สิ้นสุดฟุตบอล ยูฟา เนชันส์ ลีก ระหว่าง อังกฤษ กับ เยอรมนี ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 ที่สนาม เวมบลีย์ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (26 ก.ย.) เสียงวิจารณ์ของแฟนๆ “สิงโตคำราม” รุมกระหน่ำ แฮร์รี แม็กไกวร์ กัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากความผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูแบบง่ายๆ ตัวกระผมแทบไม่อยากนึกภาพเลยว่า หาก “เจ้าหัวโต” เล่นแบบนี้บนเวที ฟุตบอลโลก 2022 คงจะดูไม่จืดเลยทีเดียวย้อนดูความผิดพลาดประตูแรก แม็กไกวร์ ส่งบอลเข้าเท้า จามาล มูเซียลา ตัวรุกอนาคตไกล “อินทรีเหล็ก” แล้วยังทำเสียจุดโทษ ก่อน อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์สังกัด แมนเชสเตอร์ ซิตี สังหารตุงตาข่าย ถัดมา ปราการหลังค่าตัว 80 ล้านปอนด์ เหมือนถูกองค์ “ไกเซอร์ฟรานซ์” ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ลิเบอโรระดับตำนานแห่งเมืองเบียร์ มาประทับแล้วออกจากร่างทันที จังหวะทะลึ่งพาบอลตะลุยขึ้นไปถึงแดนบนจนถูกตัดแล้วสวนกลับเร็ว เป็น ไค ฮาเวิร์ตซ ปั่นด้วยซ้ายนอกเขตสุดสวยก่อนหน้านี้ แม็กไกวร์ ยังคงไว้ลาย แนวรับสาย Content เกมแพ้ อิตาลี 0-1 ที่เมืองมิลาน จังหวะไม่ได้มองกองหน้าฝ่ายตรงข้าม ปล่อยให้โหม่งมุมแคบชนสามเหลี่ยม ก่อนเคลียร์บอลทิ้งด้วยอาการลนลาน ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เลย หากเขาเป็นกองหลังที่มีทักษะเชิงบอลสักหน่อย ก็จะต้องเก็บบอล มองหากองกลางตัวเชื่อมเกม แล้วให้บอลทำเกมบุก แทนที่จะเสียลูกเตะมุมแบบไม่ควรเสีย ทำให้เพื่อนๆ ต้องเหนื่อยลงมาตั้งรับกันอีก เห็นแล้วมันช่างน่าละเหี่ยใจเหลือเกินลองย้อนดูภาพดีๆ ของ แม็กไกวร์ ตอนอยู่ เลสเตอร์ ซิตี หรือ ติดทีมชาติชุดอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย กับ รองแชมป์ยูโร 2020 (เตะจริงปี 2021) จะเห็นว่า “ร่างทอง” ของเขาเกิดจากวิธีการเล่นของโค้ช ทั้ง “สุนัขจิ้งจอก” กับ ทีมชาติอังกฤษ ใช้แท็กติกระวังหลัง ยามเจอคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่า จะช่วยกันรับทั้งทีม แล้วเล่นเกมรุกน้อยจังหวะ และยามเจอคู่ต่อสู้ที่ด้อยกว่า แม็กไกวร์ มักจะเล่นแบบสบายๆ เพราะตัวรุกไม่มีพิษสงใดๆ ที่น่าหนักใจ ถ้าจะสู้กันด้วยร่างกาย ถูๆ ไถๆ เบียด หรือกระแทก ด้วยสรีระของเขาจึงไม่ได้เสียเปรียบมากนักตามระบบการเล่น ไม่ว่าจะหลัง 3 คน หรือ 4 คน แม็กไกวร์ จะมีตัวช่วยมากมาย ผู้เล่นแดนบนลงมาช่วยไล่, มีมิดฟิลด์ตัวรับ 2 คนเป็นด่านหน้า หรือบางทีจะมี 2 สต็อปเปอร์คอยพลีชีพ แต่พอย้ายสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด วิธีการเล่นของ “ปิศาจแดง” จะแตกต่างกับ เลสเตอร์ฯ คือ ต้องเปิดเกมรุกใส่คู่ต่อสู้เสียส่วนมาก บางครั้งแผงกองหลังต้องดันขึ้นสูง เพื่อบีบช่องไฟระหว่างหลัง-กลาง-หน้า ให้แคบลง เวลาโหมบุกเพื่อทำสกอร์ ดังนั้นเราจึงเห็น แม็กไกวร์ มักสับสนตำแหน่ง เพราะด้วยคุณสมบัติของเขา ไม่ใช่แนวรับประเภทผู้บัญชาการ และพอมาเจอยุคที่เพื่อนร่วมทีมเดินเล่น หรือกึ่งเดินกึ่งวิ่ง มันก็ยิ่งเลวร้ายหนักขึ้นอีกนอกจากนี้ แม็กไกวร์ ยังเป็นจุดอ่อนตามเทรนด์ฟุตบอลปัจจุบัน ซึ่งเน้นเกมเพรสซิง (บีบพื้นที่กดดันคู่ต่อสู้) เพราะชอบเก็บบอลไว้กับตัวนานเสมือนกองหลังเชิงสูง เดี๋ยวล็อกไปล็อกมา เดี๋ยวเอาบอลมาเหยียบบ้าง หรือ เดี๋ยวเลี้ยงลุยขึ้นไปเองบ้าง พอถูกคู่ต่อสู้เข้าประชิดเร็วก็จะเกิดความผิดพลาด แล้วเสียประตูง่ายๆ และนั่นคือสิ่งที่แฟนบอลทุกทีมเห็นความบกพร่องของ แม็กไกวร์ จนชินชาด้วยฟอร์มแบบนี้ ไม่ต้องมีอาการบาดเจ็บรบกวน แม็กไกวร์ ก็คงไม่ได้ลงเล่น “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี” เนื่องจากคู่เซ็นเตอร์แบ็ก ราฟาเอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กำลังเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทำให้เกมรับพลพรรค “เรด เดวิลส์” ดูกระชับกว่าฤดูกาลที่แล้วเยอะ ดังนั้นโอกาสพิสูจน์ฝีเท้าของ แม็กไกวร์ จึงเหลือแค่เกมฟุตบอลถ้วยอย่าง คาราบาว คัพ หรือ ยูฟา ยูโรปา ลีก เท่านั้น กรณี วาราน กับ มาร์ติเนซ ยังไม่ถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปเสียก่อนหากคุณยังคงศรัทธาต่อ แม็กไกวร์ มันก็ยังพอมีความหวังที่จะกลับสู่ฟอร์มเก่งได้ครับ โดยเริ่มจากคำว่า “Back to basic” หน้าที่กองหลัง คือ ป้องกันประตู อย่าไปทำเกินเลย ทำเกมรุกเองหรือครองบอลไว้นานๆ เห็น มิดฟิลด์ลงมารับบอล ก็ให้บอลเขาไป ทำทุกอย่างให้ง่ายที่สุด เพื่อลดความผิดพลาด พอความมั่นใจเริ่มกลับมา แล้วค่อยต่อยอดในสิ่งที่ยากขึ้นตามลำดับ หากยังดันทุรังเล่นแบบเดิมก็จะเกิด Content ให้แฟนบอลได้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ เครดิตภาพภาพปก Twitter/HarryMaguire93ภาพที่ 1 Twitter/Englandภาพที่ 2 Twitter/Englandภาพที่ 3 Twitter/HarryMaguire93ภาพที่ 4 Twitter/HarryMaguire93Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์