ฟุตบอลเขาเตะกัน 90 นาที แต่ไอ้ช่วง 10 - 15 นาทีแรกเนี่ยะไม่รู้เป็นอะไร ลิเวอร์พูลมักจะโดนทะลวงไส้ช่วงนี้ทุกที ผมเหลือบตาดู Line up ตัวผู้เล่นแมทซ์นี้ เฮ๊ย! ก็ไมได้แย่นะ! วันนี้มีทั้ง Virgil van Dijk และ Joël Matip ส่วนแบ็คขวาตัวเก่งเกมรุกแต่กากเกมรับอย่าง Trent Alexander-Arnold ก็ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะได้ลง ส่วนที่เหลือตำแหน่งอื่นก็ค่อนข้างจะฟูลทีม งานนี้เตะในบ้านลิเวอร์พูลไม่แพ้แน่ บอกเลยว่านอนเต็มฝันหลับเต็มตื่น ตื่นเช้ามาไม่ต้องอายใครใส่เสื้อเชียร์เดินห้างได้เลย ซึ่งก็เห็นจะจริงอย่างที่ผมเดา แมทซ์นี้พลพรรคหงส์แดงไม่ได้โดนยิงนำก่อน แต่ก็มีพลาดมาโดนตีเสมอเร็วไปหน่อย ถ้าได้ดูสดก็คงจะมีอาการเกร็งเสียวกันไปบ้าง ทว่าด้วยศักยภาพตัวรุกที่ฟูลทีมคับแก้ว จะวิกฤตศรัทธาหรือน้ำป่าไหลหลาก ก็หยุดนกยักษ์ตัวนี้ไม่ให้โบยบินไม่ได้หรอกครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าในเกมมีรายละเอียดอะไรที่เด็ดๆบ้าง ทีเด็ดทีขาดมันอยู่ตรงไหน และอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ ยิ้มแป้นตอนจบเกม 1. ถึงไม่โดนยิงนำ แต่ก็เกือบโดนถึง 2 ครั้ง!ในนาทีที่ 8 ของการแข่งขัน จากตั้งเกมจะบุกใส่เขาอยู่ดีๆ เวสต์แฮมกลับได้บอลสวนกลับมา มีการถ่ายบอลลื่นไหลต่อเนื่อง โล้แผงเกมรับลิเวอร์พูลให้เป๋ไปเป๋มาสับสนตำแหน่ง ก่อนจะเป็นใครสักคนที่เปิดบอลโด่งๆโรยๆเข้ามาในกรอบเขตโทษ Tomáš Souček ขึ้นโขกอยู่คนเดียว ท่ามกลางความว่างเปล่าที่ผู้เล่นลิเวอร์พูลเปิดสัมปทานเอาไว้ให้ พื้นที่นั้นกว้างขวางมากจนสามารถตั้งโต๊ะหมูกระทะได้ถึง 3 โต๊ะเลยทีเดียว ทว่าก็เป็น Tomáš Souček เองนั่นแหละที่ไม่ดีพอ Alisson เลยโชว์ซุปเปอร์เซฟเอาไว้ได้ และหลังจากนั้นก็มีอีกจังหวะหนึ่งที่คล้ายๆกัน คราวนี้เป็น Michail Antonio ที่ได้โหม่งจ่อๆ จากการประกบห่างของ Joe Gomez ถ้าใครยังจำกันได้ก็พ่อหนุ่ม Antonio นี่แหละครับ ที่ทำแสบกับลิเวอร์พูลเอาไว้มาก เมื่อฤดูกาลก่อนก็จะเป็นเขาที่เข้าไปป่วน Alisson ไปยืนพิงบ้าง , ไปเอาตูดดันๆไว้บ้าง , ทำท่าเป็นจับรองเท้าดึงถุงเท้าบ้าง เพื่อขวางทางการเล่นของ Alisson แต่วันนี้เห็นทีจะไม่ใช่วันของเจ้าตัว เพราะขนาดโหม่งโล่งๆจ่อๆ พี่แกยังสะบัดหลุดเสาออกไปได้อย่างหน้าตาเฉย ผจก.