เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับดีลฟ้าผ่ามูลค่า 70 ล้านยูโร (ประมาณ 60 ล้านปอนด์) ที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลจัดการจ่ายค่าฉีกสัญญาไปสอยมาจากแอร์เบ ไลป์ซิก และนักเตะที่ลิเวอร์พูลยอมถึงขั้นจ่ายค่าฉีกสัญญากว่า 70 ล้านยูโรนั่นก็คือ "โดมินิก โซโบอสซ์ไล" กองกลางกัปตันทีมชาติฮังการี เรียกได้ว่าเป็นดีลฟ้าผ่าจริงๆ เพราะว่ามีข่าวพัวพันกันเพียงไม่กี่วันก็ปิดดีลได้เลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งดีลที่ลิเวอร์พูลนั้นสามารถจัดการปิดได้อย่างรวดเร็ว และในบทความนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับมิดฟิลด์หน้าหล่อคนนี้ว่าเป็นใครมาจากไหน ตำแหน่งการเล่นเป็นยังไง ความคาดหวังที่มีต่อเบอร์ 8 คนใหม่ของทีมที่ตัวเองเชียร์จะเป็นยังไง ไปทำความรู้จักกับเขากันเลยครับhttps://www.instagram.com/p/CuMx_lUOasA/ก่อนอื่นผมต้องขออนุญาตบอกก่อนว่าในบทความนี้ผมจะเรียกกองกลางคนใหม่คนนี้ว่า "โดมินิก โซโบซไล" อาจจะไม่ตรงตามที่หลายๆ คนเรียกกันที่เรียกว่า "โซบอสซ์ไล" นะครับ แต่เนื่องจากเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ตอนเปิดตัวกับลิเวอร์พูลแล้วว่าชื่อของเจ้าตัวอ่านว่ายังไง และบางครั้งอาจจะเรียกย่อว่า "โซโบ" นะครับโดมินิก โซโบซไล เกิดที่เมืองซีแกชแฟแฮร์วาร์ (Székesfehérvár) ประเทศฮังการี โซโบซไลเขาเริ่มต้นกับสโมสรในเมืองเกิดอย่างแฟแฮร์วาร์ เอฟซี (Fehérvár FC) ในชุดเยาวชน จนในปี 2017 เอฟซี ลีฟแฟร์ริง ทีมจากประเทศออสเตรียก็ได้ทำการดึงตัวดาวรุ่งวัย 17 ขวบไปร่วมทีม ซึ่งเอฟซี ลีฟแฟร์ริงเหมือนเป็นสโมสรที่เรดบูล ซัลบวร์กนั้นใช้เป็นสถานที่เก็บเลเวลของเหล่าเยาวชนที่เตรียมขึ้นมายังชุดใหญ่ ผลงานกับเอฟซี ลีฟแฟร์ริงนั้นลงเล่นทั้งหมด 42 เกม ยิง 16 แอสซิสต์ 11 ก่อนที่เรดบูล ซัลบวร์กจะดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2018 ด้วยค่าตัวเพียง 5 แสนยูโร และอยู่กับเรดบูล ซัลบวร์กเพียง 3 ปีก็เหมือนขั้นตอนของนักเตะดาวรุ่งหลายๆ คนในยุคนี้ที่มาเรดบูล ซัลบวร์กและสถานีต่อไปมักจะเป็นแอร์เบ ไลป์ซิก เพราะเป็นสโมสรในเครือข่ายเดียวกัน โดยไลป์ซิกนั้นก็ดึงตัวโซโบซไลไปร่วมทีมในปี 2021 ด้วยค่าตัว 22 ล้านยูโร อยู่กับไลป์ซิก 2 ปีก็ได้ย้ายถิ่นฐานอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ย้ายข้ามประเทศมาอยู่กับลิเวอร์พูลเลย สรุปผลงาน 5 ปีกับทั้งเรดบูล ซัลบวร์กและไลป์ซิกนั้นเรดบูล ซัลบวร์ก ลงเล่น 83 นัด ยิง 26 ประตู แอสซิสต์ 34 ครั้งแอร์เบ ไลป์ซิก ลงเล่น 91 นัด ยิง 20 ประตู แอสซิสต์ 22 ครั้งสถิติของโซโบนั้นถือว่าไม่เลวเลยนะสำหรับนักเตะอายุที่ยังไม่พ้นเกณฑ์ดาวรุ่ง แถมยังมีแชมป์ประดับแล้วด้วย