ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เมื่อเดอะฟ็อกซ์ เลสเตอร์ ซิตี้ จำใจต้องประกาศแยกทาง “เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” หลังทำงานร่วมกันมานาน 4 ปี อารมณ์ของแฟนเลสเตอร์มีหลายอย่างทั้งเข้าใจสถานการณ์ เพราะฟอร์มช่วงหลังไม่ดีจริง ๆ รวมถึงเห็นใจในตัวร็อดเจอร์ส ซีซันนี้ไม่ได้งบเสริมทัพเท่าไหร่ แต่ผลงานเวลานี้ตามนั้นครับ “ยอมรับเพื่อไปต่อ” จากวันรุ่งโรจน์ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก , แชมป์เอฟเอ คัพ , คอมมูนิตี้ ชิลด์ (ให้เครดิตในตัวร็อดเจอร์ส) ใครเลยเชื่อว่าสถานการณ์จิ้งจอกพลิกผันต้องดิ้นรนหนีตกชั้น และถือว่าสุ่มเสี่ยงมากกับ 10 นัดสุดท้ายที่ยังต้องเจอทั้งแมนซิตี้ , นิวคาสเซิล และลิเวอร์พูล มาดูว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เลสเตอร์ซิตี้ ย้อนกลับไปแล้วคงไม่ทำอย่างนี้สนามซ้อมสุดอลังการ เสร็จเร็วไปสนามซ้อมแห่งใหม่ซีเกรฟระดับเวิลด์คลาส ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกมูลค่ามหาศาล ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของเลสเตอร์ เริ่มสร้างปี 2019 ไม่นานเข้าสู่ช่วงโควิดพอดี แม้วงการฟุตบอลได้รับผลกระทบแต่โครงการนี้ยังเดินหน้าต่อจนเสร็จสมบูรณ์ปี 2022 ไม่ชะลอโครงการ ทุ่มเงินจำนวนมากสวนทางเม็ดเงินหายไปช่วงโควิด ผลคือกระทบกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ เป็นลูกโซ่ทั้งต้องปล่อยนักเตะออก , เหลืองบเสริมทีมน้อย ซื้อเข้ามาจริง ๆ มีแค่เวาท์ ฟาส , แฮร์รี่ ซูตทาร์ และวิคเตอร์ คริสเตนเซ่น ด้วยค่าตัวเพียงคนละ 14-17 ล้านปอนด์ (แต่ทุกคนเล่นได้นะ ถือว่าเลือกตัวดีสุดแล้วล่ะ) ที่เหลือยืมตัวบ้าง ฟรีบ้าง แน่นอนว่าไม่เพียงพอสำหรับการต่อสู้ดุเดือดในพรีเมียร์ลีกปล่อยแคสเปอร์ ชไมเคิลหากย้อนกลับไปได้ ผมเชื่อว่าทีมจะทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บแคสเปอร์เอาไว้ ตอนนี้ไม่คุ้มเลยกับเงินเพียง 1 ล้านปอนด์ และเซฟค่าเหนื่อยเพียง 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ผลคือมือสอง “แดนนี่ วอร์ด” ตรงกรอบเป็นตุง ขาดตัวกระตุ้นกองหลังอย่างแคสเปอร์ส่งผลแนวรับรวน บวกกับจอนนี่ อีแวนส์ มาเจ็บไปอีก ทำให้เลสเตอร์เสียถึง 49 ประตูจาก 28 นัด ถือว่าผิดแผนไปเยอะในการมั่นใจแดนนี่ วอร์ด มากเกินไปว่าสามารถทดแทนแคสเปอร์ ชไมเคิลได้ จะซื้อใหม่ช่วงตลาดมกราคมเปิดก็ไร้งบ กว่าจะขยับตัวมาใช้ “แดเนียล อิเวอร์เซ่น” ที่แฟนบอลมองว่าฟอร์มบอลถ้วยน่าจะดีกว่าวอร์ดเยอะก็เกือบสายไปแล้ว