"ผมไม่รู้สึกว่าจะเดินให้ช้าลงนะ แต่ต้องการปรับปรุงมันอยู่เสมอ"มาร์คัส แรชฟอร์ด กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังเกมส์กับเลสเลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มจิ้งจอกสยามไป 3 - 0 โดยแรชฟอร์ดซัดคนเดียวสองประตู เขากล่าวด้วยความถ่อมตัวว่ายังคงต้องการพัฒนาการเล่นต่อไป แม้ว่าจะทำได้ถึง 16 ประตูในเกมเหย้า จาก 19 เกมหลังสุดผลงานของดาวยิงวัย 25 ปี ในฤดูกาล 2022/2023 นับตั้งแต่จบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 จัดว่าโดดเด่น ฤดูกาลยังไม่จบเขายิงให้ต้นสังกัดไปแล้ว 24 ประตู คิดเป็นเกือบห้าเท่าของสกอร์ฤดูกาลที่แล้วซึ่งยิงได้เพียง 5 ประตู ตลอดทั้งซีซั่น นอกจากนี้ ยังเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่การเดบิวต์ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในฟุตบอลยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2015/2016 ที่พบกับมิดทิลแลนด์ ทีมจากเดนมาร์ค และทำได้สองประตู ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของปิศาจแดงที่ลงเล่นในฟุตบอลยุโรปด้วยวัยเพียง 18 ปี 3 เดือน 25 วัน จากนั้นในปีต่อๆ มา แรชฟอร์ด ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเลย และทำประตูได้เฉลี่ย 15 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาล ซึ่งถือว่าไม่แย่เลยสำหรับเด็กดาวรุ่งที่ต้องลงสนามไปห้ำหั่นกับผู้เล่นแข็งแกร่งดุดันในอังกฤษและยุโรปเขากล่าวต่อว่า "โดยรวมแล้วเป็นวันที่ดี พวกเขา (เลสเตอร์) สร้างโอกาสได้ดี และเดวิด (เดเคอา) ก็เซฟได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงท้ายครึ่งแรก ไม่เช่นนั้น เราก็ไม่สามารถชนะเกมนี้ได้"“มันยังเป็นช่วงต้นฤดูกาล เรากำลังต่อสู้เพื่อหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกัน และเรามีเกมใหญ่ในสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปของยูโรป้า ลีก และจากนั้นจะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา (กับนิวคาสเซิลในรอบชิงชนะเลิศคาราบาวคัพ]จากนั้นเขากล่าวเสริมเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการแข่งขันชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก "เราเข้าใกล้มันแล้วนะ แต่ทั้งสองทีมที่อยู่ข้างหน้าเราเป็นทีมที่ดี และเล่นฟุตบอลที่ดี เราต้องโฟกัสกับตัวเอง ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และเก็บแต้มต่อไป" "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์สี่รายการ ได้แก่ ยูโรป้าลีก คาราบาว คัพ เอฟเอ คัพ และพรีเมียร์ลีกสิ่งที่น่าสนใจคือ การตอบคำถามนักข่าวของมาร์คัส แรชฟอร์ด ได้แสดงถึง mind set แห่งความมุ่งมั่น การเป็นนักสู้และผู้ชนะในการพัฒนาตนเองเพื่อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฟนบอล ไม่หลงระเริงกับคำชื่นชมและผลงานสุดยอด เราสามารถกล่าวได้ว่า แรชฟอร์ด นอกจากฝีเท้าที่ดีแล้วเขายังมีจิตใจที่แข็งแกร่ง หลังจากความผิดหวังในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งทีมชาติอังกฤษของเขาต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย และฝันร้ายจากนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลยูโร 2020 โดยเขาเป็นหนึ่งในคนที่พลาดจุดโทษ และพ่ายอิตาลีอย่างเจ็บปวด จนทำให้เขาถูกแฟนบอลบางคนตามรังควานและเหยียดหยันในรูปแบบต่างๆ แต่ก็สามารถผ่านเรื่องเหล่านี้มาได้ด้วยการทำผลงานในสนามให้ดี นอกจากนี้ ยังให้เครดิตกับเพื่อนร่วมทีมที่โชว์ฟอร์มเซฟประตูสำคัญ กระตุ้นเพื่อนร่วมทีม ส่งผลให้บรรยากาศในทีมเต็มไปด้วยสปิริตและการมองถึงชัยชนะในแต่ละนัด เพื่อช่วยกันคว้าแชมป์ทุกรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสมานานกว่าสิบปี นับตั้งแต่เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน สุดโคตรบรมกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่วางมือหลังพาทีมคว้าแชมป์ลีกแดนผู้ดีในฤดูกาล 2012/2013 แม้ทีมจะมีผู้จัดการทีมระดับโลกหลายคนผ่านเข้ามา แต่ก็ยังไม่เคยได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลยจนถึงปัจจุบันทั้งนี้ ภาพของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในสายตาแฟนฟุตบอลทั่วไปและตัวผมเองซึ่งเป็นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ เด็กดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนและสร้างผลงานในสนามได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว ความคล่องตัว การเลี้ยงบอล และการยิงจบสกอร์ที่เฉียบคม และเป็นนักเตะใจบุญช่วยเหลือคนที่ขาดโอกาส จนปัจจุบันเขาอายุ 25 ปีแล้ว ย่างเข้าสู่ช่วงพีคที่สุดของการเป็นนักฟุตบอล ผมเชื่อว่าด้วยกรอบความคิดแห่งความเป็นผู้ชนะและนักสู้ของดาวเตะ 25 กะรัต ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นอยู่ในฤดูกาลนี้ของแรชฟอร์ด ทั้งการคุมทีมที่ยอดเยี่ยมและระบบการเล่นที่เห็นอนาคตในทางบวกของเอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัชต์ และบรรยากาศภายในทีม ล้วนผลักดันให้นักเตะผีแดงหมายเลข 10 คนนี้ สามารถกลายเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะพาทีมผีแดงคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน หากแม้จะผิดหวังแต่ก็ถือได้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์หลับแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษกำลังจะตื่นขึ้นในอีกไม่ช้ามาร์คัส แรชฟอร์ด เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1997 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ตำแหน่งการเล่นคือ ตัวรุกฝั่งซ้าย ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 339 นัด ยิงไป 117 ประตู และติดทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 51 นัด ยิงไป 15 ประตูภาพประกอบภาพปก จาก Facebook / Manchester Unitedภาพที่1 จาก Facebook / Manchester Unitedภาพที่2 จาก Marcus Rashford / Instagramภาพที่3 จาก Facebook / Manchester Unitedภาพที่4 จาก Marcus Rashford / Instagramภาพที่5 จาก Facebook / Manchester UnitedCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์