10 เหตุการณ์สำคัญแห่งปี 2021 ของวงการกีฬาไทย

เผลอแป๊บเดียว วันเวลาก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของปีกันแล้ว ในปี 2021 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ มีเหตุการณ์และเรื่องราวสำคัญเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแน่นอนว่า มันมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายที่ได้ผ่านเข้ามาปะปนกันไป วันนี้เราได้สรุปและรวบรวม 10 เหตุการณ์สำคัญของวงการกีฬาไทยตลอดทั้งปีนี้มาฝากกัน จะมีเหตุการณ์ใดบ้าง และจะตรงกับความคิดของคุณหรือไม่นั้น ลองไปติดตามกันเลยครับ

1. ปีทอง "บาส-ปอป้อ" .. กวาด 8 แชมป์ ขึ้นยึดมือ 1 ผงาดแชมป์โลก

หากจะพูดถึงนักกีฬาไทยที่ทำผลงานได้ร้อนแรงและประสบความสำเร็จสูงที่สุดในรอบปี 2021 คงจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว นอกจากคู่หูนักตบลูกขนไก่ ประเภทคู่ผสมของไทย ที่มีชื่อว่า "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย หลังทั้งคู่พากันระเบิดฟอร์มอันสุดยอดแบบไร้เทียมทาน ชนิดที่เรียกว่า "แรงไม่หยุด ฉุดไม่หยุด" ได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ พร้อมสร้างสถิติและจารึกประวัติศาสตร์ต่างๆ เอาไว้มากมาย

โดย "บาส-ปอป้อ" เริ่มต้นปีนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการสร้างสถิติเป็นนักแบดมินตัน ประเภทคู่ผสมคู่แรกของโลก ที่คว้าแชมป์ระดับ เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ได้ถึง 3 รายการติดต่อกัน จากการผงาดกวาดทั้ง 3 แชมป์ที่ประเทศไทยในเดือนมกราคม ซึ่งรวมถึงรายการใหญ่อย่าง เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 ด้วย

จากนั้น เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ก็มาโชว์ฟอร์มฮอตระดับปรอทแตก เมื่อสามารถคว้าแชมป์ได้ 5 รายการรวด (คู่แรกของโลก) พร้อมทำสถิติไร้พ่าย 25 นัดติดต่อกันในช่วงปลายปี ซึ่งรวมถึงการป้องกันแชมป์ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2021 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่ส่งผลให้ทั้งคู่ก้าวขึ้นเป็นคู่ผสม มืออันดับ 1 ของโลก ทันที

ก่อนที่สุดท้าย บาส-ปอป้อ จะปิดฉากปีนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่และสุดสวยหรู ด้วยการผงาดคว้า แชมป์โลก หรือ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 ที่ประเทศสเปน ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทำให้ทั้งคู่สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นแชมป์โลก ประเภทคู่ผสมคู่แรกของไทย และนับเป็นแชมป์โลกที่ 2 ของประเทศไทย ต่อจากประเภทหญิงเดี่ยว ที่ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ เคยทำได้ในปี 2013

สรุปผลงานกระหึ่มโลกของ บาส-ปอป้อ ในปีนี้ กวาด 8 แชมป์ จากการเข้าชิง 9 รายการ จากการลงแข่งขัน 11 รายการ (ไม่นับรวม สุธีรมาน คัพ) พร้อมโกยเงินรางวัลรวมกันมากกว่า 22 ล้านบาท และส่งผลให้ทั้งคู่ซิวแชมป์ไปแล้วทั้งสิ้น 12 รายการ (กับ 1 เหรียญทองซีเกมส์) นับตั้งแต่เริ่มจับคู่กัน สำหรับแชมป์ทั้ง 8 รายการในปี 2021 มีดังต่อไปนี้

• โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น (เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000)
• โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น (เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000)
• เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 (มีคะแนนเทียบเท่า เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000)
• ไฮโล โอเพ่น 2021 (เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 500)
• ไดฮัทสุ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2021 (เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 750)
• ซิมอินเวสต์ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2021 (เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000)
• เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2021 (มีคะแนนเทียบเท่า เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 1000)
• โททาลเอ็นเนอร์ยี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 (ชิงแชมป์โลก)

