ถือเป็นทีมที่ต้องบอกว่าในเรื่องของฟอร์มการเล่นในช่วงหลังนั้นยังดูไม่นิ่งเท่าที่ควร แต่ด้วยความที่นัดล่าสุดสามารถเอาชนะซาเกร็บและเป็นจ่าฝูงในกลุ่มE ผ่านเข้ารอบต่อไปไปได้น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ไม่น้อย แต่การต้องมาเจอกับทีมที่ถือว่ากำลังร้อนแรงอีกหนึ่งทีมอย่างอาร์เซนอล วันนี้เราเลยจะพามาย้อนดูในแต่ละนัดในลีกของพวกเขาใน5นัดหลังสุดนี้ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น เราไปดูกันเลย!1. เปิดบ้านเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 : เป็นเกมที่ต้องบอกว่าพวกเขาเล่นได้ดีกว่าอย่างชัดเจนบวกกับทั้งในเรื่องของสภาพทีมของทางฝั่งทีมเยือนเอง ในวันนั้นก็ถือว่าขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนอยู่เหมือนกัน โดยในเกมวันนั้นพวกเขาสามารถทำได้อย่างเหนือกว่าในทุกด้านทั้งการครองบอล การจ่ายบอล โอกาสยิง แถมยังจบเกมด้วยการไม่เสียประตูอีกด้วย ถือว่าถูกใจแฟนๆไม่น้อยทั้งฟอร์มการเล่นของทีมในสนาม ฟอร์มการเล่นส่วนตัวของนักเตะ ผลการแข่งขันและสกอร์หลังจบเกม และอีกสิ่งที่มีความน่ารักอยู่ไม่น้อยเลยนั่นก็คือการกลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้งของ ดิเอโก้ คอสต้า และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี2. บุกไปเอาชนะแอสตัน วิลล่า 0-2 : แม้จะเป็นเกมที่เอาชนะมาได้แบบที่ไม่เสียประตู แต่ในส่วนตัวผมเองมองว่าเกมวันนั้นทีมเล่นได้กันยังไม่ดีเท่าที่ควร การขึ้นเกมรุกก็ยังดูตื้อๆตันๆ ผู้เล่นในเกมรับแม้ว่าวันนั้นทีมจะไม่เสียประตูแต่ก็ต้องบอกว่ามีช็อตที่น่าหวาดเสียวหลายรอบอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังดีที่สุดท้ายสามารถผ่านมาได้โดยดี ซึ่งเหตุผลที่เราชนะในวันนั้นเกิดจากความผิดพลาดส่วนตัวของผู้เล่นทางฝั่งเจ้าบ้านด้วยส่วนหนึ่งเลย ถึงแม้ทีมจะยังนำอยู่แต่แฟนเชลซีในตอนนั้นก็ถือว่าต้องลุ้นจนตัวโก่งเลยทีเดียว ถือเป็นชัยชนะที่ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร3. บุกไปเสมอกับเบรนท์ฟอร์ด 0-0 : ต้องบอกว่าในเกมวันนั้นผลเสมอถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจแล้วจริงๆสำหรับฟอร์มการเล่นในวันนั้น และคนที่ถือว่าเป็นพระเอกของเกมในวันนั้นก็คงไม่พ้นประตูอย่าง เกป้า ที่ในช่วงครึ่งแรกนั้นโชว์การเซฟที่น่าเหลือเชื่อไปหลายต่อหลายครั้งอยู่เหมือนกัน บวกกับทางฝั่งเจ้าบ้านเองในวันนั้นก็ถือว่าเตรียมการรับมือเชลซีได้เป็นอย่างดี มีการต่อบอล เกมสวนกลับที่อันตรายอยู่ตลอดเวลา บวกกับกองหน้าอย่าง อิวาน โทนี่ ที่ถือว่าในช่วงนั้นกำลังร้อนแรงเอามากๆมีโอกาสหลายต่อหลายครั้งที่จะทำประตู ซึ่งถือว่าสุดท้ายแล้วการแบ่งกันไปคนละแต้มถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจแล้วในเกมวันนั้น4. เปิดบ้านเสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 : ถือเป็นเกมใหญ่ที่ต้องบอกว่าในช่วงครึ่งแรกนั้นทางฝั่งของแมนยูถือว่าทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ครองเกมและมีโอกาสจบที่มากกว่า จนทางฝั่งของเชลซีเองแก้เกมและทำการเปลี่ยนตัวนักเตะทำให้เกมดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะได้ประตูขึ้นนำ แต่สุดท้ายเชลซีมาได้จุดโทษในช่วงท้ายของเกมแล้วและ จอจิญโญ่ ก็ยิงเข้าไปซึ่งในตอนนั้นเองส่วนตัวผมเองก็มองว่าน่าจะเก็บ3แต้มมาได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเพราะเวลาคือเหลือน้อยมากๆแล้ว แต่สุดท้ายมาโดนลูกโหม่งในช่วงนาทีสุดท้ายของเกมทำให้สุดท้ายจบลงด้วยการแบ่งกันไปคนละแต้มแบบสุดเดือดช่วงท้ายเกม5. บุกไปแพ้ไบรท์ตัน 4-1 : ถือเป็นความพ่ายแพ้ที่ขาดรอยอยู่เหมือนกันในเกมวันนี้ซึ่งก่อนเกมนั้นหลายฝ่ายต่างมองว่าทางฝั่งกุนซืออย่าง เกรแฮม พ็อตเตอร์ น่าจะมีวิธีในการรับมือทางฝั่งเจ้าบ้านเป็นอย่างดีแต่สุดท้ายแล้วต้องบอกว่าเกมในวันนั้นทางฝั่งของไบรท์ตันเองถือว่าทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้ทางฝั่งเชลซีเองจะมีการแก้เกมปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นแค่ไหน ก็ยังดูเป็นรองทางฝั่งของเจ้าบ้านอยู่ดีเกมรับที่เหมือนจะเสียประตูยากก่อนหน้านั้นก็ดูจะพลาดและเสียกันง่ายๆ ถือว่าหลุดฟอร์มกันไปหมดเลยแหล่ะครับสำหรับเกมในวันนั้นแต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าวันนั้นไบรท์ตันเองก็มาดีจริงๆเป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับฟอร์มการเล่นในช่วง5นัดหลังสุดในลีกของเชลซีแบ่งเป็นชนะ2 เสมอ2 แพ้1 ถือว่าฟอร์มยังดูน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน กับการต้องมาเจอกับอาร์เซนอลแม้จะมีความได้เปรียบอยู่บ้างคือการได้เล่นในบ้าน แต่ก็ถือว่าไม่ใช่งานง่ายอย่างแน่นอนที่จะมีแต้มในวันนี้ เครดิตรูปภาพภาพปก ภาพโดย : Chelsea Football Clubภาพที่ 1 ภาพโดย : Chelsea Football Clubภาพที่ 2 ภาพโดย : Chelsea Football Clubภาพที่ 3 ภาพโดย : Chelsea Football Clubภาพที่ 4 ภาพโดย : Chelsea Football Clubภาพที่ 5 ภาพโดย : Chelsea Football Clubภาพที่ 6 ภาพโดย : Chelsea Football Club ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !