
นิ้วล็อกเพราะอะไร รวมวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นที่ทำได้ทันที ช่วยให้มือกลับมาใช้งานได้ปกติ

ผู้ชายในวัยทำงาน หรือแม้กระทั่งสายเกมส์เมอร์ อาจเคยเจอปัญหาอาการนิ้วล๊อก อาการนี้สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตไม่น้อย แล้วสาเหตุของการเกิดนิ้วล๊อกเกิดจากอะไร สามาถบรรเทาอาการเบื้อต้นด้วยตัวเองได้อย่างไร วันนี้ TrueID Sport จะมาไขข้อข้องใจพร้อม วิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นที่ทำได้ทันทีให้คุณได้รู้กัน
นิ้วล็อกเพราะอะไร รวมวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นที่ทำได้ทันที
ช่วยให้มือกลับมาใช้งานได้ปกติ
โรคนิ้วล็อกคืออะไร
โรคนิ้วล็อก หรือมีชื่อทางการแพทย์ว่า Stenosing Tenosynovitis คือภาวะที่นิ้วมือหรือนิ้วโป้งของคุณเกิดอาการล็อก งอค้าง และไม่สามารถเหยียดออกได้เอง ภาวะนี้มีสาเหตุมาจากการอักเสบและบวมของปลอกหุ้มเอ็น ซึ่งเป็นเหมือนอุโมงค์ที่ห่อหุ้มและช่วยให้เส้นเอ็นเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น เมื่อปลอกหุ้มเอ็นอักเสบจะทำให้เส้นเอ็นไม่สามารถเคลื่อนผ่านได้สะดวก จึงเกิดอาการสะดุด ดัง หรือล็อกได้ นอกจากนี้ บางครั้งอาจพบก้อนนูนเล็กๆ บนเส้นเอ็น ซึ่งยิ่งทำให้การเคลื่อนที่ของเอ็นติดขัดมากขึ้นไปอีก
กิจกรรมอะไรบ้างที่เสี่ยงเกิดนิ้วล๊อก
โรคนิ้วล็อก โดยหลักแล้วมีสาเหตุมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การใช้งานมือซ้ำๆ ปัญหาสุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุหรือเพศ ซึ่งมีรายละเอียดแยกย่อยออกไปดังนี้
1. อาชีพและงานอดิเรกที่มีความเสี่ยง
กิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้การกำ บีบ หรือจับสิ่งของด้วยนิ้วและนิ้วโป้งซ้ำๆ เป็นเวลานาน จะทำให้เส้นเอ็นเกิดการอักเสบและบวมได้ง่าย อาชีพและกิจกรรมที่พบบ่อยได้แก่:
- งานที่ต้องใช้แรงงาน: เช่น เกษตรกร คนงานก่อสร้าง และคนงานโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เครื่องมือหนักหรือเครื่องจักรที่มีการสั่นสะเทือน
- งานในสายการผลิต: ที่ต้องใช้มือและนิ้วทำงานซ้ำๆ เช่น การประกอบหรือบรรจุชิ้นส่วน
- อาชีพอื่นๆ: เช่น คนขายเนื้อที่ต้องใช้มีดแรงๆ, ช่างทำผมที่ต้องใช้กรรไกรต่อเนื่อง, หรือนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีประเภทเปียโนหรือเครื่องสายที่ต้องขยับนิ้วซ้ำๆ
- งานอดิเรกและกีฬา: เช่น การทำสวน, การเล่นกีฬาแร็กเก็ต (เทนนิส, แบดมินตัน, ปิงปอง), การปีนหน้าผา, การถักนิตติ้ง รวมถึงการใช้งานเมาส์หรือพิมพ์คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่มีการพัก
2. โรคประจำตัว
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่างจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนิ้วล็อกได้ง่าย เนื่องจากโรคเหล่านี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเส้นเอ็นและข้อต่อในร่างกาย
- โรคเบาหวาน: เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคนิ้วล็อก เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเวลานานอาจทำให้เส้นเอ็นและเนื้อเยื่อโดยรอบหนาตัวขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง
- โรคข้ออักเสบ: เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเกาต์ ที่ทำให้ข้อต่อและปลอกหุ้มเอ็นเกิดการอักเสบและบวม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เส้นเอ็นไม่สามารถเคลื่อนผ่านปลอกหุ้มได้อย่างราบรื่น
- ภาวะอื่นๆ: เช่น โรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ หรือกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่ข้อมือ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเส้นเอ็นและเส้นประสาท ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคนิ้วล็อกเพิ่มขึ้น
3. ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ
ปัจจัยเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรง แต่ก็เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคนิ้วล็อกให้สูงขึ้นได้ โรคนิ้วล็อกมักพบมากที่สุดในคนที่มีอายุระหว่าง 40 - 60 ปี ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย หากเคยได้รับบาดเจ็บที่โคนนิ้วหรือฝ่ามือมาก่อนก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้
วิธีบรรเทาอาการและดูแลโรคนิ้วล็อกเบื้องต้น
หากคุณมีอาการนิ้วล็อก การดูแลตัวเองเบื้องต้นจะช่วยลดความเจ็บปวดและทำให้อาการดีขึ้นได้ด้วยวิธีดังนี้
1. พักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สิ่งสำคัญที่สุดคือการ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น การกำหรือจับสิ่งของแน่นๆ และการใช้เครื่องมือที่มีแรงสั่นสะเทือน หากงานหรือกิจกรรมอดิเรกของคุณเป็นสาเหตุ ลองปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เช่น ใช้ถุงมือแบบมีเบาะรองหรือเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อช่วย ลดแรงกดที่มือ
2. ใช้อุปกรณ์ดามนิ้ว
การใช้อุปกรณ์ดามจะช่วยให้เส้นเอ็นที่อักเสบได้พักและฟื้นตัว โดยเฉพาะ การใส่ในตอนกลางคืนขณะนอนหลับ จะช่วยให้นิ้วอยู่ในท่าเหยียดตรงและลดอาการนิ้วล็อกได้ คุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์สำเร็จรูปได้ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำอุปกรณ์แบบเฉพาะสำหรับคุณ
3. บริหารนิ้วมือเบาๆ
การออกกำลังกายยืดเหยียดฝ่ามือและนิ้วเป็นประจำจะช่วยรักษาความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นและป้องกันไม่ให้มันแข็งตัว
- ท่ากางนิ้วมือ
วางมือไว้ข้างหน้าโดยหงายฝ่ามือขึ้น จากนั้นค่อย ๆ กางนิ้วออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ฝืน ค้างไว้สักครู่แล้วคลายกลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง ท่าแตะนิ้วสลับ
เริ่มจากคว่ำฝ่ามือลง แตะนิ้วทีละนิ้วเข้าหานิ้วโป้งตามลำดับ (นิ้วชี้, นิ้วกลาง, นิ้วนาง, นิ้วก้อย) จากนั้นทำย้อนกลับ ทำอย่างช้า ๆ และตั้งใจ ทำซ้ำ 5-10 ครั้งต่อข้างท่ายืดข้อมือและนิ้ว
ยื่นแขนไปข้างหน้าโดยคว่ำฝ่ามือลง ใช้มืออีกข้างค่อย ๆ ดึงนิ้วมือลงช้า ๆ เพื่อยืดข้อมือและหลังมือ ค้างไว้ 15-30 วินาที จากนั้นกลับทิศทาง โดยชูนิ้วขึ้นแล้วค่อย ๆ ดึงเข้าหาตัว ทำซ้ำกับแขนอีกข้างท่าทำมือเป็นกรงเล็บ
วางมือไว้ข้างหน้าโดยหงายฝ่ามือขึ้น ค่อย ๆ งอนิ้วเข้าหาฝ่ามือจนปลายนิ้วแตะที่โคนนิ้ว ให้คล้ายรูปทรงกรงเล็บ ค้างไว้สักครู่แล้วคลายมือให้เหยียดตรง ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง
4. การประคบ
ประคบร้อน ใช้แผ่นประคบร้อนชื้นหรือแช่มือในน้ำอุ่น เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและ บรรเทาอาการตึง
ประคบเย็น ใช้ถุงน้ำแข็งห่อผ้าประคบครั้งละ 10-20 นาที เพื่อช่วย ลดอาการบวมและการอักเสบ ได้ดีโดยเฉพาะหลังจากใช้งานมือหนัก ๆ
แต่ทั้งนี้หากคุณทำทุกวิธีแล้วไม่ดีขึ้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาได้อย่างตรงจุด
บทความที่คุณอาจสนใจ
- วิธี Hack ร่างกายผู้ชายสายสร้างกล้าม ดูแลตัวเองอย่างไรสร้างกล้ามได้ไว
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย
- รวมท่าปั้นหัวไหล่ผู้ชายเวลาน้อย ภายใน 15 นาที ไหล่สวยได้แม้ไม่มีเวลา
- วิธีกินตาม TDEE สำหรับผู้ชายอยากปั้นกล้าม กินอย่างไรให้ได้ผล
- Warm up กับ Cool down ต่างกันอย่างไรทำไมสำคัญต่อการสร้างกล้าม
- วิธีเลือกดัมเบลสำหรับผู้ชายให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
- รวมท่าออกกำลังกาย Dumbbell Complex เวลาน้อยได้ผลมาก
- รวมท่าฝึกแกนกลางลำตัว แบบไม่หนัก ได้กล้ามสวยแก้ปวดหลัง ทำตามง่าย
- สาเหตุที่ออกกำลังกายหนักแต่ไม่มีกล้าม เปลี่ยนวิธีนี้กล้ามขึ้นแน่
แท็ก
ยอดนิยมในตอนนี้
สิทธิประโยชน์แนะนำ

ยอดนิยมในตอนนี้
สิทธิประโยชน์แนะนำ