อย่าง David moyes นี่ถึงกับเกร็งคอลุ้นช่วยอยู่ข้างสนาม หงส์เกือบไปแล้ว เกือบจะโดนยิงขึ้นนำอีกแล้วตามสถิติ 2. ซาร่าเรียกจุดโทษได้ ส่งทีมขึ้นนำ 1 - 0 จังหวะนี้เป็นการประสานงานกันแบบตะกุกตะกักของ 3 ตัวรุกลิเวอร์พูล เริ่มมาจากการกระชากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ Luis Díaz หัวหอกมนุษย์ชนเผ่า เขาเลี้ยงบอลจี้ๆๆๆรอจังหวะจนได้เปรียบ แล้วจึงแทงบอลต่อให้ Darwin Núñez หอกจอมโหดแห่งอุรุกกวัย เดชะบุญที่ฝ่ายหลังดันเร็วเกินไป ลูกบอลเกเรไม่เชื่องเท้า จนเกิดเป็นการส่งบอลแบบดิจิตอลดีดลูกส้น ที่ต่อให้ทำอีกแปดทีก็ไม่มีทางกดสูตรนี้ติด! Mohamed Salah ผู้ควบตามหลังมาด้วยสัญชาตญาณเลยเก็บลูกนี้ไปกิน เขาเตรียมจะตะบันด้วยซ้ายข้างถนัดอยู่รำไร แต่ก็มาโดนกองหลังเวสต์แฮมแหย่ขาเข้ามาขวางเอาไว้ก่อน บอลกระฉอกกลิ้งหลุนๆๆๆ ลุ้นให้ใครมาสำเร็จโทษ สาบานได้ครับคุณผู้อ่าน วินาทีนั้นผมลุ้นชิบเป๋งว่าอย่าให้ Darwin Núñez เก็บบอลไปเล่น ผมว่าแกยิงออกแน่! ภาพการโหม่งจ่อๆในระยะเพียง 2 ไม้บรรทัดแล้วติดมือประตู เมื่อนัดกลางสัปดาห์ยังติดตาผมอยู่เลย Núñez เอาไปทำเสียของแน่ถ้ากรรมการเห็นเป็นลูกได้เปรียบ ดีใจชิบหายครับที่จู่ๆ เสียงนกหวีดก็ดังขึ้นมา ก่อนจะเป็น Mohamed Salah ที่ซัดจุดโทษลูกนี้เข้าไป ส่งทีมขึ้นนำ 1 - 0 ด้วยรูปเกมที่ดูดีเป็นต่อคู่แข่ง 3. เสียประตูจนได้! เติร์ดไทม์ลัคกี้ของเวสต์แฮมเห็นจะเป็นจริง!โหม่งครั้งแรกของ Tomáš Souček โหม่งครั้งที่สองของ Michail Antonio และครั้งที่สามก็เป็นการโหม่งของ Jarrod Bowen ที่ครั้งนี้ส่งบอลข้ามเส้นประตูได้สำเร็จ ประตูนี้เวสต์แฮมทำเกมรุกกันแค่ 3 คน เริ่มมาจาก Bowen ที่โหม่งบอลชงต่อให้ Antonio กองหน้าผิวสีป้ายบอลต่อเร็วให้ Vladimír Coufal ที่เติมขึ้นมาทางริมเส้น ก่อนจะบรรจงเปิดโค้งๆเข้าไปให้ Jarrod Bowen พุ่งตัวเข้าไปโหม่ง ทำไมไม่รู้แต่ผมว่าลูกนี้ Virgil van Dijk น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ตัวแกใหญ่และอยู่ข้างหน้าแท้ๆ แต่ดูเหมือนความเร็วและความคล่องตัวจะตกลงไป ลูกนี้เลยโดน Jarrod Bowen โฉบตัดหน้าจนกลายเป็นประตูในท้ายที่สุด บางทีถ้า Bowen ไม่พุ่งโถมมาทั้งตัวและตัดสินใจใช้เท้าเล่น Van Dijk ก็อาจจะหยุดลูกนี้ไว้ได้ก็ได้ อันนี้ผมไม่รู้เลย? แล้วแต่ใครจะมองยังไงเลยครับ? 4. Darwin Núñez ผมใกล้จะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ! หลายครั้งหลายคราวแล้วครับ ที่หน้าเป้าราคาแพงผู้นี้ยิงบอลแล้วไม่เป็นประตู เราต้องตัดภาพจำในอดีตไปก่อน จริงอยู่ครับว่าในนัดที่เจอกับนิวคาสเซิลเขาคือฮีโร่ แต่กับแมทซ์อื่นๆรวมถึงแมทซ์นี้ Núñez แกพลาดบ่อยเกินไปรึเปล่า? จังหวะตอนท้ายครึ่งแรกที่ซาร่าห์จ่ายให้ผมยังพอรับได้ว่ามุมมันบีบ แต่กับจังหวะนี้ในช่วงครึ่งหลัง ซาร่าห์บรรจงส่งให้ใกล้ๆในกรอบเขตโทษเลย อีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นหกหลาของมือประตูอยู่แล้ว ไม่มีใครประกบ ไม่มีใครจะสกัดกั้นเขาได้สักคน แต่ Darwin