2. 7 วิสุดท้าย .. พลิกประวัติศาสตร์! "เทนนิส พาณิภัค" คว้าเหรียญทองโอลิมปิก

ในปี 2021 นี้ ถ้าจะพูดถึงเหตุการณ์ในวงการกีฬา ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต่างลุ้นระทึกและตื่นเต้นกันแบบสุดๆ ชนิดที่เกือบลืมหายใจ คงจะหนีไปไม่พ้น การคว้าเหรียญทอง โอลิมปิก 2020 ในกีฬาเทควันโด ของจอมเตะสาวที่มีชื่อว่า "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

นักเทควันโดสาว รุ่น 49 กก. วัย 23 ปี (ณ เวลานั้น) เจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล กลายเป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น

รวมทั้งเป็นเต็งจ๋าที่จะคว้าเหรียญทองในสังเวียนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเธอคือ ผู้ครองบัลลังก์เบอร์ 1 ของโลก ที่กวาดแชมป์มาแล้วแทบจะครบทุกรายการในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ขาดก็แต่เพียงแค่เหรียญทองโอลิมปิกเท่านั้น ที่ถือเป็นความฝันสูงสุด ซึ่ง เทนนิส ต้องการจะคว้ามาคล้องคอให้ได้ หลังต้องผิดหวังมาจากการแข่งขันเมื่อ 5 ปีก่อน

24 กรกฎาคม 2021 .. คงจะเป็นวันที่ พาณิภัค จะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน เพราะนี่คือวันที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต เทนนิส ลงทำศึกครั้งสำคัญ โดยเธอไล่เตะเอาชนะคู่แข่งในแต่ละรอบได้แบบไม่ยากเย็นนัก จนสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ตามความคาดหมาย ซึ่งคู่ต่อสู้ด่านสุดท้ายของเธอ ก็คือ ดาวรุ่งสาวจากสเปน วัยเพียง 17 ปี ที่มีชื่อว่า อาเดรียน่า เซเรโซ่ อิเกลเซียส ม้ามืดที่ผ่านเข้าชิงมาได้แบบที่ไม่มีใครคาดคิด

ในการแข่งขันนัดชี้ชะตา เทนนิส ยังคงอาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทำแต้มนำสาวสเปนได้ที่ 9-6 เมื่อจบยกที่สอง แต่แล้วในยกตัดสิน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อ อาเดรียน่า พลิกแซง พาณิภัค 10-9 ขณะที่เหลืออีก 37 วินาทีสุดท้าย จากนั้นเวลาในการแข่งขันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว สวนทางกับความกดดันที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือไม่ถึง 10 วินาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บีบหัวใจแบบสุดๆ จนกองเชียร์เริ่มหวั่นใจกันแล้ว

แต่แล้ว ในช่วง 7 วินาทีสุดท้าย เทนนิส พาณิภัค ที่ยังไม่ยอมแพ้ ก็พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ได้สำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อ จากการเตะทำแต้มด้วยขาซ้าย ทำให้แต้มพลิกกลับมานำ 11-10 ก่อนที่เวลาจะหมดลงในท้ายที่สุด ส่งผลให้เธอกระชากเหรียญทองมาครองได้อย่างสุดระทึกใจ พร้อมทำให้คนไทยที่รับชมการถ่ายทอดสดได้เฮกันแบบสุดเสียง และร่วมกระโดดดีใจกันจนตัวลอย กลายเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจจนยากจะลืมเลือน โดยเหรียญทองมหัศจรรย์ของจอมเตะหัวใจแกร่ง ถือเป็นเหรียญทองเดียวของไทยในโอลิมปิกครั้งนี้ และเป็นเหรียญทองแรกของวงการเทควันโดไทยอีกด้วย

3. จากนักชกนอกสายตาสู่การเป็นฮีโร่ .. "แต้ว สุดาพร" คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก

มวยสากล ถือเป็นกีฬาที่เป็นความหวังของคนไทยในศึกโอลิมปิกมาโดยตลอด หลังขุนพลเสื้อกล้ามชาย สร้างผลงานจนเป็นที่ประจักษ์ กวาดเหรียญรางวัลมาแล้วมากมายในการแข่งขันแต่ละครั้ง ทว่าหากพูดถึง นักชกหญิงแล้ว ยังไม่เคยมีใครที่ประสบความสำเร็จในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติเลย จนกระทั่ง "แต้ว" สุดาพร สีสอนดี ได้กลายเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมวยสากลของไทย

กำปั้นสาว รุ่นไลท์เวต 60 กก. จากอุดรธานี วัย 29 ปี (ณ เวลานั้น) ไม่ได้ถูกคาดหมายว่า จะเป็นความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลในโตเกียวเกมส์ 2020 ให้กับทัพนักกีฬาไทย ซึ่งมันกลายเป็นข้อดีที่ทำให้ สุดาพร ลงแข่งขันแบบไม่ต้องแบกความกดดันเอาไว้มากนัก และนั่นก็อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่ทำให้แต้วทำผลงานบนสังเวียนผ้าใบได้อย่างยอดเยี่ยม เธอค่อยๆ เดินหน้าคว้าชัยไปแบบนัดต่อนัด โดยที่ยังไม่ได้ถูกจับตาจากแฟนกีฬามากนัก จนกระทั่งผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย หรือ รอบชิงเหรียญทองแดง ได้สำเร็จ

3 สิงหาคม 2021 .. สุดาพร โคจรมาพบกับ แคโรไลน์ ดูบัวส์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี จากสหราชอาณาจักร เจ้าของแชมป์ยูธ โอลิมปิก 2018 เกมการชกเป็นไปอย่างสูสีคู่คี่ โดยต่างฝ่ายต่างมีหมัดเข้าเป้าด้วยกันทั้งคู่ จนแฟนกีฬาชาวไทยหายใจกันแบบไม่ทั่วท้อง ทว่าสุดท้ายแล้ว กรรมการบนเวทีก็ชูมือให้ สุดาพร เป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนน 3-2 เสียง ทำให้ แต้ว ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พร้อมการันตีเหรียญทองแดงได้แบบสุดระทึกใจ

แม้สุดท้ายแล้ว สุดาพร จะเข้าไปแพ้ให้กับ เคลลี่ แฮร์ริงตัน เต็งหนึ่งจากไอร์แลนด์ ในรอบตัดเชือก แบบหวุดหวิด 2-3 เสียง ทำให้ไม่สามารถผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ แต่เหรียญทองแดงนี้ ก็ได้ถูกจารึกเอาไว้แล้วว่า เป็นเหรียญโอลิมปิกแรกของนักชกสาวไทย

4. 3 นัด ได้ 1 แต้ม .. "ช้างศึก" ตกรอบคัดบอลโลก แยกทาง "โค้ชนิชิโนะ"

ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน หลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยได้มีการเลือกเจ้าภาพในแต่ละกลุ่ม เพื่อจัดการแข่งขันที่เหลือทั้งหมดให้เสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งกลุ่มจี ของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย นั้น ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ดังกล่าว

โดยสถานการณ์ของทีมชาติไทยในตารางคะแนน ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น ถือว่าไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อมีเพียง 8 แต้ม จาก 5 นัด รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม ตามหลัง เวียดนาม ที่นำเป็นจ่าฝูงอยู่ 3 แต้ม ทำให้เป้าหมายใน 3 นัดสุดท้ายที่ยูเออี คือการคว้า 9 แต้มเต็ม หรือต้องได้อย่างน้อยที่สุด 7 แต้ม เพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไป

อย่างไรก็ดี สัญญาณอันตรายของทัพช้างศึก ก็ดังขึ้นตั้งแต่เพิ่งจะเริ่มเตรียมทีมเท่านั้น เมื่อพบว่ามีนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชในแคมป์เก็บตัว ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทำให้แผนการฝึกซ้อมทั้งหมด ที่กุนซือชาวญี่ปุ่นอย่าง อากิระ นิชิโนะ ได้เตรียมไว้ต้องยุติลง เนื่องจากทุกคนต้องทำการแยกกักตัวกันทันที ซึ่งนั่นทำให้โค้ชนิชิโนะ ตัดสินใจขอพานักเตะทุกคนที่เรียกมา จำนวนกว่า 40 ชีวิต บินไปฝึกซ้อมที่ยูเออีทั้งหมด โดยไม่มีการตัดตัว หลังพ้นจากกำหนดกักตัวแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แม้จะมีตัวเลือกมากมายในศึกครั้งนี้ ทว่าการขาด 3 แข้งตัวหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึง ธีราทร บุญมาทัน ที่ขอถอนตัวออกไป ทำให้ต้องยอมรับว่า ขุมกำลังชุดนี้ถือว่าไม่สมบูรณ์นัก อีกทั้งการเตรียมทีมที่ไม่พร้อม หลังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องโควิด มันก็ได้ส่งผลต่อสภาพความฟิตของนักเตะอย่างเห็นได้ชัด

แต่ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอันใดก็ตามแต่ สุดท้ายแล้วผลปรากฏว่า ทัพช้างศึกชุดนี้ ทำผลงาน 3 นัดสุดท้ายที่ยูเออีได้อย่างล้มเหลวและน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง จากการทำได้แค่ เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 ตามด้วยการแพ้ ยูเออี 1-3 และปิดท้ายด้วยการพ่ายให้กับ มาเลเซีย 0-1 ต้องหยุดเส้นทางในการคัดบอลโลกหนนี้ ด้วยการรั้งรองบ๊วยของกลุ่ม ส่งผลให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตัดสินใจประกาศแยกทางกับ อากิระ นิชิโนะ ในท้ายที่สุด

5. "7 เซียน" อำลาทีมชาติ .. แคมป์นักตบสาวติดโควิด เรียกชุดเฉพาะกิจ ลุยเนชั่นส์ลีก

ปี 2021 ถือเป็นปีที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในวงการวอลเลย์บอลไทย จนกลายเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท้ายที่สุด เมื่อลองมองย้อนกลับไปแล้ว มันก็อาจดูคล้ายกับว่า โชคชะตา ฟ้าได้ลิขิตเอาไว้แล้ว ให้บทสรุปของ ตำนาน 7 ยอดนักตบลูกสาวไทย ได้มาปิดฉากลงอย่างสวยงามและสุดพิเศษแบบนี้

ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชุดสายเลือดใหม่ ที่ไร้เงาของ 7 เซียน ได้ทำการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมตัวไปแข่งขันศึก วอลเลย์บอล เนชั่นส์ ลีก 2021 ที่ประเทศอิตาลี แต่แล้ว ก่อนกำหนดเดินทางเพียงไม่กี่วัน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนักกีฬาและทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ต่างติดเชื้อโควิด-19 กันแบบแทบจะยกทั้งแคมป์

จากเหตุดังกล่าว ทำให้ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ จำเป็นต้องขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน ทว่า สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยอนุญาตให้ ทีมชาติไทย สามารถส่งรายชื่อนักกีฬาได้ใหม่ สมาคมลูกยางจึงตัดสินใจเรียกตัวนักกีฬา ชุดเฉพาะกิจ ที่นำมาโดย 6 เซียน (วรรณา บัวแก้ว เลิกเล่นตั้งแต่ปี 2016) เดินทางไปแข่งขันแทน ทั้งที่แต่ละคนไม่ได้ฝึกซ้อม หรือเตรียมตัวกันมาก่อนเลย

อย่างไรก็ดี แม้สภาพร่างกายจะไม่พร้อม และเป็นรองทุกทีม แต่ทีมนักตบสาวไทยชุดนี้ ก็พยายามยังโชว์สปีริตอันยอดเยี่ยม ด้วยการสู้อย่างเต็มที่ในทุกเกมที่ลงสนาม จนสามารถคว้าชัยชนะได้ 2 นัด เหนือ เยอรมนี และ แคนาดา แม้สุดท้ายแล้ว สาวไทยจะจบในอันดับ 16 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย แต่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้ ได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกมแมตช์สุดท้าย กับเจ้าภาพอย่าง อิตาลี ในวันที่ 20 มิถุนายน 2021 ซึ่งถือเป็น "แมตช์อำลาทีมชาติ" ของ 6 เซียนลูกยางไทย หลังจากที่บางคนรับใช้ชาติมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี

โดยหลังจบเกมดังกล่าว ทาง FIVB ได้ให้เกียรติ จัดพิธีอำลาสนามให้กับนักกีฬาทั้ง 6 คน ที่ได้กลับมารวมตัวและเล่นด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ในแบบที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้มาก่อน กลายเป็นบรรยากาศอันสุดซาบซึ้งและตื้นตันใจ จนมีน้ำตานองไปทั่วทั้งสนาม ซึ่งนับเป็นภาพที่งดงาม และควรค่าแก่การจดจำเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากนั้น ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2021 การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ ก็ร่วมกันจัดงาน "7 Legends of Volleyball" ที่สนาม อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก เพื่อเป็นการยกย่อง และอำลา 7 เซียน ตำนานนักตบลูกยางสาวอย่างเป็นทางการ นับเป็นการปิดฉากบทบาทของนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยอย่างสมบูรณ์และสวยงาม แม้มันจะสร้างความใจหายให้กับเหล่าบรรดาแฟนวอลเลย์บอลจำนวนมาก ที่ติดตามผลงานของพวกเธอมาเป็นเวลายาวนานไม่น้อยเลยก็ตาม

รายชื่อ 7 เซียน นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย

• "กิ๊ฟ" วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์
• "หน่อง" ปลื้มจิตร์ ถินขาว
• "นุช" นุศรา ต้อมคำ
• "อร" อรอุมา สิทธิรักษ์
• "ปู" มลิกา กันทอง
• "แจ็คกี้" อำพร หญ้าผา
• "นา" วรรณา บัวแก้ว

6. "โปรเหมียว-โปรจีน" ผงาดกวาดรางวัล .. เหมาดาวรุ่งแห่งปี จากทั้ง 2 ทัวร์

วงการกอล์ฟโลก ต้องหันมาจับตามองที่โปรสาวไทยอีกครั้งในปี 2021 เมื่อมีดาวรุ่งพุ่งแรงถึง 2 คน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในฝั่งของ แอลพีจีเอ ทัวร์ (LPGA Tour) และ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ (Ladies European Tour) จนสามารถขึ้นมาแจ้งเกิดในการแข่งขันระดับโลกได้อย่างเต็มตัว

เริ่มต้นด้วย "โปรเหมียว" หรือ "โปรแพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ โปรสาวไทย วัย 22 ปี ที่สร้างความตกตะลึงให้กับ แอลพีจีเอ ทัวร์ ด้วยการคว้าแชมป์ใหญ่ ในรายการระดับเมเจอร์อย่าง เอเอ็นเอ อินสปิเรชั่น (ANA Inspiration) ได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งนับเป็นโปรสาวคนที่ 2 ของไทย ที่คว้าแชมป์เมเจอร์ได้ ต่อจาก "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นอกจากนั้น เธอยังรักษาฟอร์มการเล่นในปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นโปรสาวที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในรายการระดับเมเจอร์ ทั้ง 5 รายการ ทำให้คว้ารางวัล โรเล็กซ์ แอนนิกา เมเจอร์ อวอร์ด (Rolex Annika Major Award) ไปครอง

ไม่เพียงเท่านั้น โปรเหมียว ยังได้รับรางวัล ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 หรือ รุกกี้แห่งปี 2021 (Louise Suggs Rolex Rookie of the Year award) ของฝั่ง แอลจีพีเอ ทัวร์ อีกหนึ่งรางวัล จากการเป็นนักกอล์ฟหญิงที่ทำผลงานดีที่สุด ในการลงแข่งขันเป็นปีแรก หลังจบใน 10 อันดับแรกได้ถึง 10 รายการ จากทั้งหมด 19 รายการ ทำให้โปรเหมียวที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 13 ของโลก ถือเป็นนักกอล์ฟระดับหัวแถวของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ไปแล้วในเวลานี้

ถัดมาที่โปรสาวรุ่นน้อง ที่ฟอร์มร้อนแรงไม่แพ้กันอย่าง "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล โปรสาวมหัศจรรย์ วัยเพียง 18 ปี ที่เพิ่งจะเทิร์นโปร พร้อมลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ต่างประเทศอย่างจริงจังเป็นปีแรก แต่กลับระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด ด้วยการคว้าแชมป์ 2 รายการ ได้แก่ ทิปสปอร์ต เช็ก เลดี้ส์ โอเพ่น (Tipsport Czech Ladies Open) และ วีพี แบงค์ สวิส เลดี้ส์ โอเพ่น (VP Bank Swiss Ladies Open) รวมทั้งการจบใน 10 อันดับแรกได้ถึง 14 รายการ จนทำเงินรางวัลได้สูงสุดของ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ พร้อมซิวรางวัลแห่งปีไปถึง 3 รางวัล

เริ่มต้นด้วยการคว้ารางวัล เรซ ทู คอสต้า เดล โซล (Race to Costa del Sol) หรือ ตำแหน่งมือ 1 ของ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 2021 โดยทำสถิติเป็นนักกอล์ฟหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัลนี้ ตามด้วยรางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 หรือ รุกกี้แห่งปี 2021 (Rookie Of the Year) ของ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ นอกจากนั้นโปรจีนยังได้รับการโหวตจากนักกอล์ฟในทัวร์ให้คว้ารางวัล นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี (Players’ Player of the Year) ไปครองอีกหนึ่งรางวัล

จากผลงานอันยอดเยี่ยม ทำให้เธอขยับขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิง มืออันดับ 19 ของโลก พร้อมคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเป็นเวทีสูงสุดของนักกอล์ฟหญิง ในฤดูกาล 2022 ได้อีกด้วย

7. ห้ามจัดแข่งกีฬา และห้ามใช้ธงชาติ .. ประเทศไทย โดนโทษแบนจาก วาด้า

กลายเป็นประเด็นอันร้อนแรง ที่สั่นสะเทือนวงการกีฬาไทยไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อ องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาด้า (WADA) ออกคำสั่งลงโทษแบนประเทศไทย ทั้งการห้ามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา ในรายการระดับภูมิภาคและนานาชาติ รวมทั้งห้ามเชิญธงชาติขึ้นเสา หากได้แชมป์ในการแข่งขันต่างๆ เป็นเวลา 1 ปี หรือมากกว่านั้น นับตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมเป็นต้นมา หลังไม่ปฏิบัติตามกฎของวาด้า โดยนอกจากไทยแล้ว ยังมี อินโดนีเซีย และ เกาหลีเหนือ ที่ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน

สำหรับ ประเทศไทย ถูกระบุความผิดไว้ว่า ไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญสารกระตุ้นของวาด้า ในด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดย "บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555 ของไทย มีประเด็นสำคัญบางประการที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของวาด้า ซึ่งหลักใหญ่ใจความ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแยกหน่วยงานตรวจสารต้องห้ามออกมาเป็นองค์กรอิสระ เรื่องช่วงเวลาที่สามารถตรวจสารต้องห้าม รวมทั้งฐานความผิดต่างๆ

จากเหตุดังกล่าว ทำให้ธงชาติไทย ไม่ได้ถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาในการแข่งขันทุกรายการ เริ่มตั้งแต่การแข่งขัน มวยสากลชาย ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศเซอร์เบีย ต่อด้วยศึกยกน้ำหนัก ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ก่อนจะกลายเป็นกระแสอย่างหนักในศึกแบดมินตัน ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศสเปน ที่ บาส-ปอป้อ คู่ผสมมือ 1 ของโลก สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้ แต่ในช่วงพิธีรับมอบเหรียญรางวัล กลับกลายเป็นธงสัญลักษณ์ของ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่ถูกชักขึ้นแทนที่ของธงชาติไทย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนกีฬาชาวไทยเป็นอย่างมาก

กระทั่งล่าสุด ดร.ก้องศักด ผู้ว่าการ กกท. ก็ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าในประเด็นร้อนนี้ว่า ขณะนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแล้ว และคาดว่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของวาด้าได้ในเดือนมกราคม 2565 จากนั้น รัฐบาลไทย และ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ จะรีบทำหนังสือแจ้งไปยัง วาด้า เพื่อขอให้ทำการปลดโทษแบนต่อไป แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า วาด้า จะปลดแบนให้ทันทีเลยหรือไม่

8. ซิวเหรียญทองแดง .. ทีมขนไก่สาวไทย คว้าที่ 3 ร่วม ศึกชิงแชมป์โลก อูเบอร์ คัพ

นับเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่สร้างความสุขให้กับแฟนกีฬาชาวไทยได้แบบต่อเนื่อง สำหรับศึกแบดมินตัน ชิงแชมป์โลก ทั้งการแข่งขันในประเภททีมผสมอย่าง สุธีรมาน คัพ 2021 ที่ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งทีมขนไก่ไทย ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายให้กับ เกาหลีใต้ ไปแบบฉิวเฉียด 2-3 คู่ รวมทั้งศึกชิงแชมป์โลก ประเภททีมชายอย่าง โธมัส คัพ 2020 และประเภททีมหญิงอย่าง อูเบอร์ คัพ 2020 ที่ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งถูกเลื่อนการแข่งขันจากปีก่อน มาแข่งขันกันในปีนี้

โดยศึก อูเบอร์ คัพ 2020 ในช่วงเดือนตุลาคม ทีมนักตบลูกขนไก่สาวทีมชาติไทย สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ สำหรับการแข่งขันในรอบแรก สาวไทยโชว์ฟอร์มเก่ง ไล่ตบเอาชนะ สกอตแลนด์, สเปน และ อินเดีย ไปแบบขาดลอย 5-0 คู่ ทั้ง 3 แมตช์ ทำให้ ทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม B ต้องโคจรมาพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม A

เกมการแข่งขันระหว่าง ไทย กับ อินโดนีเซีย เป็นไปอย่างสนุกสูสี ต่างฝ่ายต่างก็ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ ฝั่งละ 2 คู่ โดย ไทย ชนะในประเภทหญิงเดี่ยว มือ 1 และ มือ 2 ส่วน อินโดนีเซีย ก็กลับมาเอาชนะในประเภทหญิงคู่ได้ ทั้ง 2 มือเช่นกัน จนทำให้ต้องมาตัดสินกันในคู่สุดท้าย โดยผลปรากฏว่าเป็น พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ซึ่งลงแข่งขันในประเภทหญิงเดี่ยว มือ 3 ที่เป็นฝ่ายเอาชนะ เอสเทอร์ นูรูมิ ตรี วาร์โดโย่ ไปได้ 2-0 เกม ทำให้ทัพนักแบดมินตันหญิงไทย เฉือนชนะ อินโดนีเซีย 3-2 คู่ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

แม้ว่าในรอบตัดเชือก สาวไทยจะต้านทานความแข็งแกร่งของ ทีมชาติจีน ไม่ไหว พ่ายไป 0-3 คู่ แต่การคว้าเหรียญทองแดง หรือ อันดับ 3 ร่วม ก็นับเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นใจของวงการแบดมินตันไทยอีกครั้งหนึ่งแล้ว

รายชื่อนักแบดมินตันหญิงทีมชาติไทย ชุดเหรียญทองแดง อูเบอร์ คัพ 2020

รัชนก อินทนนท์, พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์, บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ, ศุภนิดา เกตุทอง, รวินดา ประจงใจ, จงกลพรรณ กิตติธรากุล, ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, พุธิตา สุภจิรกุล, นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด, เบญญาภา เอี่ยมสอาด และ ศุภิสรา เพียวสามพราน

9. ความสูญเสียของนักกีฬาไทย .. การจากไปของ คุณแม่ "เมย์ รัชนก" และ คุณพ่อ "ตอง กวินทร์"

เป็นอีกครั้งที่วงการกีฬาไทยต้องพบกับเรื่องเศร้า กับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของนักกีฬาชื่อดัง เริ่มต้นที่วงการแบดมินตัน หลังจบศึก โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เพียงไม่นาน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม "เมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงมือ 1 ของไทย วัย 26 ปี ก็ต้องพบกับเหตุการณ์สุดช็อก แบบไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ เมื่อ คุณแม่คำผัน สุวรรณศาลา ได้จากไปอย่างกะทันหัน ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากเกิดอาการหายใจไม่ออก ขณะอาศัยอยู่ที่บ้าน นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจให้ รัชนก และแฟนกีฬาชาวไทย เป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ เมย์ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าก้าวไปสู่ความฝันที่ตัวเองและคุณแม่ตั้งไว้ต่อไป รัชนก เริ่มกลับมาเข้มแข็ง ก่อนจะลงทำการแข่งขันอีกครั้ง จนในที่สุดก็สามารถกลับขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยม ด้วยการคว้ารองแชมป์ รายการ ซิมอินเวสต์ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2021 ในเดือนพฤศจิกายนได้สำเร็จ

ถัดมาในช่วงปลายปี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ในระหว่างที่ ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เตรียมตัวจะลงทำการแข่งขันศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ประเทศสิงคโปร์ ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์อย่าง "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ก็ได้รับข่าวร้าย เมื่อต้องสูญเสีย คุณพ่อประมวล ธรรมสัจจานันท์ ไปอย่างไม่มีวันกลับ ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนร่วมทีมชาติไทย และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช

แม้จะรู้สึกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง แต่ กวินทร์ ก็ยังยืนยันว่า จะอยู่กับทีมต่อไป จนจบทัวร์นาเมนต์ โดยในเกมนัดดังกล่าว เขาได้รับโอกาสให้ลงเฝ้าเสาในฐานะตัวสำรองในนาที 75 ซึ่งนับเป็นการลงสนามเป็นเกมแรกในศึก ซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ กระทั่งหลังจบเกม นายด่านวัย 31 ปี ก็ได้โพสต์ข้อความถึงคุณพ่อว่า..

"ดีใจและภูมิใจมากที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อ พ่อเสียสละเพื่อครอบครัวมาตลอด ถึงเวลาที่พ่อจะได้พักผ่อนแล้ว ขอให้พ่อไปอยู่บนสวรรค์อย่างมีความสุขนะครับ รักพ่อมากนะ #ธรรมสัจจานันท์"

เชื่อแน่ว่า ถึงตอนนี้คนไทยก็ยังคงเป็นกำลังใจให้ เมย์ และ ตอง ให้ข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ และรอคอยที่จะได้เห็นเธอและเขาประสบความสำเร็จในสนามแข่งขันอย่างที่ตั้งใจอีกครั้ง

10. ว่าที่เจ้าแห่งอาเซียน .. มาดามแป้ง-มาโน่ กอบกู้ศรัทธาบอลไทย

หลังจากที่ทัพช้างศึก ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในศึกคัดบอลโลก เมื่อช่วงกลางปี จนต้องแยกทางกับเฮดโค้ชอย่าง อากิระ นิชิโนะ ไป สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ได้ทำการแต่งตั้ง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ให้เข้ามารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จากนั้นจึงได้ประกาศตั้ง มาโน่ โพลกิ้ง เป็น หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ โดยมีเป้าหมาย คือการทวงแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่เลื่อนมาแข่งขันในช่วงปลายปีนี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ กลับมาให้ได้

อย่างไรก็ดี แม้จะมีเวลาเตรียมทีมไม่มากนัก ก่อนจะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทัพช้างศึกในยุคของโค้ชมาโน่ ที่มี มาดามแป้ง คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ก็เดินหน้าคว้าชัยชนะได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งยังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเกม ทำให้พวกเขาจบรอบแรก ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A จากการชนะ 4 นัดรวด ยิงได้ 10 ประตู โดยเสียไปเพียงลูกเดียวเท่านั้น โดยทัพช้างศึก ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปปะทะกับคู่ปรับสำคัญอย่าง ทีมชาติเวียดนาม ที่พลาดท่าเป็นเพียงอันดับ 2 ของกลุ่ม B

ศึกแห่งศักดิ์ศรีในนัดแรก เป็นไปอย่างสนุกดุเดือด เมื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม ต่างฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทว่าสุดท้าย "กัปตันเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็เหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ ไทย เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อน 2-0 จากนั้นในเกมที่สอง แม้ เวียดนาม จะพยายามโหมบุกอย่างหนัก เพื่อหวังเอาประตูคืน แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ ทัพช้างศึกเล่นเกมรับด้วยความอดทน จนรักษาสกอร์ 0-0 เอาไว้ได้ ทำให้รวมผล 2 นัด ทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 2-0 เขี่ยแชมป์เก่าตกรอบไปแบบสะใจคนไทยทั้งประเทศ

ทัพช้างศึก ทะลุเข้าสู่รอบชิงไปพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่เอาชนะเจ้าภาพอย่าง ทีมชาติสิงคโปร์ มาได้ โดยศึกชิงดำ นัดแรก ในวันที่ 29 ธันวาคม ปรากฏว่า แข้งไทยต่างพากันระเบิดฟอร์มสุดยอด ไล่ถล่ม อินโดนีเซีย ไปแบบขาดลอยถึง 4-0 มาจนถึงจุดนี้ เรียกได้ว่าคงไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดแล้ว อีกเพียง 90 นาทีเท่านั้น ถ้วยแชมป์อาเซียน ที่คนไทยรอคอยก็จะกลับคืนมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง

วันที่ 1 มกราคม 2022 ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง กับ อินโดนีเซีย เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ทัพนักเตะและทีมงาน นำโดย มาดามแป้ง ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะพา ทีมชาติไทย กลับไปครองบัลลังก์เจ้าแห่งอาเซียนให้ได้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ฉะนั้นในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ คงต้องขออนุญาตเน้นย้ำแฟนกีฬาชาวไทยที่รักกันอีกครั้งว่า อย่าลืมเปิดจอมารอเฮ และร่วมกันฉลองแชมป์อาเซียน สมัยที่ 6 ของขวัญสุดพิเศษ ที่ทัพช้างศึกมอบให้กับพวกเราทุกคนไปพร้อมกันนะครับ!

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 10 เหตุการณ์สำคัญแห่งปี 2021 ที่ผมได้รวบรวมมานำเสนอให้กับแฟนกีฬาทุกท่าน ปีนี้นับเป็นอีกปีที่นักกีฬาของไทยส่วนใหญ่ต่างทำผลงานได้เป็นอย่างดี และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก หวังว่าปีหน้า ฟ้าใหม่ จะเป็นปีที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปของวงการกีฬาไทย แล้วเรามาร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้นักกีฬาของเรากันต่อนะครับ สุดท้ายนี้ ก่อนจะลากันไป คงต้องขอกล่าวว่า "สวัสดีปีใหม่ครับ"

"เอกกี้รีพอร์ต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 10 เหตุการณ์สำคัญแห่งวงการกีฬา ปี 2020
• 10 เหตุการณ์สำคัญแห่งปี 2018 ของวงการกีฬาไทย ... by "เอกกี้รีพอร์ต"

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะ ตามประสาคนรักกีฬากันได้ที่ TrueID Community คลิกเลย!