รีเซต
พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "ใครจะเป็นใหญ่ในเมืองแมนเชสเตอร์" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "ใครจะเป็นใหญ่ในเมืองแมนเชสเตอร์" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : "ใครจะเป็นใหญ่ในเมืองแมนเชสเตอร์" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Supanat
9 ธันวาคม 2560 ( 18:31 )
5.3K

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” ยกแรกประจำฤดูกาล 2017 ในสัปดาห์ที่ 16 ของพรีเมียร์ลีก เป็นการพบกันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครแห่งความฝันต้อนรับจ่าฝูง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้

โดยเกมคู่นี้ลงแข่งขันกันในวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม  2560 เวลา 23.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง BeIN Sports 1

***********

รายการ : พรีเมียร์ลีก
วัน / เวลาทำการแข่งขัน : 10 ธันวาคม  2560 เวลา 23.30 น (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ / อังกฤษ)
ถ่ายทอดสด :  BeIN Sports 1TrueID App

***********

สภาพทีม “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”

แม้เอาชนะอาร์เซน่อลมาได้ 3-1 แต่ “ปีศาจแดง” ต้องเสียกองกลางตัวสำคัญอย่าง ปอล ป็อกบา ไปหลังโดนใบแดงจากการไปสกัดใส่ เฮคตอร์ เบเญริน ทำให้หมดสิทธิลงช่วยทีม 3 นัด นอกจากนี้ยังมี ไมเคิ่ล คาร์ริค และเอริค ไบญี่ ที่จะพลาดการลงสนามนัดนี้ด้วยเช่นกัน

แต่ข่าวดีคือพวกเขาได้ฟิล โจนส์ สลัดอาการบาดเจ็บลงมาช่วยในแนวรับ และมารูยาน เฟลไลนี่ ที่อาจจะต้องประเมินความฟิตอีกเล็กน้อย แต่คาดว่าจะมีชื่อลงสนามทดแมนการขาดหายไปของป็อกบา

ในตำแหน่งอื่นๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีปัญหาผู้เล่นบากเจ็บเพิ่มเติมจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ และคาดว่ามูรินโญ่ น่าจะไม่ปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากเกมที่เอาชนะอาร์เซน่อลมามากนัก

***********

สภาพทีม “แมนเชสเตอร์ ซิตี้”

ลูกทีมของกวาร์ดิโอลา ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากนัก ดาบิด ซิลบา ที่ไม่มีชื่อในเกมกับชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ก็ฟิตจะลงในดาร์บี้แมตช์วันอาทิตย์  ส่วนฟาเบียน เดลฟ์ ต้องรอประเมินสภาพนักเตะอีกครั้ง แต่กัปตันทีมอย่างแวงซองต์ กอมปานี น่าจะพลาดการลงเตะในวันอาทิตย์นี้

ในตำแหน่งอื่นๆ แม้แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะได้พักน้อยกว่าเจ้าบ้าน 1 วัน แต่เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ของทีมเลือกที่จะพักผู้เล่นแกนหลัก ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้นักเตะตัวหลักอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไคล์ วอล์กเกอร์ หรือเซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ลงมาในช่วงท้ายเกม มีความฟิตเต็มถังในเกมวันอาทิตย์นี้

***********

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม (ทุกรายการ)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
06 ธ.ค. 60 ชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก 2-1 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) H
03 ธ.ค. 60 ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 (พรีเมียร์ลีก) A
29 พ.ย. 60 ชนะ วัตฟอร์ด 4-2 (พรีเมียร์ลีก) A
25 พ.ย. 60 ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-0 (พรีเมียร์ลีก) H
23 พ.ย. 60 แพ้ เอฟซี บาเซิ่ล  0-1 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) A

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
07 ธ.ค. 60 แพ้ ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค 1-2 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) A
03 ธ.ค. 60 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (พรีเมียร์ลีก) H
30 พ.ย. 60 ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 (พรีเมียร์ลีก) H
26 พ.ย. 60 ชนะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 2-1 (พรีเมียร์ลีก) A
22 พ.ย. 60 ชนะ เฟเยนูร์ด 1-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) H

***********

สถิติที่น่าสนใจ

  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ติดต่อกันมา 4 ครั้งในในช่วงปี 2013-2014 แต่หลังจากนั้นอีก 5 นัดถัดมา “ปีศาจแดง” แพ้เพียง 1 นัด
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงประตูได้ในโอลด์ แทฟฟอร์ด มากที่สุดในพรีเมียส์ลีก (27 ประตู เท่าเชลซี) และบุกมาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดในถึงถิ่น 5 ครั้งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากเชลซี (6 ครั้ง)
  • “ปีศาจแดง” ไม่แพ้ในใครบ้าน (พรีเมียร์ลีก) 24 นัดติดต่อกัน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่แพ้ก็คือ แพ้ให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ในเดือนกันยายน 2016
  • โชเซ่ มูรินโญ่ ทำสถิติไม่แพ้ใครในบ้าน 40 เกมติด หลังเอาชนะซีเอสเคเอ มอสโก 2-1
  • ถ้าเป๊ป กวาร์ดิโอลา เอาชนะได้ในเกมวันอาทิตย์ จะทำสถิติชนะติดต่อกันตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก 14 นัด เทียบเท่าที่อาร์เซน่อลทำไว้ (กุมภาพันธ์ ถึง สิงหาคม 2002)
  • โชเซ่ มูรินโญ่ ชนะเพียง 4 นัดจาก 19 นัดที่คุมทีมเจอเป๊ป กวาร์ดิโอลา (ชนะ 4 เสมอ 7 แพ้ 8)

