เทคนิคเป็นผู้ชายตัวหอมทำได้อย่างไร เคล็ดลับเพิ่มเสน่ห์น่าเข้าใกล้

ปัญหากลิ่นตัวในผู้ชายมักเป็นปัญหากวนใจทั้งส่วนตัว และคนรอบข้างด้วยฮอร์โมนของผู้ชายก็เป็นตัวแปรในการเกิดกลิ่นตัวบวกกับสภาพอากาศที่ร้อนก็ยิ่งทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ง่าย หากปล่อยให้เกิดกลิ่นตัวสะสมไปเรื่อยๆ อาจยิ่งทำให้ความทวีคูณของกลิ่นนั้นมากขึ้นส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพได้ แต่ถ้าคุณได้รู้เทคนิคเป็นผู้ชายตัวหอมว่าทำได้อย่างไร เทคนิคง่ายๆ นี้อาจสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้แล้วจะมีวิธีใดบ้างมาดูกัน
เทคนิคเป็นผู้ชายตัวหอมทำได้อย่างไร เคล็ดลับเพิ่มเสน่ห์น่าเข้าใกล้
วิธีการดูแลตัวเองให้หอมนั้นมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอก อาจดูเหมือนมีรายละเอียดมากแต่หากทำจนเป็นกิจวัตรประจำวันแล้วรับรองได้ว่ามีประโยชน์ต่อตัวคุณอย่างแน่นอน
1.ดูแลสุขอนามัยขั้นพื้นฐานให้ดีและถูกต้อง
- อาบน้ำอย่างมีคุณภาพ
อาบน้ำหรือชำระร่างกายเป็นประจำ อาบน้ำหรือชำระร่างกายทุกวันโดยใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำ เพื่อกำจัดเหงื่อ สิ่งสกปรก แบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับบริเวณที่เหงื่อมักสะสม เช่นใต้วงแขน หลังคอ ขาหนีบ และเท้า เลือกสบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีกลิ่นหอมที่คุณชอบ ถูสบู่ให้เกิดฟองลูบไล้ให้ทั่วตัวล้างออกให้สะอาด ที่สำคัญอย่ารีบควรให้เวลาและความพิถีพิถันทุกครั้งในการอาบน้ำ การล้างตัวด้วยน้ำเปล่าก่อนลงสบู่ก็มีความสำคัญในขั้นตอนนี้คุณสามารถถูบริเวณที่เหงื่อมักสะสมก่อนที่จะลงสบู่จะช่วยขจัดกลิ่นตัวได้ดี
- เช็ดตัวให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณรอยพับของผิวหนัง ผิวที่ชื้นอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย จำไว้เสมอว่าตัวต้องแห้งก่อนใส่เสื้อเสมอ และตากผ้าขนหนูให้โดนแดดและมีลมผ่านหลังใช้ทุกครั้ง
- สระผมเป็นประจำไม่หมักหมม
หนังศีรษะของคุณก็สามารถผลิตน้ำมัน และกลิ่นได้เช่นกันหลายคนอาจสระผมวันเว้นวัน แต่หากในวันที่มีเหงื่อออกมากหรือหลังการออกกำลังกายควรสระผมทุกครั้ง ควรนวดโคนผมให้สะอาดล้ำลึกเพื่อขจัดคราบน้ำมันและกลิ่นออกหลังสระผมเสร็จควรเป่าผมให้แห้งด้วยลมเย็นไม่ควรปล่อยให้แห้งเองเพราะจะเป้นการสะสมกลิ่นความอับชื้น และเชื้อแบคทีเรีย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และลดเหงื่อ
ควรเลือกใช้โรลออน หรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดเหงื่ออันเป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นตัว หากคุณเป็นคนใช้น้ำหอมควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นอ่อนหรือไม่มีกลิ่น คุณสามารถใช้สารส้มในรูปแบบโรออนที่นำไปพรมน้ำพอเปียกทาใต้วงแขนคุณซ้ำๆ ก่อนใช้โรลออนได้ เนื่องจากสารส้มมีไอออนของอะลูมิเนียมซึ่งช่วยให้เนื้อเยื่อผิวหนังหดตัว และรูขุมขนหดตัวชั่วคราว เมื่อทาบริเวณใต้วงแขน (หรือบริเวณอื่นๆ ที่มักมีเหงื่อออก) ไอออนของอะลูมิเนียมในสารส้มสามารถช่วยให้ท่อต่อมเหงื่อหดตัวได้ การหดตัวนี้จะช่วยลดปริมาณเหงื่อที่สามารถเข้าถึงผิวได้ จึงช่วยระงับเหงื่อออกได้