โดยได้แชมป์ลีกออสเตรียกับเรดบูล ซัลบวร์ก 4 สมัย และถ้วยเดเอฟเบ โพคาล 2 สมัยกับไลป์ซิกหลายคนอาจจะงงกับจำนวนปีกับจำนวนแชมป์ที่โซโบซไลได้มานะครับ ต้องอธิบายว่าการย้ายทีมจากเอฟซี ลีฟแฟร์ริงไปยังซัลบวร์กและซัลบวร์กไปยังไลป์ซิกนั้นล้วนเกิดขึ้นตอนกลางฤดูกาลทั้งสองครั้ง เขาย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวเดือนมกราคมครับ นั่นจึงทำให้การอยู่ซัลบวร์กนั้นเขาอยู่ 4 ฤดูกาลและอยู่กับไลป์ซิก 3 ฤดูกาลแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก และทำให้เขาได้แชมป์ลีกกับเรดบูล ซัลบวร์ก 4 สมัยสำหรับโซโบซไลนั้นได้ใจเหล่า The Kop ไปตั้งแต่ยังไม่ได้ลงสนามแล้ว เพราะเขาได้สักประโยคๆ นึงเอาไว้ที่บริเวณแขนซ้ายด้วย โดยเจ้าตัวซักเป็นภาษาฮังการีแต่ถ้าหากแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วจะแปลได้ว่า "Talent is a divine blessing, but without incredible will and humility, it is worth nothing" ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยก็คือ "พรสวรรค์คือพรจากพระเจ้า แต่ถ้าหากปราศจากความมุ่งมั่นตั้งใจและความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว มันก็ไร้ค่าไปเลย" โดยประโยคนี้คนที่เป็นคนพูดนั่นก็คือ "สตีเวน เจอร์ราร์ด" อดีตสุดยอดกัปตันและเจ้าของเบอร์ 8 คนก่อนหน้านี้ (ก่อนหน้านาบี เกอิตาอีก) ของลิเวอร์พูล แต่แอบกระซิบบอกก่อนว่าเขามีคริสเตียโน โรนัลโดเป็นนักเตะคนโปรดนะครับ55555555555555555ทีนี้เรามาข้อมูลสถิติต่างๆ เกี่ยวกับโซโบกันดีกว่าครับว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง โซโบนั้นเป็นกองกลางที่เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์ในเกมรุกเลยทีเดียว เพราะว่าเขาสามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรุกตัวกลาง ด้านซ้ายด้านขวาเขาก็เล่นได้เช่นกัน แต่ก็อาจจะไม่เด่นในเรื่องเกมรับมากซักเท่าไหร่ ซึ่งนี่อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องไปปรับกันอีกทีข้อมูลจาก Opta Anlyst ในฤดูกาล 2021/2022 เขาลงเล่นไป 1,536 นาที โดยตำแหน่งส่วนใหญ่จะเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งเล่นไปทั้งหมด 32% จากจำนวนนาทีที่ลงเล่นทั้งหมด รองลงมาคือกองกลางตัวกลางที่เล่นไป 28% ส่วนในฤดูกาลที่เพิ่งผ่านไป (2022/2023) เขาลงเล่นไป 2,452 นาที คราวนี้ตำแหน่งส่วนใหญ่ย้ายมาเล่นในตำแหน่งปีกขวา เพราะเล่นไปถึง 77% จากจำนวนนาทีที่ลงเล่นทั้งหมด รองลงมาคือปีกซ้ายที่เล่นไป 10%ตลอด 2 ฤดูกาลกับไลป์ซิก โซโบนั้นเขาลงเล่นไป 91 นัด เขาทำประตูที่ไม่ได้มาจากจุดโทษรวมกับแอสซิสต์ไป 38 ลูก นอกจากการทำประตูและแอสซิสต์แล้วเขายังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมไปถึง 161 ครั้งซึ่ง 99 ครั้งจากทั้งหมดมาจากการเล่นแบบ Open Play มีเพียงคริสโตเฟอร์ เอนคุนคูที่ทำได้มากกว่า (132 ครั้ง) และโซโบเป็น 1 ใน 14 นักเตะที่สามารถสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างน้อย 100 ครั้ง นับตั้งแต่ฤดูกาล 2021/2022และถึงแม้จะเล่นในตำแหน่งปีกขวาเป็นส่วนใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่โซโบซไลนั้นมีค่า xG ในการแอสซิสต์อยู่ที่ 7.72 เป็นอันดับที่ 5 ของบุนเดสลีกา ซึ่งทิ้งห่างเพื่อนร่วมทีมที่ตามมาอย่างเดวิด รอมที่ทำไป 4.48 และเขารั้งอันดับที่ 4 ของลีกสำหรับนักเตะที่มีส่วนร่วมในการจบสกอร์แบบโอเพน-เพลย์ ทำไป 163 ครั้ง เป็นรองเพียงโจชัว คิมมิช, จามาล มูเซียลาและจู๊ด เบลลิงแฮม และที่น่าสนก็คือ เขามีสถิติในการยิงและสร้างสรรค์พอๆ กัน โดยเขามีจังหวะยิงไป 49 ครั้ง และจังหวะสร้างสรรค์โอกาสการยิง 48 ครั้งมาถึงพาร์ทที่เราจะพูดถึงการลงเล่นกับลิเวอร์พูลบ้างดีกว่า ด้วยความที่สามารถเล่นได้ทั้งหมดในตำแหน่งกองกลางที่เล่นเกมรุก ทำให้อาจจะเกิดความน่าปวดเฮดสำหรับเยอร์เกน คล็อปป์ได้เหมือนกันว่าจะจับเขาไปเล่นตำแหน่งไหน เราทราบกันดีว่าระบบการเล่นของลิเวอร์พูลนั้นคือ 4-3-3 ถ้าหากนักเตะฟิตสมบูรณ์ทุกคนตำแหน่งการยืนของกองกลางจะเป็นดังนี้ติอาโก---ฟาบินโญ---เฮนเดอร์สันซึ่งในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ฟาบินโญ่นั้นถือสัมปทานจองเป็นเจ้าของยาวๆ แน่นอนอยู่แล้ว ไหนจะมีสเตฟาน บายเซติชอีกคน นี่ยังไม่รวมพวกนักเตะที่มีข่าวพัวพันอยู่ตอนนี้อีก ทั้งเคเฟรน ตูรามและโรเมโอ ลาเวีย ทำให้ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งน่าจะมีโอกาสได้ลงเล่นน้อยที่สุด ที่น่าสนใจก็คือตำแหน่งกองกลางฝั่งซ้ายและขวา เรามาดูที่ฝั่งขวาก่อนเลยแล้วกัน ฝั่งขวานั้นจะมีเพียงแค่จอร์แดน เฮนเดอร์สันที่ลงเล่นเป็นประจำ อาจจะมีสลับกับฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แต่เจ้าจุกนั้นก็ไม่ค่อยทำผลงานได้ประทับใจเท่าที่ควร และบางครั้งก็โดนจับไปเล่นตำแหน่งปีกขวาแทนที่โม ซาลาห์ หรือบางทีก็โดนจับไปยืนตำแหน่งกองกลางฝั่งซ้ายซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นทั้งสองตำแหน่ง ดังนั้นตำแหน่งนี้โซโบน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดในการเล่น แต่ที่น่าห่วงก็คือ เกมรับของเขานั้นไม่ได้ดีเท่าเกมรุก นั่นจะทำให้การที่จะต้องลงมาเล่นเกมรับซ้อนตำแหน่งเกมรับกาบขวาของทีมที่มีเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์เป็นแบ็คขวานั้นคือจุดที่น่าเป็นห่วง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่กัปตันเฮนโด้ทำได้ดีมาตลอดช่วงที่ทีมฟอร์มดี และเมื่อร่างกายของเฮนโด้ไม่ได้สมบูรณ์แบบเมื่อก่อนทำให้เกมรับฝั่งขวานั้นอ่อนยวบลงไปด้วย ซึ่งถ้าโซโบจะมาเล่นในตำแหน่งนี้เขาจะต้องเล่นทั้งการปั้นเกมรุกและต้องคอยซ้อนเล่นเกมรับ ภาระหนักพอสมควรลองมาดูกองกลางฝั่งซ้ายหน่อย ในฝั่งนี้น่าจะอุ่นใจในเรื่องของเกมรับได้มากกว่าฝั่งขวา เพราะมีทั้งเวอร์จิล ฟาน ไดจ์กและแอนดี โรเบิร์ตสันที่ค่อนข้างชัวร์ในเรื่องของเกมรับมากกว่าเทรนท์ น่าจะทำให้การปั้นเกมรุกไม่ต้องห่วงเกมรับเท่ากับฝั่งขวา แต่ปัญหาก็คือตัวเลือกในตำแหน่งนี้มีเยอะเหลือเกิน เพราะมีทั้งติอาโก, เคอร์ติส โจนส์ และกองกลางคนใหม่อย่างอเล็กซิส แมคอลิสเตอร์ อาจจะตัดติอาโกออกไปได้ อาจจะได้ลงเล่นได้ไม่เยอะมาก เพราะเจ้าตัวมักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด แต่กับอีก 2 คนล่ะ โจนส์ก็เหมือนได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ทำผลงานได้ดีจนเป็นตัวหลักในช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมา ส่วนแมคอลิสเตอร์นั่นก็มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก จะให้มานั่งสำรองก็กะไรอยู่หรือทางออกที่ดีที่สุดคือ สลับฝั่งกันระหว่างแมคอลิสเตอร์กับโซโบ คือให้โซโบย้ายไปเล่นฝั่งซ้ายและสวิตช์แมคอลิสเตอร์มาฝั่งขวา ดังแผนผังนี้โซโบซไล---ฟาบินโญ---แมคอลิสเตอร์ซึ่งแผนนี้น่าจะเป็นแผนที่น่าจะลงตัวที่สุด เพราะในเรื่องของเกมรับนั้นแมคอลิสเตอร์น่าจะช่วยในฝั่งของเทรนท์ได้ดีกว่าโซโบซไล ต้องติดตามชมกันครับว่าคล็อปป์นั้นจะจัดกองกลางลงสนามยังไงให้มันสมดุลกับทั้งตัวทีมและตัวนักเตะ น่าสนใจมากๆและอีกเรื่องที่หลายๆ คนกังวลว่าการซื้อตัวโซโบซไลครั้งนี้มันจะซ้ำรอยเหมือนกับตอนที่ซื้อนาบี เกอิตา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแอนฟิลด์คนเก่าหรือไม่ เพราะเส้นทางอาชีพเหมือนกันมาก อยู่กับเรดบูล ซัลบวร์กแล้วย้ายไปไลป์ซิกและย้ายมาลิเวอร์พูล แถมไม่พอยังเลือกเบอร์ 8 เหมือนกันอีก บอกตรงๆ ผมก็หวั่นๆ กลัวๆ อยู่เหมือนกัน และถ้าหากเราเจาะลึกลงไปในข้อมูลอาการบาดเจ็บ เราจะพบว่าโซโบนั้นเคยมีอาการบาดเจ็บที่ทำให้ต้องพักยาวอยู่เหมือนกัน อาการบาดเจ็บนั้นก็คือ "Adductor Problems" พูดง่ายๆ ก็คืออาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อโคนขาหนีบ ซึ่งตอนแรกผมก็หวั่นใจอยู่เหมือนกัน เพราะไปดูประวัติการรักษาครั้งนี้ เจ้าตัวพลาดการลงเล่นไปถึง 52 เกม หรือ 191 วัน หรือประมาณ 6 เดือน คาบเกี่ยวระหว่างช่วงที่อยู่เรดบูล ซัลบวร์กจนย้ายมาไลป์ซิกเลย มันถือว่ายาวนานมากๆ สำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บhttps://www.youtube.com/watch?v=MOa3zTej3OMแต่พอเมื่อวานผมได้ดูไลฟ์สด MainStand Club Live ของช่อง MainStand Thailand ในช่วงนาทีที่ 9:35 ที่ "พี่กบ" กิตติกร อุดมผลได้พูดถึงเรื่องอาการบาดเจ็บครั้งนี้ของโซโบซไลเหมือนกัน พี่กบได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่า อาการบาดเจ็บ Adductor Problems นี้มันเป็นอาการที่คล้ายๆ กับสเตฟาน บายเซติช กองกลางดาวรุ่งของลิเวอร์พูลที่ฤดูกาลที่ผ่านมาได้รับโอกาสขึ้นมาเล่น และทำผลงานได้อย่างดี แต่ได้รับอาการบาดเจ็บจนต้องปิดเทอมช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมา มันเหมือนเป็นอาการของนักเตะดาวรุ่งที่กล้ามเนื้อนั้นเจริญเติบโตไม่ทันการใช้งานที่หนัก ซึ่ง ณ ตอนนี้โซโบนั้นผ่านการรักษาอาการบาดเจ็บนั้นมาแล้ว และฤดูกาลล่าสุดของเขากับไลป์ซิกนั้นเขาพลาดการลงสนามให้กับทีมเพียงนัดเดียวจากทั้งหมด 46 เกม นั่นค่อนข้างมั่นใจได้ว่าอาการบาดเจ็บที่เคยเจ็บยาวนั้นจะไม่มารบกวนอีกแต่ แต่ทีมงานสตาฟฟ์อาจจะต้องคอยประคบประหงมและจัดโปรแกรมการปรับตัวกับลิเวอร์พูลให้น้องโซโบซะหน่อย เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่านอกจากฟุตบอลอังกฤษที่เล่นกันเร็วและเข้าบอลหนักแล้ว แทคติกของคล็อปป์ต้องใช้พลังงานและพละกำลังที่สูงมากๆ นั่นมันอาจจะทำให้อาการบาดเจ็บนั้นกำเริบขึ้นมาอีก ต้องค่อยๆ ให้โซโบปรับตัวกับทั้งสไตล์ลีกอังกฤษและแทคติกของทีม ผมหวังว่าทีมคงไม่รีบใช้งานโซโบจนหนักเกินไปมาถึงช่วงสุดท้ายของบทความแล้วครับ ผมจะนำภาพการเปิดตัวของโซโบซไลกับลิเวอร์พูลบางส่วนมาให้รับชมกันนะครับ จะได้รับรู้ถึงความหล่อเหลาของกองกลางคนใหม่คนนี้ว่าหล่อเพียงไหน บอกได้เลยว่าหล่อสุดๆจบไปแล้วครับสำหรับบทความที่ผมพาไปทำความรู้จักโดมินิก โซโบซไล กองกลางหน้าหล่อ เจ้าของเบอร์ 8 คนใหม่ของลิเวอร์พูล ความจริงข้อมูลของเจ้าตัวมีเยอะมากครับ แต่อย่างที่เห็นครับว่าแค่นี้ก็เยอะแล้ว ถ้าหากเอามาเพิ่มอีกคงได้อ่านกันตาลายแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ ผมจึงคัดมาเฉพาะข้อมูลที่คิดว่าน่าสนใจและน่าจะสำคัญมาให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันครับ อาจจะติดขัดไปบ้าง เพราะห่างหายกับการเขียนบทความไปนาน ชอบไม่ชอบ ถูกใจไม่ถูกใจยังไงสามารถคอมเมนต์ติชมได้เลยนะครับ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากข้อมูลTransfermark.comOpta AnalystภาพประกอบOfficial Instagram และ Official Facebook ของลิเวอร์พูล, Official Instagram ของโซโบซไล (@szoboszlaidominik), Opta Analyst และ MainStand Thailandภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3-5, ภาพประกอบ 6, ภาพประกอบ 7 ,ภาพประกอบ 8, ภาพประกอบ 9, ภาพประกอบ 10, ภาพประกอบ 11, ภาพประกอบ 12, ภาพประกอบ 13, ภาพประกอบ 14, ภาพประกอบ 15, ภาพประกอบ 16 และภาพประกอบ 17ภาพปกภาพปก 1, ภาพปก 2 และภาพปก 3Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์