ฤดูกาลนี้เลสเตอร์หายไปหลายแต้มจากความผิดพลาดผู้รักษาประตูสัญญาระยะยาว + ค่าฉีกสัญญารอดเจอร์สสูงจะโทษบอร์ดอย่างเดียวไม่ถูก เพราะรอดเจอร์สนาทีนั้นเนื้อหอมจริง ๆ ทั้งแมนยูฯ , อาร์เซนอล อีกหลายทีมรุมจีบ และทีมยังผลงานดีเกาะกลุ่มบนของหัวตารางฤดูกาล 2019-20 จบถึงอันดับ 5 ในปีนั้น ทำให้ทีมตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาว 5 ปีครึ่งในเดือนธันวาคม 2019 สิ้นสุดปี 2025 พร้อมค่าจ้างระดับท็อป 5 พรีเมียร์ลีก “เดิมพันอนาคตในมือรอดเจอร์ส” ผลคือเมื่อเกิดปัญหาไม่สามารถปลดรอดเจอร์สออกได้ง่าย ๆ ต้องเสียเงินชดเชย 10 ล้านปอนด์ หากเป็นช่วงปกติเงินก้อนนี้ไม่มีปัญหากับเลสเตอร์หรอก พอเจอไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ เงินก้อนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเลสเตอร์ บวกกับผลงานชั่วโมงนี้จะหาใครมาฉีกสัญญาคงไม่มี “เพราะรู้ว่าเดี๋ยวเลสเตอร์ต้องปลดเอง” สุดท้ายฝืนไม่ไหวต้องจำใจปลดอย่างที่เห็นไม่ซื้อขาดอเดโมล่า ลุคแมนแฟนเลสเตอร์มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพลาดจริงทั้งทีมีโอกาสเซ็นซื้อขาดจากไลป์ซิก ฤดูกาลนี้ฟอร์มดีมากกับอตาลันต้า ยิง 13 ประตูนำเป็นดาวซัลโวของทีมเวลานี้ หากยังใช้งานอยู่ดันขึ้นเป็นหน้าต่ำแบบที่อตาลันต้ายังได้ “อิเฮียนาโช่มัดรวมดาก้าไม่เท่าลุคแมนคนเดียว” ช่วงเวลานั้นอาจมองว่าฮาร์วีย์ บาร์นส์ กำลังกลับมาแล้ว และด้วยความรู้ตัวว่ากำลังเจอไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ (ปัญหานี้กระทบทุกอย่าง) ไม่พร้อมจ่าย 15 ล้านยูโรแบบเดียวกับอตาลันต้า ทำให้พลาดของดีอย่างน่าเสียดายขอเพียงเลสเตอร์ ซิตี้ รอดตกชั้นฤดูกาลนี้ ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย หนี้สโมสรหมดไปแล้ว มีเม็ดเงินให้ผู้จัดการทีมคนใหม่เสริมทัพเข้ามา การได้อยู่ในพรีเมียร์ลีกอย่างน้อยหากขายตัวหลักยังมีอำนาจต่อรอง ตรงข้ามกับร่วงไปแชมเปียนชิพไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ขอเพียงรอดตกชั้นครับ เท่านั้นจริง ๆ เชื่อว่าเลสเตอร์จะกลับมาได้ฤดูกาลหน้า เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาต้องร่วมเชียร์ให้ตลอดรอดฝั่ง ยังไม่จบฤดูกาลสักหน่อยทำไมจะทำไม่ได้ แฟนเดอะฟ็อกซ์คงต้องช่วยกันรวมพลังอีกครั้งแล้วครับ..ภาพประกอบโดย ภาพปก Leicester City Football Club : คริส เดวี่ส์ , พื้นหลัง / Leicester City Football Club : ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกีฬา เข้ามาคุยกันได้เลย