***********

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, มารูยาน เฟลไลนี่, เนมานย่า มาติช, แอชลี่ย์ ยัง, เจสซี่ ลินการ์ด, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โรเมลู ลูกากู

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส, ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอเลียควิม ม็องกาล่า, ดานิโล่ , แฟร์นานดินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่ , ลีรอย ซาเน่

***********

บทวิเคราะห์

ในชั่วโมงนี้ยากที่จะหายทีมในมาหยุด “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังเป๊ป กวาร์ดิโอลา พาทีมคว้าชัย 13 นัดรวด และเป็นจ่าฝูงโดยทิ้งห่างอันดับสองถึง 8 คะแนน แต่ถ้าจะมีทีมใดมาหยุดความร้อนแรงของแมนฯ ซิตี้ได้ หนึ่งในตัวเลือกนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดฤดูกาล 2017 ได้อย่างสวยงามหลังเก็บชัยชนะได้ 7 จาก 8 นัดแรก แต่หลังอาการบาดเจ็บของมิดฟิลด์ ตัวสำคัญ ปอล ป็อกบา ก็ทำให้ฟอร์มของ “ปีศาจแดง” เริ่มจะสะดุดลงไป และยังมีอาการปืนฝืดของ กองหน้าค่าตัว 75 ล้านปอนด์ โรเมลู ลูกากู ที่ยิงไม่ได้มา 5 นัดติดต่อกัน และเพิ่งมายิงได้ในเกมเอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ช่วงหลังแมนฯ ยูไนเต็ดจะเริ่มกลับมาคืนฟอร์มเดิมเหมือนต้นฤดูกาล และมีนักเตะเริ่มโชว์ฟอร์มได้อย่างดีอย่าง แอชลี่ย์ ยัง, เจสซี่ ลินการ์ด หรือวิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ที่กลับมาฝากผีฝากไข้ไว้ได้อีกครั้ง แต่การถูกแบนของป็อกบา ยังคงเป็นคำถามว่าการขาดหายไปของกองกลางเลือดน้ำหอมรายนี้ จะส่งผลถึงทีมมากแค่ไหน

แม้แมนฯ ซิตี้ จะโชว์ฟอร์มโหด ไล่เอาชนะมา 13 นัดติดต่อ แต่ใช้ว่าจะไม่มีหนทางหยุดลูกทีมของเป๊ปได้เลย 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แม้พวกเขาจะเก็บชัยชนะมาได้ แต่ 2 ใน 3 “เรือใบสีฟ้า” โดนคู่แข่งออกนำก่อน และทั้ง 3 นัดพวกเขายิงประตูชัยได้ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน นอกจากนี้พวกเขาไม่เสียประตูเพียง 7 เกมจาก 15 เกมในพรีเมียร์ลีก และมักจะชนะแบบหืดขึ้นคอ กับทีมที่เน้นการรับแล้วโต้กลับ ซึ่งทั้ง 3 นัดกับ ฮัดเดอร์ฟิลด์, เซาแธมป์ตัน และเวสต์แฮม พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากองหลังของแมนฯ ซิตี้ ยังมีจุดออกให้โจมตีอยู่

แท็คติกการเล่นเกมรับอย่างหนาแน่น แล้วโต้กลับเร็ว ดูจะเข้าทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงเวลานี้เสียเหลือเกม หลังพวกเขานำแล้วอุด จนคว้าชัยเหนืออาร์เซน่อลมาแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีวันดีคืนของมาร์กซิยาล และลินการ์ด ทำให้เกมโต้กลับของ “ปีศาจแดง” ดูทรงประสิทธิภาพ มากในเวลานี้ อีกทั้งยังมีดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสเปนที่กำลังโชว์ฟอร์มสุดยอด ไม่กลัวหน้าใน หลังเซฟไป 14 ครั้ง ในเกมกับอาร์เซน่อล ช่วยเป็นกำแพงด่านสุดท้ายป้องกันประตูอยู่

นายใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะไม่สั่งให้ลูกทีมมาเล่นเอาเสมอแบบที่ทำมาแล้วในศึกแดงเดือดที่เสมอ 0-0 กับลิเวอร์พูล หรือพลาดแพ้บาเซิ่ล 0-1 เพราะเวลานี้ “ปีศาจแดง” ต้องการ 3 คะแนนเพื่อมาไล่ “เรือใบสีฟ้า” ที่ห่างอยู่ 8 คะแนน และถ้าพวกเขาทำได้ในนัดนี้ จะทำให้ช่องว่างเหลือเพียง 5 คะแนน แต่แน่นอนกวาร์ดิโอลา คงไม่ยอมง่ายๆ แต่ทีมเยือนอาจจะหวังใช้ช่วงเวลา “กวาร์ดิโอลาไทม์” กับกุนชือจอมจอดรถบัสยากเสียหน่อย หากพลาดโดนนำไปก่อน

สุดท้ายแล้ว เมืองแมนเชสเตอร์ จะเป็นสีแดง หรือ สีฟ้า คงต้องรอดูกันวัยอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคมนี้ เวลา 23.30 น. ทางช่องBeIN Sports 1 หรือ TrueID App

***********

ผลสกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้