Núñez ก็เอาอีกแล้ว! คือแกเตะออกไปได้ยังไง? ลูกนี้ยังไงก็ต้องเข้า! แว๊บหนึ่งกล้องจับภาพไปที่ซาร่าห์แกยังทำหน้าเซ็งๆเลย เกมเสมอกันอยู่แบบนี้ เป็นศูนย์หน้ามันต้องสร้างความแตกต่างได้ คิดเล่นๆนะครับคุณผู้อ่าน ว่าถ้า Darwin Núñez แกเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟจะเป็นยังไง เป็นกองหน้าแกยังพลาดเป็นสิบๆครั้ง ถ้าเป็นกองหลังทีมจะไม่เสียเป็นสิบประตูไปแล้วเหรอ? นับจังหวะยิงวืดยิงเว่าของแกทุกนัดรวมกัน ผมว่ามันมากกว่าของ Trent Alexander-Arnold กับ Joe Gomez รวมกันซะอีกนะครับ! วู้ววว! หงุดหงิดมากหัวร้อนสุดๆ! 5. Darwin Núñez เอ้อ! มันต้องอย่างงี้สิวะ! (เอ็งก็ยิงประตูเป็นนี่)นี่คือนักฟุตบอลที่ผมเอาใจช่วยมาตลอด อยากให้เขายิงได้เยอะๆจะได้มั่นใจ ประกอบกับตอนที่เล่นอยู่เบนฟิก้าเขาก็เก่งชิบเป๋ง ยิงท่าไหนก็ได้ ยิงมุมไหนก็เข้า ผมเห็นเขาอยู่ในระดับเดียวกับฮาลันท์ของแมนซิตี้เลยด้วยซ้ำ และหลังจากหมดศรัทธาไปได้พักหนึ่ง Darwin Núñez ก็เหมือนได้ยินเสียงบ่นจากมวลมนุษยชาติ! เขาทำประตูได้จริงๆ ยิงแบบไม่ต้องแรง เอาแค่พอได้ทางและผ่านมือประตูได้ แค่นี้ก็ใส่สกอร์ได้แล้ว ให้มันได้อย่างงี้สิวะดาร์วิน! พอเอ็งยิงได้ทีมก็สบายขึ้นเยอะเลยเห็นไหม?! 6. Mohamed Salah จ่ายบอลดีมาหลายนัดแล้ว!เข้าสู่ปี ค.ศ.นี้ นักเตะลิเวอร์พูลที่เคยเล่นร่วมกับ Salah ก็หายหน้าหายตาออกจากทีมไปกว่าครึ่งแล้ว ฟีมีโน่ , มาเน่ , ฟาบิญโญ่ , แฮนเดอร์สัน , มิลเนอร์ , ไวน์นาดุม ฯลฯ ปัจจุบันรอบตัวเขาจึงเต็มไปด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ที่อายุน้อย และวิธีการเล่นของดาวเตะอียิปต์ผู้นี้ก็เหมือนจะเปลี่ยนไป กล่าวคือ เราแทบไม่เห็น Mohamed Salah ใช้ความเร็วกระชากบอลหนีคู่แข่งเลย จะเพราะหนีไม่ออกหรืออะไรก็ไม่รู้! แต่ผมคิดว่าการเล่นบอลของเขา นั้นเป็นประโยชน์ต่อทีมมากขึ้น เร็วเฉพาะในตอนที่ควรจะเร็ว เลี้ยงเฉพาะในตอนที่ควรจะเลี้ยง และส่งบอลในจังหวะเวลาที่เหมาะสมเสมอ (แถมแม่นอีกต่างหาก) ทัศนคติของเขาช่วยทีมได้มาก Mohamed Salah เหมือนเป็นพี่ใหญ่ในทีม ในยามที่ทีมวิกฤตและต้องการประตู เขาจะเป็นผู้มีส่วนร่วมเสมอ อาจจะไม่ได้ยิงเองแต่เพลย์แรกที่เล่นมักจะมาจากเขาแทบทุกครั้ง ฤดูกาลนี้เราจึงได้เห็นสถิติการ Assist จาก Salah ที่เพิ่มมากขึ้น คิดแล้วก็น่าเสียดายนะครับ ผมว่าปีหน้าแกน่าจะย้ายไปซาอุฯแน่ๆ ตามวิถีของนักฟุตบอลในบั้นปลายการค้าแข้ง การจะหาคนมาแทนจึงกลายเป็นเรื่องลำบากเลย! ในตลาดนักเตะคนที่วิ่งเร็วๆ เลี้ยงบอลเก่งๆ มีเยอะแยะ แต่คนที่จะเล่นด้วยความมีคลาสและเข้าใจทุกมิติในพื้นสนาม คงจะหากันไม่ได้ง่ายๆ 7. Virgil van Dijk เล่นลูกเซตพลีสดีทุกลูก!อันนี้หมายถึงกรณีที่เป็นทีมบุกนะครับ ผมสังเกตเห็นว่าแกจะขึ้นโหม่งได้แทบทุกลูกเลย จังหวะไหนโหม่งไม่ได้ก็จะเป็นแกนี่แหละที่ได้ง้างเท้ายิง มิหนำซ้ำลูกที่ได้ประตูขึ้นนำ 3 - 1 ก็มาจากการโหม่งเปิดทางของแกอีกต่างหาก สำหรับผมนี่ถือเป็นการแก้ตัวได้สำเร็จ การโดน Jarrod Bowen โฉบโหม่งตัดหน้าถือว่าหายกันไป โหม่งมาโหมงกลับฉันใด สู้กันหนนี้ขอให้ลิเวอร์พูลชนะก็โอเคแล้ว! สรุปสุดท้าย โดยส่วนตัวผมคิดว่าข้อแตกต่างระหว่างลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ กับฤดูกาลที่แล้วก็คือตัวสำรองสำหรับเปลี่ยนเกม จะเห็นว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่ม้านั่งสำรองลิเวอร์พูลแทบไม่มีใครเลย ผู้เล่นอย่าง อ็อกเหล็ก แชมเบอร์เลน , นาบี เกอีต้า , ธีอาโก้ อาคันทาร่า ล้วนแต่มีศักยภาพคับแก้ว ทว่าแต่ละคนกลับไม่เคยออกจากโรงพยาบาลได้เกิน 1 เดือนเลย มากันแป๊บๆแล้วก็เจ็บต่อ อย่างเช่นในเคสของธีอาโก้นั้น จนป่านนี้ผ่านไป 5 เดือนแล้ว พี่แกยังลงสนามให้ทีมหงส์แดงไม่ได้เลยสักนัด! ซึ่งกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล(ยัง)ไม่เจอกับปัญหาเดิมๆอีกเลย เจอร์เก้น คล็อปป์ มีตัวผู้เล่นหมุนเวียนมาให้ใช้ตลอด ผมชอบมากที่พอเกมขาดเมื่อไหร่ คล็อปป์ก็จะให้โอกาสนักเตะทุกคนได้ลงมาสัมผัสเกมในสนาม ผมว่ามันทำให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น ลงน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ลง แล้วพอเล่นด้วยความไม่กดดัน ฟอร์มของตัวสำรองก็จะออกมาดีด้วย ดังจะเห็นได้จากลูกยิงปิดกล่อง 3 - 1 ของ Diogo Jota นั่นเอง ปีนี้ว่ากันไปยาวๆครับเด็กหงส์ทั้งหลาย ถ้าไม่มีใครบาดเจ็บผมว่าเราน่าจะเบียดกับแมนซิตี้ได้ยาวๆ ในวงเล็บที่ว่า "โม ซาล่าห์ เอ็งต้องไม่ทะลึ่งย้ายไปซาอุฯ ตอนครึ่งฤดูกาลนะเฟ้ย!" เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก (1) จาก FB : Liverpool FCภาพหน้าปก (2) จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 1 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 2 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 3 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 4 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 5 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 6 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 7 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 8 จาก FB : Liverpool FC รูปที่ 9 จาก FB : Liverpool FC ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !