หงส์ชุดผสม! ลิเวอร์พูล บุกเจ๊า มิดทิลแลนด์ 1-1 นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ชปล.

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำหลังจากเริ่มเกมไปเพียง 55 วินาที จากนั้นมาเสียจุดโทษในช่วงครึ่งหลัง ก่อนจะบุกไปเจ๊า มิดทิลแลนด์ 1-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย 

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดสุดท้าย กลุ่มดี เมื่อคืนวันพุธที่ 9 ธันวาคม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยกพลไปเยือน มิดทิลแลนด์ สโมสรดังของเดนมาร์ก โดยเกมนี้ไม่มีอะไรให้ลุ้น เนื่องจากลิเวอร์พูลการันตีเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม จึงส่งผู้เล่นชุดผสมตัวจริง-ตัวสำรองลงสนาม ส่วนเจ้าถิ่นก็ตกรอบแน่นอนแล้ว

เริ่มเกมไปได้แค่ 55 วินาที ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเมื่อผู้เล่นเจ้าถิ่นจ่ายบอลคืนหลังพลาด ทำให้โดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ใช้ความเร็วสปีดไปฉกบอล ก่อนลากไปยิงประตูให้ทีมหงส์แดงนำ 1-0 ซึ่งประตูนี้เป็นลูกยิงที่ลิเวอร์พูลทำได้เร็วที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีก นอกจากนี้ ยังเป็นประตูที่ 22 ที่ซาลาห์ยิงได้ในเกมยูซีแอล มากที่สุดเป็นสถิติของสโมสร แซงหน้า สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ยิงไป 21 ประตู

นาที 19 ทีมหงส์แดงเกือบได้ลูกที่สอง เมื่อ ทาคุมิ มินามิโนะ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ ดิโอโก้ โชต้า ชาร์จจ่อๆ แต่ติดเซฟ เยสเปอร์ แฮนเซ่น นายทวารเจ้าถิ่น ซึ่งปัดบอลออกหลังไปได้ 

นาที 32 มิดทิลแลนด์เกือบตามตีเสมอได้ เมื่อ ดิออน คูลส์ เปิดบอลจากด้านขวามาทางเสาสอง โซรี่ กาบ้า ขึ้นโหม่งบอลผ่านมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ไปแล้ว แต่ยังมี ฟาบินโญ่ ที่เคลียร์ออกจากหน้าปากประตูได้อย่างหวุดหวิด ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ 1-0 ของลิเวอร์พูล

กลับมาลงสนามครึ่งหลัง มิดทิลแลนด์ได้เสียวอีกครั้งในนาทีที่ 49 จากลูกเตะมุม แนวรับลิเวอร์พูลเคลียร์ไม่ขาด จังหวะสุดท้ายบอลมาเข้าทาง เอแวนเดอร์ ได้วอลเลย์เต็มๆด้วยขวากลางเขตโทษ บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง

เกมมาถึงนาที 62 อันเดอร์ส เดรเยอร์ กองหน้าเจ้าถิ่น ได้บอลหลุดเดี่ยว ก่อนที่ขาจะไปเกี่ยวกับ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็คภาพจาก VAR ก่อนให้จุดโทษแก่มิดทิลแลนด์ และเป็น อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1

นาที 76 อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายให้ โซรี่ กาบ้า ตวัดยิง บอลไปติดแนวรับลิเวอร์พูลมาเข้าทาง โชลซ์ อีกครั้ง ก่อนที่ดาวเตะวัย 28 ปี จะซัดด้วยขวาตุงตาข่าย แต่ภาพจาก VAR ระบุว่ามีจังหวะล้ำหน้าก่อน ทำให้มิดทิลแลนด์ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย

นาที 86 มิดทิลแลนด์เกือบได้ประตูชัย เมื่อ เอริค สเวียตเชนโก้ ได้ขึ้นโขกลูกเตะมุมเต็มศีรษะ แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารดาวรุ่งของลิเวอร์พูล ปัดทิ้งไปได้หวุดหวิด

นาที 89 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลเข้าเขตโทษ ซาดิโอ มาเน่ ขึ้นโขกบอลติดกองหลังมิดทิลแลนด์ ก่อนที่บอลจะตกมาเข้าทาง ทาคุมิ มินามิโนะ ซัดเข้าไป แต่ก็โดน VAR ริบประตูคืนอีก เพราะจังหวะขึ้นโหม่งนั้น บอลไปโดนมือของ มาเน่ ทำให้โดนจับเป็นแฮนด์บอลก่อน ทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอกันไป 1-1

ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน อาแจ็กซ์ พ่าย อตาลันต้า 0-1 ส่งผลให้กลุ่มนี้ ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์กลุ่มมี 13 แต้มจาก 6 นัด เข้ารอบไปพร้อมกับ อตาลันต้า ซึ่งมี 11 แต้ม ส่วนอันดับสาม อาแจ็กซ์ มี 7 แต้ม ลงไปเล่นยูโรป้าลีก และ มิดทิลแลนด์ ตกรอบ มีอยู่ 2 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

มิดทิลแลนด์ : เยสเปอร์ แฮนเซ่น, ดิออน คูลส์, เอริค สเวียตเชนโก้, อเล็กซานเดอร์ โชลซ์, เปาลินโญ่, เยนส์ คายุสเต้, แฟรงก์ ออนเยก้า, เอแวนเดอร์, อันเดอร์ส เดรเยอร์, เอเวอร์ มาบิล, โซรี่ กาบ้า 

ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, รีส วิลเลียมส์, ฟาบินโญ, คอสตาส ซิมิกาส, นาบี เกอิต้า, เลห์ตัน คลากร์สัน, ดิโอโก้ โชต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ทาคุมิ มินามิโนะ, ดิวอก โอริกี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

>> แล้วหงส์แดงล่ะ!! เนวิลล์ เชื่อ เชลซี มีลุ้นคว้าแชมป์ลีกมากกว่า สเปอร์ส

>> ฟันธง! 'สโคลส์' ทำนายแล้ว ทีมใดจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

-------------------------------------------------

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่