2.ใส่ใจกับเสื้อผ้าที่คุณใช้
ไม่ควรหมักหมมเสื้อผ้าเป็นเวลานานก่อนซักเพราะยิ่งทำให้เนื้อผ้าสะสมกลิ่นเหม็นมากขึ้น หากยังไม่ถึงวันซักหลังจากถอดเสื้อผ้าควรนำผ้าชุดนั้นไปผึ่งลมให้หมดความชื้นก่อนนำมาใส่ตะกร้าเพื่อรอซัก อีกรายละเอียดหนึ่งที่สำคัญคือการแยกตะกร้าผ้าในส่วนของเสื้อ กางเกง ชุดชั้นใน และถุงเท้าควรแยกกัน
ก่อนซักเสื้อควรใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคราบป้ายใต้วงแขนด้านในเสื้อขยี้เบาๆ พักไว้ 10-15 นาทีก่อนนำไปซักจะช่วยให้ลดการหมักหมมของคราบเหงื่อได้ และควรตากผ้าในที่ที่มีลมและแสงแดดที่จะทำให้ผ้าคุณแห้งในวันนั้นได้ไม่ควรตากข้ามวัน หากสามารถอบแห้งผ้าได้จะยิ่งเป็นทางเลือกที่ดี
สำหรับถุงเท้าที่มีกลิ่นเหม็นซักอย่างไรก็ไม่หายควรนำไปทิ้งเพราะอาจนำพากลิ่นไปติดถุงเท้าคู่ใหม่ๆ ของคุณรวมถึงจะยิ่งทำให้เท้าของคุณเหม็นขึ้นด้วย
เคล็ดลับเพิ่มความหอมยิ่งขึ้นให้กับเสื้อผ้าของคุณควรหาแผ่นอบผ้าหอม หรือถุงหอมใส่ตู้เสื้อผ้าของคุณเพื่อลดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าและเพิ่มความหอมได้
3.ใส่ใจกับความสะอาดในช่องปากของคุณ
ควรใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำหลังแปรงฟัน และระหว่างวันเพื่อช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคออกจากซอกฟัน ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นปากได้ หลังแปรงฟันทุกครั้งควรแปรงลิ้นเพื่อแบคทีเรียสามารถสะสมบนลิ้นของคุณ และเพิ่มการใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อให้ลมหายใจคุณสดชื่นมากขึ้น พกลูกอม หรือหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลสามารถช่วยให้ลมหายใจสดชื่นได้อย่างรวดเร็วในระหว่างวัน
4.เลือกใช้น้ำหอมที่เหมาะกับตัวคุณ
ในวันธรรมดาที่ไม่ได้มีงานสังคมอาจเลือกใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นสะอาดๆ และไม่แรงมาก ทาน้ำหอมบริเวณจุดชีพจร เช่น ข้อมือ คอ หลังใบหู และด้านในข้อศอก บริเวณเหล่านี้สร้างความร้อน ซึ่งช่วยกระจายกลิ่น โดยอาจเลือกจุดใดจุดหนึ่งได้ คุณสามารถหาแฮนด์ครีมกลิ่นอ่อนๆ ไว้ทาหลังล้างมือเพื่อเพิ่มความหอมระหว่างวัน โดยเฉพาะผู้ชายที่สูบบุหรี่ควรล้างมือและซอกเล็บให้สะอาดทุกครั้งเพื่อลดการเกิดกลิ่นสะสม
5.เลี่ยงอาหารที่ทำให้กลิ่นตัวแรง
อาหารบางชนิดหากทานมากไปหรือทานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวรุนแรงได้ อาหารบางชนิดที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวและกลิ่นปากที่แรงได้แก่ กระเทียม หัวหอม แกง และเนื้อแดง แต่สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม และควรดื่มน้ำให้พอต่อความต้องการในแต่ละวันก็จะช่วยลดการเกิดกลิ่นตัวและกลิ่นปากได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เล็บมือผู้ชายดูแลอย่างไรให้ประทับใจสาว สะอาดน่ามองบุคลิกภาพดี แบบง่ายๆ
- รวมรองเท้าผ้าใบผู้ชายสาย luxury แบรนด์ไหนดีราคาเท่าไหร่ ใส่ได้หลายโอกาส
- น้ำหอมผู้ชายกลิ่น Green Aromatic ยี่ห้อไหนดีหอมสดชื่นชวนหลงไหล
- 10 วิธีประหยัดเงิน ออมเงิน สำหรับมนุษย์เงินเดือน
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย