เปิดพรีเมียร์ลีกมาได้สองสัปดาห์หงส์แดงลิเวอร์พูลยังไร้พ่าย เป็นการเปิดฤดูกาลที่ไม่เลวแม้ว่าเกมแรกจะทำได้เพียงเสมอกับสิงห์บลู 1 – 1 แต่นั่นก็เป็นการแบ่งแต่ทีมใหญ่ด้วยกัน ซึ่งไม่เสียหายอะไร แต่สิ่งที่ตอนนี้กำลังโดนเพ่งเล็งก็คือเรื่องของการปรับตำแหน่งของ โคดี้ กัคโป ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ตำแหน่งที่เจ้าตัวถนัดเชื่อว่าสาวกหงส์แดงก็น่าจะพอรู้สาเหตุกันมาบ้างว่าทำไมจากตำแหน่งหน้าซ้าย ถึงได้ถูกย้ายมาเล่นเป็นหนึ่งในสามแดนกลางซะอย่างนั้น ตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา แต่สำหรับคนที่ยังไม่ทราบก็จะพาไปแถลงไขกันถึงที่มาที่ไป รวมไปถึงสิ่งที่ยังคาใจกับการที่ถูกเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว ฟอร์มถึงได้หายเข้ากลีบเมฆไปแบบนั้นสาเหตุที่ โคดี้ กัคโป ถูกเปลี่ยนตำแหน่งสาเหตุหลักของการเปลี่ยนตำแหน่งของศูนย์หน้ารายนี้ ก็มาจากเจ้าตัวเองดันไปบอกกับบอสJK ว่า “เฮียครับ ผมสามารถเล่นแดนกลางได้นะ” ในช่วงก่อนปรีซีซัน ซึ่งในเวลานั้นเฮียแกก็รู้ชะตากรรมว่านักเตะแดนกลางตัวหลัก จะต้องอำลาทีมไปเกือบยกแผงอยู่แล้ว ฉะนั้นการได้นักเตะที่เคยเล่นมาครึ่งฤดูกาล แถมยังลงสนามมาตลอดแบบนี้ แล้วเจ้าตัวก็ยืนยันว่าเล่นได้ มีหรือที่จะไม่ลองดู ทำให้ในช่วงปรีซีซันทำให้เจ้าตัวเองต้องหลีกทางหน้าซ้าย ให้กับ หลุยส์ ดิอาส แล้วลงมายืนสามแดนกลางซึ่งผลงานก็ออกมาได้ดีเกินคาด แม้ว่าจะทำประตูไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ แต่การเชื่อมบอลแดนกลางกลับทำได้ดีพอสมควร แต่เมื่อมีข้อดีก็มีข้อเสีย นั่นก็คือการปะทะ การเอาบอลคืน หรือการแย่งบอลกลับมา แฟนบอลต่างลงความเห็นกันว่าไม่ผ่าน แต่ทำไงได้ในเมื่อได้ลงแล้ว อีกทั้งนายใหญ่ก็อยากลองของ ก็ลองกันให้เต็มสูบไปเลยแล้วกันเมื่อเข้าสู่พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024 เกมแรกที่เจอกับเชลซี เจอร์เกน คล๊อปป์ ก็จัดให้ตามคำขอด้วยส่งไปยืนสามประสานแดนกลางร่วมกับ โซบอสไลซ์ , แมคอลิสเตอร์ และ โคดี กัคโป ต่อมาในเกมที่เจอกับบอร์นมัธ ก็ได้เล่นในแดนกลางอีกครั้ง นี่ยิ่งตอกย้ำว่าคิดผิดมหันต์ ด้วยสถิติตลอดทั้ง 2 เกม อัตราการผ่านบอลสำเร็จอยู่ 19 ครั้ง คิดเป็น 78.9 % เท่านั้น ยังไม่หมดเท่านั้นตลอดสองเกมที่ผ่านมา จังหวะผ่านบอลแบบครอสบอล ก็ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียว จากการลงเล่นไปทั้งหมด 128 นาที ในฤดูกาล 2023 – 2024เมื่อเล่นไม่ได้ทำไมยังจับยัดแดนกลางเหตุผลง่าย ๆ เพียงอย่างเดียวสำหรับคำถามนี้ก็คือ ด้วยประสบการณ์ล้วน ๆ เพราะหากไปเทียบกับ ฮาร์วี่ เอลียต หรือ เคอร์ติส โจนส์ อย่างน้อยการส่ง โคดี้ กัคโป ก็ยังพอมีประโยชน์ในเกมรุกได้บ้าง รวมไปถึง ไหน ๆ ก็ได้ลองแล้วก็เอาให้สุดอย่างน้อยก็ 3 – 5 เกมไปก่อน อนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ให้ได้ลงต่อเนื่องได้เคาะสนิม เพราะอย่าลืมว่าการที่ลิเวอร์พูลที่ได้ศูนย์หน้ารายนี้มาเมื่อเดือนมกราคม ด้วยสาเหตุที่ว่า หลุยส์ ดิอาส เจ็บ ซาดิโอ มาเน่ ย้าย ทำให้ตำแหน่งหน้าซ้ายก็ต้องหาคนมาแทนที่ แล้วเมื่อตัวจริงหายเจ็บกลับมา เพื่อให้ได้ใช้งานคุ้มสมกับที่ซื้อ ก็ต้องเข็นลงและหาตำแหน่งให้เล่นไปก่อน ค่อยไปปรับจูนเอาทีหลังเพราะนี่ไม่ใช่นักเตะคนแรกที่เจอร์เกน คล๊อปป์ จับเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะ ใช่แล้วครับอีกคนก็คือ เทรนอเล็ก ซานเดอร์ อาร์โนล นั่นเอง ที่ตอนนี้มักจะถูกจับยัดไปเล่นตรงกลาง แม้ว่าในหลายเกมจะเล่นดี แต่ในหลายครั้งก็ดูจะไม่ถูกจริตเท่าไหร่ คำถามต่อมาอีกนานแค่ไหนที่นายใหญ่หงส์แดงจะลงตัวกับตำแหน่งแดนกลาง บอกได้ตรงนี้เลยว่าหลังจากนี้ 5 เกม เพราะหากการอุทธรณ์ของ แม๊ค อลิสเตอร์ไม่ผ่าน กองกลางจะกลายเป็น วาตารุ เอนโด๊ะ , โซบอสไลซ์ และ โคดี้ กัคโป แล้วทำไมไม่ดร๊อปไว้สำหรับเปลี่ยนเกมคำถามที่หลายคนที่เป็นสองดาวรุ่งสายเลือดหงส์แดง มักจะถามขึ้นมาในตอนนี้ว่า ในเมื่อเล่นไม่ได้ก็ดร๊อปไปเลย แล้วใส่ เคอร์ติส โจนส์ หรือ ฮาร์วี่ เอเลียต ลงมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อใช้ในอนาคตดีกว่า งั้นถามกลับหากคุณเป็นผู้จัดการทีมระดับนี้ จะกล้าเสี่ยงกับดาวรุ่งหรือไม่ ? ใช่ครับต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีใครกล่า เพราะด้วยความกดดัน จากทีมที่ระดับบิ๊กซิก แถมแบกความคาดหวังจากแฟนบอล การที่จะใช้นักเตะที่มีประสบการณ์ กระดูกที่แข็งกว่า ก็ดีกว่าที่จะเสี่ยงแบบนั้นอีกอย่างหากจะดร๊อปไว้เปลี่ยนเกม ม้านั่งสำรองก็มีทั้ง ดาร์วิน นูเญช และดาวรุ่งจอมพริ้วอย่าง เบน โด๊ก ที่นายใหญ่หงส์แดงที่มักจะให้โอกาสอยู่บ่อย ๆ จะให้นั่งสำรองแบบนั้นก็เสียของ ฉะนั้นให้ลงมาเพื่อให้ชินตำแหน่งที่เจ้าตัวเอ่อว่าถนัดจะไม่ดีกว่าหรือ การที่จะให้นั่งเตะคนหนึ่งที่เคยเป็นตัวหลักนั่งสำรอง มันไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อจิตใจนักเตะในเชิงบวกสักเท่าไหร่ เพราะต้องให้โอกาสนั่งเตะได้สร้างความมั่นใจและสร้างคุ้นเคยกับตำแหน่งใหม่ไปด้วยในตัวแต่สิ่งที่ต้องชื่นชมลิเวอร์พูลก็คือการหานักเตะมาสำรองใช้งาน ได้ครบแทบจะทุกตำแหน่งในฤดูกาลนี้ ขาดแต่เพียงกองหลังเท่านั้น ที่ยังดูจะยึดมั่นในตัวหลัง แต่ถึงอย่างไรในเมื่อตลาดนักเตะยังปิดตัวลง อาจจะมีเซอร์ไพรส์สายฟ้าแลบในตำแหน่งแผงหลังก็เป็นได้ อีกทั้งยังต้อให้กำลังใจ โคดี้ กัคโป ให้โชว์ฟอร์มเก่งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024 นี้ให้ได้ เพื่อเป้าหมายกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเหมือนที่เจ้าตัวได้ปรามาสไว้เมื่อตอนต้นฤดูกาลข่าวที่เกี่ยวข้องส่องสถิติ ลิเวอร์พูล ดับ สเปอร์ส หลังเกมพรีเมียร์ลีกที่สุดจะเหลือเชื่อลิเวอร์พูล vs แมนยู กับ 5 เหุตผลง่าย ๆ ปีศาจแดงจะย้ำชัยแดงเดือดที่แอนฟิลด์วิเคราะห์ปัญหา ลิเวอร์พูล วางแผนผิด หรือคิดสละเรือ โอกาสจบท็อปโฟร์ที่เลือนลางมัดรวม 5 นักเตะเป้าหมายลิเวอร์พูล ไล่ล่าความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกอาร์เซนอล Vs ลิเวอร์พูล รวมประเด็นเด็ดก่อนเกม บทพิสูจน์สองโคตรทีมที่ต่างกันเครดิตภาพประกอบ premierleague.com :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2เครดิตภาพประกอบ premierleague.com :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 , facebook.com/TrueIDSports :: ภาพที่ 2ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !