
ส่องสนามแข่งขัน SEA GAMES 2025 ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จัดที่ไหน วันไหนบ้าง
หลังห่างหายจากการเป็นเจ้าภาพกว่า 18 ปี ประเทศไทยกำลังจะกลับมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (SEA Games 2025) ระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568
มหกรรมกีฬาที่รวม 11 ชาติจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้ในเวทีเดียว เตรียมเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “Ever Forward ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยในการเป็นผู้นำด้านกีฬา การท่องเที่ยว และมิตรภาพในภูมิภาคอาเซียน
กรุงเทพมหานคร หัวใจแห่งพิธีและสนามประวัติศาสตร์
กรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ถูกวางตัวเป็นศูนย์กลางหลักของซีเกมส์ 2025 โดยจะเป็นที่ตั้งของพิธีเปิด–ปิดอย่างยิ่งใหญ่ ณ ราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาที่เปรียบเสมือนหัวใจของวงการกีฬาชาติไทย
mooinblack / Shutterstock.com
ขณะเดียวกัน เขตปทุมวัน จะเป็นศูนย์รวมของกีฬาหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น
- สนามศุภชลาศัย ใช้สำหรับการแข่งขัน กรีฑา
- อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ จัดการแข่งขัน บาสเกตบอล และ บาสเกตบอล 3x3
- อาคารจันทนยิ่งยง ศูนย์กีฬาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสังเวียนของ เนตบอล
ใน เขตดุสิต กีฬาชนิดเฉพาะทางอย่าง สควอช จะจัดขึ้นที่ สนามวชิราวุธวิทยาลัย ส่วนเขตดินแดงจะมีการแข่งขันฮอกกี้ในร่ม ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง
เรียกได้ว่ากรุงเทพฯ ในครั้งนี้จะไม่ใช่แค่เมืองหลวง แต่คือ “เมืองกีฬาแห่งอาเซียน” ที่ผสานประวัติศาสตร์ ความทันสมัย และพลังแห่งความสามัคคีเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง
สมุทรปราการ ประตูสู่อาเซียนแห่งกีฬา
จังหวัดสมุทรปราการซึ่งตั้งอยู่ติดกรุงเทพฯ จะรับหน้าที่เป็นพื้นที่รองรับกีฬากลางแจ้งหลายประเภท โดยเฉพาะกีฬาทีมที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่และสะดวกต่อการเดินทาง เช่น รักบี้ และ ฟุตบอลรุ่นเยาวชน ที่คาดว่าจะจัดขึ้นในสนามของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC บางนา)
ด้วยทำเลที่เชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิและระบบขนส่งรอบกรุง สมุทรปราการจึงถูกวางให้เป็น “ด่านแรกแห่งการต้อนรับนักกีฬาจาก 11 ประเทศ” และเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของโครงสร้างการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
ปทุมธานี เมืองวิทยาศาสตร์และพลังเยาวชน
ปทุมธานีถูกเลือกให้เป็นศูนย์กลางของการแข่งขันกีฬาประเภทในร่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ตั้งแต่สนามยิมนาสติก วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ไปจนถึงสระว่ายน้ำมาตรฐานระดับสากล
ในซีเกมส์ 2025 ที่นี่จะถูกขนานนามว่า “เมืองกีฬาแห่งการศึกษา” เพราะจะเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้ร่วมเป็นจิตอาสาและเจ้าภาพต้อนรับนักกีฬาต่างชาติ พร้อมสะท้อนภาพลักษณ์ของไทยในฐานะประเทศที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนผ่านกีฬา
ชลบุรี เมืองทะเล กีฬา และการท่องเที่ยว
จังหวัดชลบุรีจะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางหลักของการแข่งขัน โดยเฉพาะกีฬากลางแจ้งและทางน้ำ
สนามสำคัญอย่าง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี จะรองรับการแข่งขัน ฟุตบอลหญิง ฮอกกี้ และกรีฑา
ในขณะที่ชายหาดจอมเทียนและบางเสร่จะถูกปรับให้กลายเป็นสังเวียนของ วอลเลย์บอลชายหาด เรือใบ และ เจ็ตสกี
Samjaw / Shutterstock.com
อีกหนึ่งไฮไลต์คือ สนาม Amata Spring Country Club สนามกอล์ฟระดับโลกในอำเภอพานทอง ซึ่งเคยใช้จัดการแข่งขันรายการเอเชียนทัวร์มาแล้ว จะกลับมาเป็นเวทีกีฬากอล์ฟซีเกมส์อีกครั้ง ภายใต้บรรยากาศเรียบหรูริมทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
ชลบุรีจึงไม่เพียงเป็นเมืองกีฬา แต่ยังเป็น “เมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism)” ที่พร้อมต้อนรับผู้ชมจากทั่วอาเซียนด้วยทะเล วัฒนธรรม และรอยยิ้มแบบไทย
Wittaya Sunbu / Shutterstock.com
สงขลา พลังใต้แห่งศิลปะการต่อสู้
ภาคใต้ของไทยจะมีบทบาทสำคัญผ่านจังหวัดสงขลา ซึ่งรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้หลากหลายชนิด เช่น มวยไทย ยูโด และปันจักสีลัต
สนามหลักคือ สนามติณสูลานนท์ ซึ่งจะใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายในรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงพิธีรองของภาคใต้
ขณะที่ ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (PSU Sports Complex) จะเป็นพื้นที่จัดกีฬาศิลปะการต่อสู้ระดับภูมิภาค โดยมีความพร้อมทั้งสนามแข่งขัน ห้องพักนักกีฬา และระบบรักษาความปลอดภัยระดับมาตรฐาน
สงขลาในครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเมืองเจ้าภาพย่อย แต่คือ “หัวใจแห่งศิลปะการต่อสู้ของอาเซียน” ที่จะส่งต่อพลังใต้ขึ้นสู่เวทีระดับภูมิภาค
ซีเกมส์แห่งความยั่งยืน ใช้สนามเดิม ปรับปรุงใหม่ เพิ่มเทคโนโลยี
ประเทศไทยเลือกแนวทางการจัดงานแบบ Sustainability & Simplicity คือใช้สนามที่มีอยู่แล้วเป็นหลัก เพื่อลดงบประมาณและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ยกระดับมาตรฐานด้วยเทคโนโลยีใหม่ เช่น
- ระบบถ่ายทอดสดความละเอียด 4K
- ระบบตั๋วออนไลน์เชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้ชม
- และศูนย์ข้อมูลกีฬาแบบเรียลไทม์
ทุกสนามจะถูกเชื่อมด้วยโครงข่ายคมนาคมและเทคโนโลยีสื่อสาร เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นเจ้าภาพที่ทั้ง “พร้อม – ประหยัด – ทันสมัย”
ประเทศไทยในบทบาทผู้นำอาเซียนด้านกีฬา
ซีเกมส์ 2025 คือโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพในฐานะ “ศูนย์กลางกีฬาอาเซียน” อีกครั้ง
นอกจากความพร้อมด้านสนามและบุคลากรแล้ว ไทยยังมีจุดแข็งในด้านการบริหารจัดการ ความร่วมมือภาครัฐ–เอกชน และแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ
เมื่อไฟในราชมังคลากีฬาสถานถูกจุดขึ้นอีกครั้ง ธงชาติไทยจะโบกสะบัดเหนืออัฒจันทร์ และเสียงเพลงชาติจะก้องไปทั่วทั้งภูมิภาค สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจที่ประกาศต่อโลกว่า “นี่คือประเทศไทย เจ้าภาพแห่งมิตรภาพ และหัวใจของกีฬาอาเซียน” อย่างแท้จริง
