เรือโจรสลัดสีฟ้า แมนซิตี้ ยังคงดุดันไล่ยิงถล่มคู่ต่อสู้แบบไม่ไว้หน้าอยู่เรื่อย ๆ ขนาดทีมร่วมเมืองเมนเชสเตอร์ ก็ไม่เว้น โดยถล่มไป 6 – 3 ทำเอาสาวกปีศาจแดงที่ตามไปเชียร์ที่เอดิฮัดส์ เดินออกจกสนามตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก เป็นหนึ่งในเกมที่สมบูรณ์แบบของเรือใบสีฟ้าอีกเกมหนึ่งในฤดูกาลนี้ ทำลายแทบจะทุกสถิติในเกมเดียว ทำให้เกมนี้มีหลายประเด็นที่ได้ถูกยกมาพูดถึง ว่าแล้วก็ไปดูกันหน่อยว่ามีประเด็นอะไรให้ได้พูดถึงกันบ้างหลังเกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้สถิติการทำประตูที่ถูกจากลึกใหม่ของเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ การเจอกันมาก่อนหน้านี้ 186 ครั้ง ไม่เคยมีเกมไหนที่ยิงกันถึง 9 ประตู นี่เป็นสถิติที่จะถูกกล่างถึงไม่ว่าต่อจากนี้จะเกิด แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ กี่ครั้งก็ตาม ไม่เพียงแค่การยิงประตูรวมกันสองทีมถึง 9 ประตู แต่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจอกันมาที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงนำห่าง ผู้มาเยือนปีศาจแดงถึง 4 ประตู ตั้งแต่ยังไม่สิ้นเสียงนกหวีดครึ่งแรก เมื่อก้าวเข้าสู่ครึ่งหลังของการแข่งขัน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาการทำประตูเพิ่มมากมายขนาดนี้ และก็เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมยิงกันในช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันถึง 5 ประตู ชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้เป็นชัยชนะเกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ครั้งที่สามติดต่อกัน แต่จะเป็นเกมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดนับต่อจากนี้แฮตทริกแรกของ ฟิล โฟเดน จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ แม้ว่าเกมนี้ แมนซิตี้ จะยิงได้ถึง 6 ประตู ก็จริงแต่ประตูทั้งหมดเกิดขึ้นจากผู้เล่นเพียงสองคนนั้นก็คือ เออริง ฮาร์แลนด์ และ ฟีล โฟเดน แฮตทริกจากคนแรกนี่ไม่ค่อยมีอะไรน่าหวือหวาเท่าไหร่ แต่สำหรับรายหลังนี่คือการทำแฮตทริกครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าก้าวเข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ของเรือใบสีฟ้าเมื่อปี 2017 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยิงไป 2 ประตู ในฤดูกาลใหม่นี้ สิ่งที่เหล่าสาวกเรือใบได้เห็นจากเจ้าหนูวัย 22 ปีรายนี้ก็คือเรื่องของการการเล่นที่มีทั้งความเร็ว การออกบอลที่ฉลาด รวมถึงการพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่สาสมารถทำประตูได้มากขึ้น นั่นหมายความว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอาวุธแดนหน้าที่พร้อมจะทะลวงประตูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการที่พาเรือแหง่นี้ไปสู่ฝั่งที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า UCL ได้เดอบรอยน์ และ ฮาแลนด์ คู่หูใหม่ที่พร้อมทำลายคู่แข่ง เควิน เดอบรอยน์ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คู่หูใหม่อาวุธที่จับมือกันสร้างความเสียหายให้กับคู่แข่งแทบทุกทีม คนหนึ่งเซนบอลการจ่ายที่เหนือความคาดหมาย อีกคนก็พร้อมจะเข้าที่ในจุดที่กองหลังคาดไม่ถึง มันคือการสอดประสานของกองกลางที่ดีที่สุดกับศูนย์หน้าที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ของพรีเมียร์ลีก ทำไมถึงกล้าพูดเช่นนั้น ด้วยสถิติจากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 8 เกม ทำไป 8 แอสซิสต์ สำหรับ เควิน เดอบรอยน์ ส่วนทางด้านของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ผ่านไป 8 เกม ยิงไปแล้ว 14 ประตู จากสองตัวเลขนี้ก็คงไม่มีมีใครกล้าเถียงอะไร หากลองหลับตานึกภาพว่าสองคนนี้คว้าแชมป์UCL ที่ใฝ่ฝันด้วยกัน จะเป็นหนึ่งฤดุกาลที่ยอดเยี่ยมของสโมสรแห่งนี้ที่แฟนบอลไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอนเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แข็งแกร่งเกินจะหยุดได้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนแรกที่ทำแฮตทริกในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ ฟรานซิส ลี ที่เคยทำได้เมื่อเดือนธันวาคม 1970 นอกจากนั้นเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกได้ 3 เกมในบ้านติดต่อกัน จนเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วใครจะมาหยุดเขาได้กับฟอร์มที่ร้อนแรงขนาดนี้ ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่พรีเมียรลีกจะเริ่มต้น นี่คือนักเคะที่ถูกมองว่าไม่น่าจะรอดในพรีเมียร์ลีก ต่างก็โดนวิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ แต่ผ่านมาถึงตรงนี้เสียงวิจารณ์ที่เซ็งแซ่ ต่างก็เงียบหายไปราวกลับหมอกควันที่โดนพายุพัดไปไม่เหลือแม้แต่กลิ่นของควัน แต่ตอนนี้กลับถูกตั้งคำถามว่าเขาจะทำลายสถิติอะไรอีกบ้างหลังจากนี้ แมนซิตี้ แม้ว่าจะฟอร์มโหดนพรีเมียร์ลีกก็จริง แต่สำหรับรายการUCL ยังเป็นกำแพงสูงใหญ่ที่รอวันที่จะก้าวข้ามไปให้ถึงฝั่งฝัน อย่าลืมว่ารายการระดับโลกแบบนี้ มักจะมีอะไรที่ทำให้เหล่าแฟนบอลได้ประหลาดใจเสมอ อะไรที่ว่าแน่ ๆ ก็ยังพลิกผันได้ตลอดเวลาสำหรับรายการนี้ นี่เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ว่าเรือใบสีฟ้าแข็งแกร่งพอที่จะก้าวข้ามกำแพงที่ผิดกันพวกเขาได้หรือไม่ข่าวที่เกี่ยวข้อง แมนซิตี้ vs แมนยู พาส่องแผนแด็ด เอริค เทนฮาก ที่จะใช้จม เรือใบสีฟ้าวิเคราะห์แผน แมนยู เหตุใดถึงกล้าใช้แผนที่เสี่ยงขนาดนี้?นิวคาสเซิล vs แมนซิตี้ วิเคราะห์บอล สาริกาหวังล้างแค้น เรือใบพร้อมทะยานจ่าฝูงแมนซิตี้ vs ดอร์ทมุนด์ วิเคราะห์บอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก เรือใบจัดเต็มแนวรุกเซบีย่า vs แมนซิตี้ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เจ้าบ้านกำแพงแกร่ง พร้อมรับอาวุธหนักเรือใบเครดิตภาพปก twitter.com/ManCity :: ภาพปกเครดิตภาพปก twitter.com/ManCity :: ภาพที่1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่4 , ภาพที่ 5 Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์