มองข้ามช็อต "แมนยู พบ นิวคาสเซิล" สู่การขายทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นยุค เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ด้วยตำแหน่งแชมป์ คาราบาว คัพ หลังเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 ที่สนาม เวมบลีย์ คืนวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้สาวก "ปิศาจแดง" กำลังคึกคัก และคาดหวังถึงแชมป์รายการต่อๆ ไป ยูไนเต็ด เปรียบเสมือนกราฟช่วงขาขึ้น แดนหลังมีความกระชับ ไม่มีความผิดพลาดส่วนบุคคลอันนำไปสู่การเสียประตูแบบง่ายๆ ลดลง นักเตะใหม่ทั้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังสไตล์ดุดัน, คาเซมิโร มิดฟิลด์ตัวเก๋า และ คริสเตียน เอริกเซน มิดฟิลด์สร้างสรรค์เกม ยกระดับทีมอย่างเห็นได้ชัด, มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นกองหน้าถล่มประตูต่อเนื่อง และการการันตีแชมป์อย่างน้อย 1 รายการ ในฤดูกาล 2022-23 ยิ่งเสริมสร้างความมั่นใจแก่นักเตะว่า เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องหาก "ปิศาจแดง" ยังรักษาความสม่ำเสมอไว้ได้ ย่อมมีโอกาสลุ้นหยิบถ้วย เอฟเอ คัพ และ ยูฟา ยูโรปา ลีก บวกกับเป้าหมายติดท็อป 4 ผ่านควอลิฟาย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ส่วนจะถึงขั้นลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ยังต้องอยู่ในอาการเจียมเนื้อเจียมตัวไปก่อน เพราะยังตามจ่าฝูง อาร์เซนอล อยู่ 8 แต้ม และบางเกมเรายังเห็นว่า แมนฯ ยู ทำคะแนนหล่นหาย โดยเฉพาะเกมถูก คริสตัล พาเลซ ตีเสมอ 1-1 ช่วงทดเจ็บ และบางนัดแฟนๆ ยังต้องลุ้นกันแบบนั่งไม่ติด จึงต้องดูแบบเกมต่อเกม นอกเหนือจากการแข่งขันที่สาวก "เรด เดวิลส์" ติดตามอย่างใกล้ชิด สถานการณ์เทกโอเวอร์สโมสรยังเป็นประเด็นสำคัญไม่แพ้กัน เชื่อว่าแฟนๆ ยูไนเต็ด ไม่ต่ำกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ ต้องการให้ทีมหลุดพ้นจาก ตระกูลเกลเซอร์ ซึ่งบริหารจัดการทีมโดยขาดความเอาใจใส่มาตั้งแต่ปี 2004 ศูนย์ฝึกซ้อมไม่มีการปรับปรุงให้ทันสมัย ตามคำกล่าวของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ขณะให้สัมภาษณ์ เพียร์ส มอร์แกน ผู้สื่อข่าวชื่อดังของอังกฤษ และเลือกคนไม่มีความรู้ความสามารถ ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ อย่างผู้อำนวยการกีฬา หรือผู้อำนวยการฟุตบอล หากไม่มีกลุุ่มแฟนบอลคอยประท้วง ก็ไม่รู้เหมือนกันจะตกต่ำอีกนานแค่ไหนเท่าที่ทราบความคืบหน้า มีนายทุน 2 ราย คือ เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ ชายผู้มั่งคั่งสุดของ สหราชอาณาจักร กับ ชีกห์ จาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี แห่งกาตาร์ ยื่นข้อเสนอจริงจัง แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เพียงพอให้ ครอบครัวเกลเซอร์ ยอมขายกิจการ เนื่องจากมูลค่าต่ำกว่าที่ตั้งไว้ 6 พันล้านปอนด์ ยิ่งตอนนี้สโมสรเพิ่งจะคว้าแชมป์มาหมาดๆ และอาจไม่ได้หยุดแค่ คาราบาว คัพ จึงน่าจะเป็นไปได้ว่า ครอบครัวเกลเซอร์ อาจต้องการดึงราคาขึ้นอีก หรือเปลี่ยนใจไม่ขาย แล้วกอบโกยผลประโยชน์ต่อไป ในยุคขาขึ้นของ เทน ฮาก สมมติว่าการซื้อ-ขายสโมสรล่าช้ากว่าเดือนมีนาคมดังที่กำหนดไว้ ทำให้ตัวกระผมสัมผัสถึงลางร้าย หากนึกย้อนถึงตลาดซื้อ-ขายเดือนมกราคม เกิดข่าวกอสซิป บอร์ดบริหารไม่อนุมัติงบแก่ เทน ฮาก ถ้าอยากเสริมต้องขายก่อนหรือยืมตัว ปรากฏว่า แมนฯ ยู ได้ 2 นักเตะจากการยืมตัวจริง เวาท์ เวกฮอร์สท กับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเชื่อมโยงกับการขายสโมสรหรือไม่ แต่มันก็ทำให้เชื่อได้ว่าข่าวกอสซิปดังกล่าวมีมูลความจริงไม่มากก็น้อยหรือการเทกโอเวอร์ยืดเยื้อถึงจบซีซัน และ ครอบครัวเกลเซอร์ ยังคงรอฟังข้อเสนอขอซื้อสโมสรอยู่ แน่นอนว่านายทุนที่กำลังจะขายกิจการ ย่อมยุติการลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากผลประโยชน์ภายภาคหน้าจะตกไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ดังนั้นจึงควรคงสภาพเดิมไว้ แล้วปล่อยให้เจ้าของใหม่บริหารจัดการเอง และอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับตลาดฤดูหนาวที่ผ่านมา ความคาดหวังว่าจะเห็นทีมชุดนี้ได้รับการต่อยอดขึ้นอีกระดับกลายเป็นเครื่องหมายคำถาม หรือการเทกโอเวอร์สิ้นสุดราวๆ เดือนพฤษภาคม หรือ มิถุนายน เท่ากับว่า เจ้าของใหม่มีเวลาอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน เพื่อจัดตั้งทีมงานบริหาร โดยเฉพาะการคัดสรรตัวบุคคลมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกีฬา หรือ ผู้อำนวยการฟุตบอล การซื้อ-ขายนักเตะก็จะเกิดความล่าช้าเหมือนที่เกิดขึ้นช่วงพรีซีซัน 2022-23 ซึ่งเราเห็นว่าการเซ็นสัญญา เอริกเซน ไม่ทันกำหนดทัวร์พรีซีซัน ทำให้นักเตะมีเวลาปรับตัวน้อย และ เทน ฮาก ไม่ได้ทดลองตัวนักเตะจนส่งผลกระทบถึง 2 เกมแรกของซีซัน ซึ่งพ่าย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน และ เบรนท์ฟอร์ด ทีมชุดปัจจุบันยังน่าเป็นห่วงเรื่องขนาดทีม แม้ว่าจะฟอร์มแรงต่อเนื่องจนหยิบแชมป์ไป 1 รายการ แต่ลองนึกสภาพวันดีคืนร้าย บรูโน เฟร์นันเดส, คาเซมิโร, เอริกเซน, แรชฟอร์ด, ลิซานโดร หรือ ราฟาเอล วาราน เกิดบาดเจ็บไปสัก 1-2 เดือน หรือติดโทษแบน ย่อมส่งผลกระทบต่อทีม เนื่องจากนักเตะเหล่านี้คือกระดูกสันหลัง คุณภาพผู้เล่นคนอื่นๆ ยังมิอาจทดแทนได้ และด้านจำนวนนักเตะที่เสียไปช่วงซัมเมอร์ กับ ตัวที่เข้ามาเสริมยังขาดความสมดุล นักเตะเยาวชนของสโมสร ก็ยังฝากความหวังได้น้อย เพราะขาดประสบการณ์ดังนั้นการซื้อ-ขายสโมสรเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องจบโดยเร็ว เพื่อให้เวลาเจ้าของใหม่ตั้งหลัก และคัดสรรบุคลากรหลังบ้าน เพื่อยกระดับทีมต่อไป โดยเฉพาะการลงทุนด้านตลาดนักเตะ ถึงแม้ แมนฯ ยู ชุดนี้จะมีความสำเร็จติดไม้ติดมือแล้ว แต่ถ้าหยุดอยู่กับที่ หรือออกตัวช้ากว่าคู่แข่ง คุณจะไปถึงเป้าหมายสูงสุด คือ แชมป์ พรีเมียร์ ลีก ได้อย่างไร เครดิตภาพภาพปก จาก Twitter: Manchester United ภาพประกอบ 1 จาก Twitter: Manchester Unitedภาพประกอบ 2 จาก Twitter: Manchester Unitedภาพประกอบ 3 จาก Twitter: Marcus Rashfordภาพประกอบ 4 จาก Twitter: Manchester Unitedอัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'