก–รับ ด้วยแข้งใหม่อย่าง Reijnders, Cherki และการกลับมาของ Rodri เกมนี้จะเป็นบททดสอบที่สะท้อนถึง ความสมดุลทางยุทธศาสตร์: ยูเว่ซึ่งใช้แท็กติกแข็งแกร่งฝั่งอิตาลี ตั้งรับแน่น พร้อมสวนกลับเฉียบ กับซิตี้ที่มีสถิติครองเกมยาวนานของฟุตบอลอังกฤษ พร้อมยิงประตูจากการต่อบอลระยะสั้น การชนกันระหว่างยุทธศาสตร์ทั้งสองฝ่ายนี้จะชี้ชะตาว่าใครจะคว้าชัย ชิงตำแหน่งแรกของกลุ่ม G และหนทางเพื่อเลี่ยงการพบราชันชุดขาวในรอบ 16 ทีม ฟอร์มล่าสุดของทั้งสองทีม Juventusจบอันดับ 4 ในกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2024‑25 ภายใต้การคุมทีมของ อิกอร์ ทูดอร์ หลังจากเปลี่ยนเฮดโค้ชกลางฤดูกาล 5 นัดหลังสุดในลีกพวกเขาเก็บได้ 11 คะแนน (ชนะ 3 เสมอ 2) เช่น ปลดล็อกชนะยูดิเนเซ่ (2–0) และมอนซ่า (2–0) ดาวเด่นคือ ดูซาน วลาโฮวิช ซึ่งทำไป 10 ประตูในลีกและเป็น top scorer ของทีม 15 ประตูรวมทุกรายการ เวสตัน แม็คเคนนี่ กลับมามีส่วนสำคัญ ทั้งการสร้างสรรค์เกมและแอสซิสต์สำคัญ เช่น ลูกยิงสุดสวยในเกมชนะซิตี้ 2–0 รายการแชมเปียนส์ลีก Manchester City ฤดูกาลก่อนถือได้ว่าล้มเหลว เลื่อนชั้นในลีกต่ำกว่าที่คาด, แพ้ FA Cup และตกรอบแชมเปียนส์ลีก โดยเฉพาะการพ่ายแพ้รวดหลังปี 2024 ฟอร์ม 5 นัดหลังในพรีเมียร์ลีก/เอฟเอ คัพ: ชนะ 3, เสมอ 1, แพ้ 1 (แพ้คริสตัล พาเลซ ในเอฟเอ คัพ ไฟนอล) กลับมาช่วงปลายฤดูกาลด้วยฟอร์มไหลลื่น ชนะรวด 7 จาก 10 นัดท้ายลีก ปีนี้ซิตี้เสริมทัพมหาศาลรวมเกือบ ดึง Rodri, Reijnders, Cherki, Aït-Nouri, Gvardiol เข้ามา พร้อมปรับทีมสต๊าฟโค้ช แท็กติกสไตล์การเล่น Juventus พื้นฐานคือ ดุดันแต่สมดุล เปลี่ยนจาก Motta เป็น Tudor ชัดเจนเรื่อง “ตั้งรับรัดกุม แล้วจ่ายบอลเร็ว” เน้นใช้ Vlahović เป็นจุดศูนย์กลางของเกมรุก พร้อม McKennie และ Weah ช่วยสร้างสรรค์เกม มีสถิติครองบอลไม่มาก ( ในแชมเปียนส์ลีกล่าสุด) แต่มักมีประสิทธิภาพสูง และใช้โอกาสน้อยแต่จบคม Manchester City ยึดระบบ 4‑3‑3 / 4‑2‑3‑1 โดย Rodri เป็นหัวใจของแดนกลาง ปีนี้ทีมผสานตัวใหม่เข้ากับระบบเก่า เช่น Reijnders ช่วยเติม creativity, Cherki รองรับแทน De Bruyne, Aït-Nouri เสริมฟูลแบ็กด้านซ้าย และ Gvardiol เข้ามาเฝ้ารับ วันที่ฟูลทีม จะมี possession สูง และจบสกอร์เฉลี่ย 1.70 ต่อเกม ประวัติการพบกัน (Head-to-Head) พบกัน 5 ครั้งหลังสุด: ยูเวนตุสชนะ 3 เสมอ 2 ไม่มีแม้แต่แพ้ซีตี้เลย ล่าสุด 11 ธันวาคม 2024 แชมเปียนส์ลีก ยูเว่ชนะ 2–0 (Vlahović, McKennie) วิเคราะห์โครงสร้างเกม เริ่มเกม – ซิตี้จะพยายามครองบอลรุกสร้างโอกาส ยูเว่ใช้ช่องว่างในแดนกลางจ่ายเร็วสวนกลับ แดนกลาง – Duel ระหว่าง Rodri–Reijnders กับ McKennie–Weah ชี้เกม ทำให้ปัญหาเรื่อง possession ของยูเว่จึงสำคัญ เกมรุก – หาก Haaland ทำประตูเร็ว ซิตี้จะยิ่งครองเกมมากขึ้น แต่ถ้ายังติดแนวรับของยูเว่ พวกเขาอาจเจอเกมสวนกลับทันที จังหวะล็อกเกม – ยูเว่ต้องรักษาคลีนชีตขณะรอโต้ ถ้าซิตี้ไม่เจาะแนวรับได้ แรงกดดันจะตกไปที่พวกแนวรุก ท้ายเกม – เกมน่าจะจบช้า มีโอกาสวางบอลยาว, ลูกนิ่ง หรือการเปลี่ยนตัวของโค้ชสำคัญ บทสรุป ยูเวนตุส: หากเล่นตามแท็กติก–รอจังหวะสวนกลับ มีโอกาสทำประตูสูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้: ฟื้นฟอร์มมาดี ฟูลทีม – แต่ต้องปรับแนวรับให้รัดกุม เกมอาจจบด้วยความสูสี ผลอาจออกได้ทั้งเสมอ, ยูเว่ชนะยอดเชิง, หรือซิตี้กลับฟอร์มเหนียวโดยมี Rodri เป็นศูนย์กลาง เครดิตรูปภาพหน้าปก:https://x.com/juventusfc / https://x.com/ManCity ภาพที่1:https://x.com/juventusfcen ภาพที่2:https://x.com/ManCity ภาพที่3:https://x.com/juventusfcen ภาพที่4:https://x.com/ManCity ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !